‘เอพี’ผุดบ้านผู้สูงวัย

 

ทุ่มพันล้านแนวรถไฟฟ้าสาทร-ตากสิน

เอพี ชูกลยุทธ์สร้างความต่าง ต่อยอดโนว์ฮาวพันธมิตร มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ เจาะเทรนด์ตลาดผู้สูงวัย เล็งภายใน 2 ปีขึ้นโครงการแน่ หลังศึกษาฟังก์ชันการใช้งานที่เหมาะกับผู้สูงอายุ คาดลงทุนไม่ตํ่ากว่า 1,000 ล้าน บนทำเลในเมือง รถไฟฟ้าผ่าน อาทิ สาทร ตากสิน วุฒากาศ

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า เอพี มีแผนที่จะทำโครงการสำหรับผู้สูงอายุเช่นกัน ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดว่า ฟังก์ชันการใช้งานแบบไหน จึงจะเหมาะกับผู้สูงอายุมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดภายในโครงการ ภายในห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ โดยจะเริ่มดำเนินโครงการภายใน 1-2 ปีนี้แน่นอน และจะได้เห็นโครงการสำเร็จรูปภายใน 4 ปี

“เราจะแหวกแนวจากที่บ้านผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ที่มักอยู่นอกเมือง เพราะคนมักคิดว่าผู้สูงวัยส่วนใหญ่ต้องการอากาศบริสุทธิ์ ต้องการความสงบ แต่เอพีจะทำโครงการในเมือง การที่จะให้คนแก่ไปอยู่คนเดียว มันไม่ใช่ เรามีที่แถว สาทร ตากสิน สถานีรถไฟฟ้าวุฒากาศ เป็นที่ที่อยู่ในเมือง ราคาไม่แพงเกินไป  ตารางเมตรละประมาณ 100,000 บาท”

นายวิทการกล่าวและว่า ต้นทุนการสร้างที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุ จะสูงจากปกติประมาณ 10% เนื่องจากรายละเอียดที่ต้องเพิ่มเติมไม่ว่าจะประตู และระบบความปลอดภัยต่างๆ

ตอนนี้รายละเอียดทั้งหมดยังไม่สามารถบอกได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดพื้นที่ห้อง ว่าจะต้องใหญ่แค่ไหน จากปกติขนาดห้องในโครงการของเอพี จะอยู่ที่ 30-35 ตารางเมตร แต่สำหรับผู้สูงอายุ อาจจะขยายเป็น 35-40 ตารางเมตร ประตูห้อง ขนาดห้องนํ้า จะต้องใหญ่กว่าปกติ และต้องป้องกันความปลอดภัย โดยฟีเจอร์ที่จะใส่เข้าไปในโครงการ จะเน้นที่คอนเซ็ปต์ของความสะดวกสบาย การมีคอมมิวนิตีที่ตอบรับ ล่าสุดเอพีได้นำฝ่ายพัฒนาธุรกิจ เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น กับบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ฯ (บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป - MECG) ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจของเอพี

จากการวิเคราะห์ความต้องการของคนวัย 60 ปีขึ้นไป ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ คนเหล่านี้ไม่ต้องการเป็นภาระของคนในครอบครัว เอพีต้องการชวนคนเหล่านี้มาอยู่คอนโดมิเนียม เพราะพวกเขาต้องการความปลอดภัย ดูแลไม่ลำบาก มีคนนั่งคุยกันได้ เป็นแอกทีฟไลฟ์ แต่ต้องทำดีไซน์ให้เหมาะสมกับคนสูงวัย พร้อมทั้งมีการศึกษาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเสริมในเรื่องของความปลอดภัย เช่น เทคโนโลยีสแกนความร้อนจากร่างกาย ที่จะสามารถส่งต่อข้อมูลไปถึงฝ่ายรักษาความปลอดภัยภายในอาคารได้ทันที หากเกิดอุบัติเหตุภายในห้องพัก ซึ่งผู้สูงวัยในอีก 10-20 ปีข้างหน้า สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ เอพีกำลังศึกษาและกำลังดูว่าจะเอาอะไรออกมาใช้

นายวิทการ กล่าวว่า ขณะนี้เอพีอยู่ในช่วงของการศึกษา เก็บข้อมูล รวมทั้งให้ฝ่ายอินโนเวชันที่สำรวจความต้องการของลูกค้าตั้งแต่วัย 55 ปีจนถึงวัยหลังเกษียณ แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไร และควรใส่อะไรลงไปบ้าง โดยโครงการอาจจะไม่ใช่โครงการของผู้สูงวัย 100% แต่อาจจะทำเป็นเลเยอร์แบบผสมผสาน เพราะผู้สูงวัยไม่ต้องการอยู่กับผู้สูงวัยแบบ 100% อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์ จะคัสตอมไมซ์ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากขึ้น โดยมีพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นคอมมิวนิตีในโครงการ และมีพื้นที่ส่วนตัวคือห้องพัก แนวโน้มรูปแบบที่อยู่อาศัยลักษณะนี้จะมีมากขึ้น

หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,400 วันที่ 13-15 กันยายน 2561