เบนซ์ ลีสซิ่งกางแผนปี 59

20 ก.พ. 2559 | 09:00 น.
ตลาดรถหรูยังสดใส "เมอร์ซิเดส -เบนซ์ ลีสซิ่ง"เตรียมแผนรุกปี 59 หวังจับกลุ่มลูกค้าใหม่และดันยอดสินเชื่อทะลุเป้า 3.53 หมื่นล้านบาท เติบโต 10 % ครองส่วนแบ่งตลาด 45 % พร้อมฟุ้งผลประกอบการปี 58 เติบโตสร้างสถิติใหม่

นายศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์ซิเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทษไทย)จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2559 ไม่ค่อยดีนัก แต่ตลาดรถหรู ที่มีกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ยังมีกำลังซื้อ โดยประเมินว่าตลาดนี้จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง แต่ไม่หวือหวา อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 10 % หรือคิดเป็นยอดสินเชื่อรถยนต์รวมอยู่ที่ 35,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ทำได้ 30,500 ล้านบาท ขณะที่ส่วนแบ่งการตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45 % จากปีที่ผ่านมามีสัดส่วน 44 %

"ส่วนแบ่งการตลาดของเราเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้นปี 2556 ที่มีลูกค้าซื้อรถกับเราคิดเป็นสัดส่วน 38% พอมาถึงปี 2557 ก็เพิ่มขึ้นเป็น 40% และในปี 2558 ก็ขยับเป็น 44 % โดยเราเข้าไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดมาจากไฟแนนซ์อื่นๆที่มีอยู่ประมาณ 3- 4 ราย ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเงินสดนั้นก็ยังคงมีสัดส่วนเท่าเดิมคือประมาณ 35 %"

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมาพบว่าบริษัทมียอดสินเชื่อรถยนต์รวมอยู่ที่ 30,500 ล้านบาท เติบโต 23% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ทำได้ 24,800 ล้านบาท โดยการปล่อยสินเชื่อกว่า 90 % จะเป็นรถยนต์นั่งแบรนด์เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และอีก 10 % จะเป็นรถในกลุ่มเพื่อการพาณิชย์ภายใต้แบรนด์เดมเลอร์ อาทิ รถบัส และรถบรรทุกฟูโซ่ ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในระดับต่ำกว่าบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมกว่า 6 เท่า เนื่องจากลูกค้าของเมอร์ซิเดส -เบนซ์ ถือเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ ขณะที่ NPL ของอุตสาหกรรมนั้นอยู่ที่ 2.5%

"เรามีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 56- 57 ที่บริษัทแม่มีการจัดการกับผู้นำเข้าอิสระได้ นอกจากนั้นแล้วการที่ไฟแนนซ์อื่นๆมีความเข้มงวด หรือมีเงื่อนไขในการซื้อรถที่เพิ่มสูงขึ้น อาทิ ดาวน์สูงเพื่อประกันความเสี่ยง ก็ทำให้ลูกค้าหันมาเลือกเบนซ์ ลีสซิ่งแทน เพราะเรามีข้อเสนอหรือมีโปรแกรมที่ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถได้ง่าย"

นายศุภวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า โปรแกรม mySTAR Special ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า เพราะชำระต่อเดือนเพียง 1% ของราคารถยนต์พร้อมทางเลือกในการคืนรถยนต์เมื่อสิ้นสุดสัญญา นอกจากนั้นแล้วยังให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ MB Protection ที่การันตีชิ้นส่วนและอะไหล่ พร้อมทั้งจัดฝึกอบรมฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ โดยปัจจุบันลูกค้าเลือกทำสัญญาสินเชื่อกับโปรแกรม mySTAR คิดเป็น 10% ของยอดขายรถยนต์เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และ “MB Protection” ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง 70% หรือคุ้มครองลูกค้าปัจจุบันมากกว่า 1.6 หมื่นคัน

นอกเหนือจากโปรแกรม mySTAR Special ปัจจัยที่จะทำให้บริษัทเติบโตนั้นมาจากกลยุทธ์หลักๆอาทิ การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า ,การนำเสนอผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับดีลเลอร์และประการสำคัญคือการอนุมัติที่รวดเร็ว โดยบริษัทมีการอนุมัติภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อ

ด้านนายจิรพงษ์ มิเชล ปอนนาช กรรมการบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์ซิเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง (ประเทษไทย)จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ที่จะเน้นในปีนี้ประกอบไปด้วย CSI & DSI สร้างความพึงพอใจกับลูกค้าและผู้แทนจำหน่าย ,Best Customer Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า โดยจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีตลอดระยะเวลาของสินเชื่อ พร้อมเพิ่มจำนวนการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับทั้งผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่องทุกเดือน อาทิ กิจกรรม “Chocolate Party with MBLT” ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนหน้า

กลยุทธ์ต่อมาคือ Online Customer Touchpoints เน้นให้บริการออนไลน์ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานได้ง่าย พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางในการใช้งานให้มากขึ้น โดยปัจจุบันลูกค้าเมอร์ซิเดส-เบนซ์ ลีสซิ่งมากกว่า 15% ได้ลงทะเบียนใช้งานระบบบริการข้อมูลลูกค้าออนไลน์ และถ้าคิดเป็นจำนวนการใช้งานกว่า 30% ของการสอบถามข้อมูลบริษัท เป็นการเข้าสู่ระบบจากการบริการข้อมูลลูกค้าออนไลน์ และกลยุทธ์ข้อสุดท้ายคือ Great Place to Work หรือ Best Employer บริษัทที่น่าทำงาน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,132 วันที่ 18 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559