หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 13 กันยายน 2561
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. 61 ปรับตัวลดลง 5.3 ล้านบาร์เรลซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 805,000 บาร์เรล หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ คงกำลังการกลั่นในระดับสูง
+ การส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่านมายังภูมิภาคเอเชียและยุโรปเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังเข้าใกล้ช่วงเวลาที่สหรัฐฯ เตรียมที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านในเดือน พ.ย. นี้
- ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอร์ริเคนฟลอเรนซ์ที่คาดว่าจะพัดเข้าบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐฯ ภายในวันศุกร์ที่ 14 ก.ย. นี้ ส่งผลให้ทางการสหรัฐฯ สั่งอพยพประชากรมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบจะไม่ได้รับผลกระทบ แต่ธุรกิจที่หยุดชะงักและประชากรที่ถูกอพยพจะส่งผลให้อุปสงค์ปรับตัวลดลง
- รายงานประจำเดือนของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ (โอเปก) เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2562 ปรับลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ระดับ 1.41 ล้านบาร์เรลต่อวัน
- รัสเซียประกาศถึงความพร้อมในการปรับเพิ่มกำลังการผลิต หากอุปทานน้ำมันดิบที่ลดลงไปจะส่งผลกระทบต่อตลาดและความต้องการที่สูงขึ้น ซึ่งรัสเซียสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 300,000 บาร์เรลต่อวัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานยังคงตึงตัวโดยเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในอิรัก ปากีสถาน และอินโดนีเซีย
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขกำลังการผลิตน้ำมันดีเซลในญี่ปุ่นประจำสัปดาห์ที่ 2-8 ก.ย. 61 ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 จากสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-722 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 76-81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สำนักข่าว Reuters เผยปริมาณการส่งน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือน ส.ค. 61 ลดลงมาแตะระดับ 2.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับสูงสุดที่ 3.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังได้เผชิญหน้ากับการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ซึ่งกำกับให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านนับตั้งแต่ 4 พ.ย. 61 นี้เป็นต้นไป
ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซุเอลามีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากท่าเรือขนส่งน้ำมันหลักของประเทศได้มีการหยุดดำเนินการลง หลังเกิดเหตุเรือขนส่งน้ำมันดิบชนกัน
จับตาการการประชุมระหว่างผู้ผลิตทั้งในและนอกโอเปกในเดือน ก.ย. ว่าจะมีการพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นเพื่อชดเชยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของอิหร่านที่หายไปหรือไม่
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์