"หมึกแดดเดียวปราณบุรี" ภูมิปัญญาเอสเอ็มอีไทย กระจายรายได้สู่ชุมชน

18 ก.ย. 2561 | 09:08 น.
"หมึกแดดเดียวปราณบุรี" ภูมิปัญญาเอสเอ็มอีไทย กระจายรายได้สู่ชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่งาน เทศกาลกินหมึกแดดเดียวและอาหารทะเลปากน้ำปราณ ครั้งที่ 5 จะสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น 5-7 เปอร์เซนต์ จากรายได้การท่องเที่ยวทั้งปี ของ จ.ประจวบฯ อยู่ที่ 36,359 ล้านบาท

งานเทศกาลกินหมึกแดดเดียวและอาหารทะเลปากน้ำปราณ ครั้งที่ 5 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ก.ย. 2561 บริเวณจุดชมวิวแหลมเกด เลือกฤดูกาลที่ปลาหมึกมารวมกันในทุกปี ชาวบ้าน ร้านอาหาร และผู้ประกอบการโรงแรม จะนำผลิตภัณฑ์ปลาหมึกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมและเลือกซื้อหา พร้อมประกวดเมนูหมึกแดดเดียวและเมนูอาหารทะเลขึ้นชื้อ นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิริต์จากศิลปิน "โรส ศิรินทิพย์" และ "สุชาติ" จากเดอะวอยซ์ และดนตรีสไตล์บอสซ่า

นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ อ.ปราณบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำปราณบุรี ชุมชน และภาคเอกชน เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ พบว่า การจัดงานจะสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น 5-7 เปอร์เซนต์ จากรายได้การท่องเที่ยวทั้งปีของ จ.ประจวบฯ อยู่ที่ 36,359 ล้านบาท


ปลาหมึก2

"อ.ปราณบุรี มีพื้นที่ชายหาดถึง 12 กม. รัฐบาลส่งเสริมให้พื้นที่ อ.ปราณบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวไทยแลนด์ริเวอร์ร่า มีเส้นทางจักรยานและเดินวิ่งออกกำลัง มีโรงแรม ที่พัก นับ 100 แห่ง และได้รับการยอมรับเป็นแหล่งผลิตปลาหมึกแดดเดียวที่มีรสชาติดี รวมทั้งอาหารทะเลสด ๆ จากเรือประมงพื้นที่บ้าน จำหน่ายในราคาย่อมเยา" กิตติพงศ์ สุขภาคกุล นายอำเภอ กล่าวเสริม

ด้าน นายพะนอ เดชวัน นายก อบต.ปากน้ำปราณ เปิดเผยว่า ปลาหมึกในพื้นที่ปากน้ำปราณมีรสชาติหวานจากธรรมชาติ นุ่ม และไม่เหนียวเหมือนปลาหมึกทั่วไป เพราะได้รับอิทธิพลของน้ำจืดจากแม่น้ำปราณบุรีที่ไหลลงสู่ทะเล จะนำแพลงตอนที่เป็นอาหารปลาหมึกมาสะสมอยู่ในทะเล ทำให้ปลาหมึกมีรสชาติดี


ปลาหมึก1

นายสำราญ งดงาม ผู้ผลิตปลาหมึกแดดเดียว ในแบรนด์ "น้องหญิง" เปิดเผยถึงวิธีทำหมึกแดดเดียวว่า เมื่อเรือไดร์หมึกเข้าฝั่งผู้ประกอบการจะไปคัดไซส์ปลาหมึก โดยจะใช้ปลาหมึกกล้วยน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลฯ ผ่าแล้วลอกหนัง ล้างด้วยน้ำ ทะเลมาตากแดดในระยะเวลา 45 นาที จากนั้นบรรจุแพคแช่แข็งจำหน่ายราคากิโลกรัมละ 450 บาท ออกจากตู้แช่แข็งจะอยู่ได้ 13 ชม. ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารในย่านนี้ รวมทั้ง จ.ชลบุรี ระยอง สามารถนำไปทอดโดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง เวลาทอดจะไม่เกิดปะทุในน้ำมัน เพราะปลาหมึกผ่านการตากแดด ทำให้น้ำในหมึกหมดไป ขณะที่ บางแห่งไม่นำไปตากแดด เพราะรักษาน้ำหนักของหมึกจะเกิดการปะทุระหว่างทอด ซึ่งหมึก 1 กิโลกรัม ทอดแล้วจะเหลือน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม

ขณะที่ ผู้ประกอบการอิ่มสุขรีสอร์ท ซึ่งมาออกร้านขายปลาหมึกแดดเดียวในงาน เปิดเผยว่า จะเลือกใช้หมึกหอมมาทำหมึกแดดเดียวนำมาผ่าแล้วล้างด้วยน้ำ ทะเลตากแดดไว้ 3-4 ชม. โดยใช้ไม้เสียบลูกชิ้นดามไว้ไม่ให้หมึกงอ แล้วนำมาทอด จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 500 บาท ซึ่งหมึกที่ได้จะมีความนุ่มไม่เหนียว มีรสหวานจากธรรมชาติแบบลงตัว


ปลาหมึก3

ด้านมาโนช เอี่ยมละออ ผู้อำนวยการส่งเสริมการเกษตร อบต.ปากน้ำปราณ กล่าวว่า ชาว ต.ปากน้ำปราณบุรี ได้คิดค้นวิธีการจับปลาหมึกมาตั้งแต่แต่ปี 2520 เริ่มจากใช้ตะเกียงเจ้าพายุเป็นแสงสว่างในการล่อปลาหมึกให้มารวมตัว จนพัฒนามาเป็นเรือปั่นไฟไดร์หมึก และหรี่ไฟลงปลาหมึกจะมารวมตัวกั น จากนั้นใช้แหครอบซึ่งแต่ละปีหมึ กมีการเจริญเติบโตขึ้นตามลำดับ ประกอบกับการควบคุมเรื อประมงของรัฐบาล ทำให้เรือไดร์หมึกลดลงเหลื อประมาณ100ลำในพื้นที่ต.ปากน้ำปราณ

อุตสาหกรรมการแปรูปปลาหมึก  เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สร้างงานและรายได้ให้กับคนในพื้นที่ โดยการแปรรูปจะมีค่าใช้จ่าย ดังนี้ ค่าผ่าหมึกกิโลกรัมละ 3.50-4 บาท ค่าตากหมึกบนแผง ๆ ละ 3-4 บาท ค่าลอกหมึกแผงละ 2 บาท ค่ามัดหมึกกิโลกรัมละ 2 บาท ชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยวันละ 200-300 บาท


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว