ครม.ไฟเขียว! ร่าง พ.ร.บ.เกษตรยั่งยืน
นายธีระ วงษ์เจริญ สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติและที่ปรึกษา นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ได้รับทราบข่าวจากนายวิวัฒน์ก็รู้สึกดีใจ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในหลักการ หลังจากนั้นจะนำสู่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดหวังว่าจะเสร็จสิ้นภายในรัฐบาลชุดนี้ ปัจจุบัน การเป็นอยู่ของเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยและถูกโดดเดี่ยวถ้าระบบเกษตรกรรมยั่งยืนเข้ามา รัฐต้องเข้าไปคุ้มครองดูแลในเรื่องของการจัดระบบ ทั้งเกษตรอินทรีย์ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน วนเกษตร เกษตรกรรมรูปแบบอื่น ตลอดจนต้องกำหนดนโยบายและแผนการพัฒนามาจากการมีส่วนร่วมของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" รายงานความเห็นสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว เห็นว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เป็นการกำหนดให้มี "กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรยั่งยืน" โดยส่งเสริมและสนับสนุนในระบบเกษตรยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ ตาม "ศาสตร์พระราชา" อันเป็นหัวใจสำคัญของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-2564) และสอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการสนับสนุนการผลิตภาคการเกษตรไปสู่เกษตรกรรมยั่งยืน รวมถึงเพื่อยกระดับผลิตภาพทางการเกษตรและคุณภาพของเกษตรกรให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ SDGs (Sustainable Deve ; Opment Goals) หรือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นกรอบทิศทางการพัฒนาของโลกภายหลังปี 2558 ที่องค์การสหประชาชาติกำหนด
กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. คณะกรรมการปฎิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน และฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาแล้วเห็นชอบในร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.พ.ร. มีความเห็นเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรยั่งยืนนั้น เป็นการจัดตั้งหน่วยงานรัฐขึ้นมาใหม่ ที่ยังมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2550 เรื่องการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งหน่วยงานของรัฐ
นอกจากนี้เห็นว่า การจัดตั้งสำนักงานฯ เป็นหน่วยงานของรัฐแล้ว สมควรพิจารณายุบเลิกกองนโยบายและเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรและเกษตรกรรมยั่งยืนไปพร้อมกันด้วยหรือไม่ เพื่อมิให้เกิดความซ้ำซ้อน
เช่นเดียวกับกระทรวงการคลัง มีความคิดเห็นว่า อาจดำเนินการโดยใช้มาตรการทางสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมทั้งมาตรการทางสังคม เพื่อสนับสนุนมาตรการอื่น ๆ นั้น ต้องดำเนินการตามที่กำหนดในกฎหมายที่จัดเก็บภาษีในแต่ละเรื่องต่อไป โดยไม่สามารถกำหนดไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ ได้ และการกำหนดจัดให้ตั้งสำนักงานฯ อาจมีผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ
