‘โจโควี’ ดึงทุนสุดฤทธิ์ อินโดฯเปิดกว้างสุด ยอมต่างชาติถือหุ้นใหญ่

18 ก.พ. 2559 | 06:00 น.
ประธานาธิบดีอินโดนีเซียปรับนโยบายส่งเสริมการลงทุนครั้งใหญ่ ยอมให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นใหญ่ในโครงการลงทุนเกือบทุกประเภทตั้งแต่ทางด่วนยันโรงหนัง เผย “โจโควี” ตัดสินใจทันทีหลัง ฟอร์ดมอร์เตอร์ และโตชิบา เริ่มปิดโรงงานในอินโดนีเซีย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียยังแสดงท่าที ให้ต่างชาติถือ 100 % ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เคยเก็บไว้ให้เฉพาะคนอินโดนีเซีย อาทิ ห้องเย็น ภัตตาคาร วัตถุดิบในการผลิตยารักษาโรค นอกจากนี้นายดาร์มิน อาซูชัน (Darmin Nasution) รัฐมนตรีประสานกิจการเศรษฐกิจยังได้ประกาศว่า เพดานการถือหุ้นของต่างชาติในธุรกิจสนามกอล์ฟ กิจการดูแลสุขภาพและสนับสนุนงานสนามบินจะเพิ่มขึ้นเป็น 67 %

ประธานาธิบดีวิโดโด ให้สัมภาษณ์ทีวีบลูมเบิร์ก ระหว่างการไปเยี่ยมฟาร์มปลาที่เกาะสุมาตรา ว่ามาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติที่ประกาศไปแล้วเป็นมาตรการชุดแรกเท่านั้น รัฐบาลเตรียมประกาศมาตรการดึงดูดการลงทุนชุด 2 และ 3 ตามมาอีกโดยจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบการทำธุรกิจใน 49 อุตสาหกรรม รวมทั้งค้าปลีก ประมงและเศรษฐกิจฐานดิจิตอล โดยรัฐบาลจะประเมินไปทีละขั้น

บลูมเบิร์ก ระบุว่ารัฐบาลอินโดนีเซียมีนโยบายดึงดูดการลงทุนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากการหดตัวของการส่งออก ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำสุดในรอบ 6 ปีและทำให้เกิดการว่างงานแม้ว่าการลงทุนจากต่างชาติในปี 2558 จะยังเป็นบวก แต่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูง ๆ ได้หดตัวลง 12 % หลังจากที่รัฐบาลประกาศบังคับใช้กฎหมายแรงงานขั้นต่ำ ทำให้บริษัทต่างชาติอาทิฟอร์ดมอร์เตอร์ โตชิบา พานาโซนิคและเชฟรอน ได้ปิดกิจการบางส่วนและลดคนงานลง

นายปราโมโน อานุง เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า เป้าหมายในการปรับเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมการลงทุนก็เพื่อสร้างงานให้เกิดขึ้นเป็นการทั่วไปและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทุนในประเทศ “เมื่อเราเข้าร่วมเป็นหนึ่งในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เราต้องพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของเรา”

บลูมเบิร์ก รายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนให้เข้าใจง่ายและไม่ซับซ้อนโดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับคืออุตสาหกรรมที่ให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 49 % ระดับที่ให้ถือหุ้นได้ 67 % และระดับที่ให้ถือหุ้นได้ 100 % ซึ่งนายอานุง ยกตัวอย่างว่าธุรกิจบางประเภทเช่นพิพิธภัณฑ์เอกชนและบริการจัดอาหารจากเดิมที่ถือหุ้นได้ 51 % จะเพิ่มเป็น 67 % ส่วนผู้ประกอบการทางด่วนจะอยู่ในระดับ 100 % แทนที่จะเป็น 95 % ในกฎเดิม

บลูมเบิร์ก ระบุว่าภายใต้มาตรการส่งเสริมการลงทุนใหม่ ไม่ได้มีเพียงการเปิดกว้างให้ต่างชาติถือหุ้นได้เพิ่มขึ้นด้านเดียวมีการปกป้องธุรกิจขนาดเล็กไม่ให้ต่างชาติเป็นเจ้าของจำนวน 19 อุตสาหกรรมด้วย อาทิเช่น การลงทุนนำปะการังไปผลิตเป็นวัสดุก่อสร้างและการปลูกปะการังโดยใช้พื้นที่ต่ำกว่า 25 เฮกตาร์ (ประมาณ 156.25 ไร่) หรือโรงภาพยนตร์แม้ให้ต่างชาติเป็นเจ้าของได้ 100 % แต่ก็มีกฎที่โรงภาพยนตร์ต้องฉายภาพยนตร์ท้องถิ่นอย่าง 60 % ของจำนวนชั่วโมงที่เปิดฉายทั้งหมด

นายเกล็น แมคไกว (Glenn Maguire) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สำหรับพื้นที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของบริษัท ออสเตรเลียแอนด์นิวซีแลนด์แบงกิ้งกรุ๊ปฯ กล่าวว่าโดยปกติแล้วอินโดนีเซียไม่ค่อยเปิดกว้างให้กับนักลงทุนต่างชาติ แต่คราวนี้เห็นชัดว่าเปิดประตูให้ต่างชาติลงทุนจริง ๆ โดยมีเพิ่มเพียงกฎเล็ก ๆ น้อย เพื่อเฝ้าประตูไว้บ้างเท่านั้น”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,132 วันที่ 18 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559