'ฟิวเจอร์ฯ' ลุย IoT ดิจิตอลครบวงจร
"ฟิวเจอร์พาร์ค" เด้งรับ IoT ปรับกลยุทธ์เสริมบริการดิจิตอลครบวงจร พร้อมลุยจัดบิ๊กอีเวนต์รับไตรมาส 4 แข่งแรง
นางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการ ด้านการตลาด บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทก้าวสู่ยุคดิจิตอลเต็มรูปแบบ และการเข้ามาของ Internet of Things ทำให้บริษัทปรับเพิ่มกลยุทธ์ เสริมศักยภาพด้านบริการ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาสร้างความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น ทั้งการบริการ FREE WI-FI ความเร็วสูง 50Mbps สนองตอบความสะดวกด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ของลูกค้าในทุกพื้นที่ โดยร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ยังดึงพันธมิตรกลุ่มธนาคาร 8 ธนาคาร อาทิ กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย ฯลฯ ให้บริการชำระสินค้าระหว่างร้านค้าและลูกค้าในรูปแบบ QR Code โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ วางเป้าหมายร้านค้าที่ร่วมโครงการช่วงแรกจำนวน 60% ของจำนวนร้านค้าทั้งหมด การติดตั้ง iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ
ด้านกลยุทธ์การสื่อสารบนโลกออนไลน์ ได้ขยายช่องทางสื่อสารอัพเดทข่าวสารให้เข้าถึงลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ตรงช่องทาง รวมทั้งปรับปรุงภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย และเพิ่ม Engagement ในทุกช่องทางของโซเชียลมีเดีย เพื่อให้บริการและโปรโมชันต่าง ๆ Offer ได้ทันท่วงทีและโดนใจ รวมทั้ง Mobile Application และสร้างการมีส่วนร่วมและสนุกให้ลูกค้าใน Big Event ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพระบบ Big Data ให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
"นอกจากการปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ แล้ว บริษัทยังเตรียมบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญไว้กระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี อย่าง แคมเปญปีใหม่, เคานต์ดาวน์ และกิจกรรมย่อยต่าง ๆ อีกกว่า 10 งาน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ในปี 2561 เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายแน่นอน ทั้งนี้ จากการเปิดให้บริการสเปลล์ 3 ปี มีลูกค้ากลุ่มเอเพิ่มขึ้น 20% ลูกค้าใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 2,200 บาท โดยมองว่า ปัจจุบันภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีต่อเนื่อง หากแต่เลือกที่จะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากที่สุด"
ขณะที่ ความคืบหน้าโครงการฟิวเจอร์ซิตี้ ล่าสุด บริษัทได้เปิดให้บริการสปอร์ตคลับและสปอร์ตรีเทล ประกอบด้วย ฟิวเจอร์อารีน่า บนพื้นที่ 20 ไร่ และมีแผนร่วมกับพันธมิตรสร้างโรงแรมอีก 2 โครงการ เพื่อเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2563 ด้วย
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3402 ระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2561
นางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการ ด้านการตลาด บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด เปิดเผยว่า ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทก้าวสู่ยุคดิจิตอลเต็มรูปแบบ และการเข้ามาของ Internet of Things ทำให้บริษัทปรับเพิ่มกลยุทธ์ เสริมศักยภาพด้านบริการ ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาสร้างความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น ทั้งการบริการ FREE WI-FI ความเร็วสูง 50Mbps สนองตอบความสะดวกด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ของลูกค้าในทุกพื้นที่ โดยร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)
นอกจากนี้ ยังดึงพันธมิตรกลุ่มธนาคาร 8 ธนาคาร อาทิ กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย ฯลฯ ให้บริการชำระสินค้าระหว่างร้านค้าและลูกค้าในรูปแบบ QR Code โดยเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย. นี้ วางเป้าหมายร้านค้าที่ร่วมโครงการช่วงแรกจำนวน 60% ของจำนวนร้านค้าทั้งหมด การติดตั้ง iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ
ด้านกลยุทธ์การสื่อสารบนโลกออนไลน์ ได้ขยายช่องทางสื่อสารอัพเดทข่าวสารให้เข้าถึงลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ตรงช่องทาง รวมทั้งปรับปรุงภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย และเพิ่ม Engagement ในทุกช่องทางของโซเชียลมีเดีย เพื่อให้บริการและโปรโมชันต่าง ๆ Offer ได้ทันท่วงทีและโดนใจ รวมทั้ง Mobile Application และสร้างการมีส่วนร่วมและสนุกให้ลูกค้าใน Big Event ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพระบบ Big Data ให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ
"นอกจากการปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ แล้ว บริษัทยังเตรียมบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญไว้กระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี อย่าง แคมเปญปีใหม่, เคานต์ดาวน์ และกิจกรรมย่อยต่าง ๆ อีกกว่า 10 งาน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ในปี 2561 เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายแน่นอน ทั้งนี้ จากการเปิดให้บริการสเปลล์ 3 ปี มีลูกค้ากลุ่มเอเพิ่มขึ้น 20% ลูกค้าใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 2,200 บาท โดยมองว่า ปัจจุบันภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีต่อเนื่อง หากแต่เลือกที่จะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากที่สุด"
ขณะที่ ความคืบหน้าโครงการฟิวเจอร์ซิตี้ ล่าสุด บริษัทได้เปิดให้บริการสปอร์ตคลับและสปอร์ตรีเทล ประกอบด้วย ฟิวเจอร์อารีน่า บนพื้นที่ 20 ไร่ และมีแผนร่วมกับพันธมิตรสร้างโรงแรมอีก 2 โครงการ เพื่อเปิดให้บริการในไตรมาส 4 ปี 2563 ด้วย
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3402 ระหว่างวันที่ 20 - 22 กันยายน 2561
