เงินบาทอ่อนค่า 32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ จับตาพิพาทการค้า-เฟดขึ้นดอกเบี้ยกดดันสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่

17 ก.ย. 2561 | 02:23 น.
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงจาก 33.555 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดยังคงสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3% ในช่วงสิ้นสัปดาห์ นอกจากนี้ ความกังวลความเสี่ยงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่เพิ่มสูงขึ้น ยังทำให้สินทรัพย์ในตลาดเกิดใหม่ยังคงเผชิญแรงกดดันต่อในระยะนี้

สำหรับสัปดาห์นี้รายงานตัวเลขเศรษฐกิจมีดังนี้ เริ่มจากวันจันทร์ ตลาดจะจับตา ท่าทีของสหรัฐฯ ว่าจะมีการประกาศตั้งกำแพงภาษี 10% กับสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญฯ หรือไม่ โดยหากสหรัฐฯเดินหน้าตั้งกำแพงภาษีดังกล่าวได้จริง จะส่งผลให้ตลาดกลับมาปิดรับความเสี่ยงอีกครั้ง และสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่มีโอกาสถูกเทขายอีกรอบ วันพุธ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อ และธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีแนวโน้มการปรับเปลี่ยนโครงการซื้อสินทรัพย์ โดยเฉพาะ ETF หุ้นญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง

และในวันศุกร์ ตลาดจะจับตาตัวเลขคาดการณ์ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรมการผลิตและการบริการของยูโรโซน เพื่อหาแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซน และนักลงทุนและผู้ประกอบการควรติดตาม ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางยุโรป รวมทั้งความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจตั้งกำแพงภาษีรอบใหม่กับจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งความเสี่ยงสงครามการค้าอาจจะกดดันให้ตลาดผันผวนมากขึ้นได้

มองเงินบาทมีแนวโน้มที่ผันผวนต่อและอาจแกว่งตัวในกรอบกว้าง 32.65-33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ได้สัปดาห์หน้า ที่สำคัญจะต้องจับตาความเสี่ยงสงครามการค้าที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น และทิศทางค่าเงินหยวนของจีน ที่อาจกระทบค่าเงินในตลาดเอเชียได้ สำหรับวันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 32.65-32.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ