มีโอ้ลั่นกลองรบกล้องติดรถ ชูฟังก์ชันรองรับ Wi-Fi มี GPS เจาะกลุ่ม‘เบนซ์-ปอร์เช่’

13 ก.ย. 2561 | 03:07 น.
มีโอ้ ปักธงรุกตลาดกล้องติดรถยนต์ไทย ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ลงตลาด 4 รุ่น ชูจุดขายรองรับ Wi-Fi มี GPS ในตัว เจาะกลุ่มรถหรู “เบนซ์-ปอร์เช่” ตั้งเป้าปีแรกส่วนแบ่งตลาด 5% จากตลาดรวมแสนเครื่อง

นายเควิน เกา ผู้อำนวยการฝ่าย ขาย บริษัทมีโอ้ ประจำภูมิภาคเอเชีย ผู้ผลิตกล้องติดรถยนต์จากประเทศไต้หวัน เปิดเผยว่าบริษัทขยายการทำตลาดกล้องติดรถยนต์เข้ามาในไทย โดยเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดในไทย เนื่องจากไทยมีสัดส่วนการใช้งานกล้องติดรถยนต์เพื่อความปลอดภัยเพียง 5-10% จากตลาดรถใหม่ประมาณ 1 ล้านคัน หรือ ประมาณ 1 แสนเครื่อง ขณะที่ประเทศเกาหลี มีขนาดตลาดกล้องติดรถยนต์เฉลี่ยปีละละ 1.2 ล้านเครื่อง ไต้หวัน 4 แสนเครื่อง และ ญี่ปุ่น 2 ล้านเครื่อง ดังนั้นจึงมองว่าตลาดไทยยังมีโอกาสการเติบโตได้อีกมาก

โดยตลาดไทยนั้น 80-90% เป็นกล้องติดรถยนต์จากจีน มีอายุการใช้งาน 3 เดือน-1 ปี ไม่สามารถทนต่ออากาศร้อนได้ ซึ่งกลยุทธ์การทำตลาดในไทยนั้นมองว่าแม้จะเพิ่งเข้ามาทำตลาด แต่เชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โดยมีโอ้เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มียอดผลิตปีละ 50 เครื่อง มีรุ่นที่ผลิตปีละ 40 รุ่น ขณะที่เป็นผู้ผลิตที่ได้รับมาตรฐานไอเอสโอ 16949 ตามข้อบังคับของผู้ผลิตรถยนต์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีโอ้ สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนในไทยได้เป็นอย่างดี โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตโออีเอ็ม และโอดีเอ็ม ให้กับแบรนด์รถยนต์ในญี่ปุ่นหลายราย

นายเควิน เกา กล่าวต่อไปว่า มีโอ้ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในไต้หวัน 45% และมีส่วนแบ่งตลาดในญี่ปุ่น 40% ส่วนในไทยตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ใน 3-5 ปีข้างหน้า โดยปีนี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่งตลาด 5% ของตลาดรวม หรือ ประมาณ 5,000 เครื่อง และเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เครื่องในปีหน้า

090861-1927-9-335x503 โดยเบื้องต้นเลือกผลิตภัณฑ์เข้ามาทำตลาดในไทยมีด้วยกัน 4 รุ่น ประกอบด้วย มีโอ้ ไมวิว 7 ซีรีส์ 2 รุ่น คือ มีโอ้ ไมวิว 792 และ มีโอ้ ไมวิว 786 เปิดตัวกล้องติดรถยนต์แบบมี Wi-Fi ให้ผู้ใช้งานสามารถถ่ายโอนและดูคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือได้ทันที ซึ่งแตกต่างจากกล้องติดรถยนต์ทั่วไปในท้องตลาดที่ผู้ใช้ต้องเสียเวลาถอดเมโมรีการ์ดออกมาเพื่อดูวิดีโอย้อนหลังในคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนยุ่งยากและอาจทำให้ล่าช้าเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และระบบนำทาง GPS ในตัว ราคาเริ่มต้น 7,900 บาท และ มีโอ้ ซี ซีรีส์ 2 รุ่น คือ รุ่น มีโอ้ ไมวิว C380D และ มีโอ้ ไมวิว C335 ซึ่งใช้เลนส์โซนี่ สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพความคมชัดระดับ Full HD 1080p ที่เฟรมเรต 30 FPS ต่อวินาที ราคาเริ่มต้น 3,500 บาท

ทั้งนี้จะมุ่งการทำตลาดไปยังกลุ่มตลาดบนก่อน เพื่อสร้างการรับรู้ในเรื่องคุณภาพ และฟีเจอร์สินค้าที่มีความแตกต่างจากแบรนด์จีนในตลาด หลังจากนั้นจึงค่อยนำผลิตภัณฑ์จะเริ่มนำผลิตภัณฑ์ราคาประมาณ 2,000 บาทเข้ามาทำตลาดมวลชนหรือแมส

ด้านนายสรัณย์ ธีรวชิรกุล ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท ไอเทค ไมโคร ซิสเท็ม จำกัด ในฐานะตัวแทนจำหน่ายกล้องติดรถยนต์มีโอ้ กล่าวว่าการทำตลาดในไทยจะมุ่งขายผ่านร้านติดตั้งเครื่องเสียง ประมาณ 20 ราย เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีโอ้ ต้องอาศัยการติดตั้ง นอกจากนี้ยังทำตลาดแบบ บีทูบี ไปยังโชว์รูมรถยนต์ และผู้ผลิตรถยนต์ โดยเบื้องต้นจะมุ่งไปยังกลุ่มรถยนต์ราคาแพง อาทิ ปอร์เช่ และเบนซ์ ซึ่งขณะนี้มีรถเบนซ์ ติดตั้งกล้องมีโอ้ ไปแล้วประมาณ 300-400 คัน พร้อมกันนั้นยังขายผ่านช่องทางดีลเลอร์ไอที รวม ถึงช่องทางออนไลน์ช็อป เบื้องต้นวางงบตลาดไว้ 3 ล้านบาท โดยจะมุ่งการสื่อ สารการตลาดผ่านช่องทางสื่อดิจิตอล คาด ว่าปีนี้จะมียอดขาย 25 ล้านบาท

หน้า 5 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3400 | ระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว