‘อาวดี้-จากัวร์’ลุยอีวี อีตรอน-ไอเพซ เปิดตัวปีหน้า-เบนซ์EQขายไทยแน่

13 ก.ย. 2561 | 05:57 น.
เศรษฐีไทยหัวใจรักษ์โลกเตรียมเฮ“เมอร์เซเดส- เบนซ์” “บีเอ็มดับเบิลยู” ยื่น BOI ทำโปรเจ็กต์ปลั๊ก-อินไฮบริดควบ“อีวี”แล้ว ลุ้นโมเดลใหม่ขายในไทย ส่วน “อาวดี้” เล็งนำเข้ารถพลังไฟฟ้าในตระกูล “อีตรอน” และ “จากัวร์” ยืนยันขาย “ไอ-เพซ” ต้นปีหน้า

ตลาดรถหรูเริ่มขยับเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า หลังจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็ม ดับเบิลยู นำธงด้วยรถปลั๊ก-อินไฮบริด ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนขายในพอร์ตของตนเอง 40% และ18% ตามลำดับ ล่าสุดยังยื่นแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุนต่อ BOI ตามนโยบายรัฐบาล พร้อมเพิ่มไลน์ประกอบแบตเตอรี่ในไทยเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต (ปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี)

นอกจากรถในกลุ่มปลั๊ก-อินไฮบริด ในตลาดโลกบีเอ็มดับเบิลยู ยังทำตลาด “อีวี” ภายใต้ซับแบรนด์ “ไอ” อย่างรุ่น i3 ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีซับแบรนด์ “อีคิว” ที่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวเอสยูวีพลังไฟฟ้ารุ่นแรกชื่อ EQC โดยมีแผนผลิตและทำตลาดในยุโรปปี 2562

MP32-3400-A

โดยเลย์เอาต์ของเอสยูวีรุ่นนี้จะมีมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวหนึ่งขับเคลื่อนล้อหน้า และอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังรวม 408 แรงม้า แรงบิด 765 นิวตัน- เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 5.1 วินาที ขณะที่ชุดแพ็กแบตเตอรี่ความจุ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง นํ้าหนัก 650 กิโลกรัม ถูกวางเรียงเต็มแพลตฟอร์ม (ใต้พื้นห้องโดยสาร) ซึ่งการชาร์จไฟเต็ม 1ครั้ง รถวิ่งได้ระยะทางมาก กว่า 450 กิโลเมตร ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ถึง 180 กม./ชม.

สำหรับการทำตลาดในเมืองไทย นายไมเคิล เกรเว่ อดีตประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เพิ่งย้ายไปรับตำแหน่งใหม่ที่ไต้หวัน เคยระบุว่า นโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทยถือว่าน่าสนใจมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่งเมอร์เซเดส-เบนซ์ จะเริ่มทำตลาดกับรถปลั๊ก-อินไฮบริดก่อน และอีวี เป็นลำดับถัดไป

“ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยผู้บริโภคมีความรู้ความเข้าใจในผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น และเล็งเห็นข้อดีของการเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดย 3 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตได้เร็ว คือ นโยบายการสนับสนุนด้านรถยนต์ไฟฟ้าจากภาครัฐ ทั้งในด้านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต หรือนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่างๆ ให้แก่ผู้ผลิตรถยนต์ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ของค่ายรถต่างๆ ที่เหมาะสมกับตลาดในประเทศ ไทย และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค รวมถึงการมีสายการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน และสุดท้ายคือการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกท่านว่าจะได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด” นายเกรเว่ กล่าว

 

โดยนโยบายระดับโลกของ เดมเลอร์ เอจี (บริษัทแม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์) กำหนดว่า ภายในปี 2565 จะเพิ่มรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างน้อย 1 รุ่นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่รถยนต์จากแบรนด์สมาร์ทไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ หรือรวมกันกว่า 50 รุ่นย่อย ซึ่งเมืองไทยมีโอกาส ขายรถพลังไฟฟ้า “อีวี” ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ แน่นอน แต่ต้องลุ้นว่าเป็นโมเดลไหน

ด้าน “อาวดี้” แบรนด์รถยนต์หรูจากเยอรมนี ปัจจุบันบริษัทแม่ยังไม่เข้ามาดำเนินธุรกิจเอง 100% แต่แต่งตั้ง “ไมซ์สเตอร์ เทคนิค” นำโดย “กฤษฎา ลํ่าซำ” ให้เป็นผู้นำเข้าและผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 2 ของการดำเนินงาน ตั้งเป้าหมายการขายไว้ 1,200 คัน หวังโต 100% เมื่อเทียบกับปี 2560

090861-1927-9-335x503

ล่าสุดจัดงานเปิดตัวโชว์รูม-ศูนย์บริการและเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ อาวดี้ ไทยแลนด์  มูลค่าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพื่อเสริมศักยภาพกับสาขาถนนเพชรบุรีตัดใหม่และพัทยา รวมถึงแผนในอนาคตที่ภูเก็ต อุดรธานี เชียงใหม่ และ
ฝั่งธนบุรี(กรุงเทพฯ)

ทั้งนี้ อาวดี้ ไทยแลนด์ เคยประกาศว่า ปี 2562 มีแผนนำเข้ารถยนต์พลังไฟฟ้า(อีวี) ที่อาวดี้เรียกว่า “อี-ตรอน” และรถปลั๊ก-อินไฮบริดเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอีกด้วย

“เราสนใจทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย เพราะรัฐบาลไทยสนับสนุนอย่างจริงจัง และเป็นไปตามกระแสโลก” นายไมเคิล ฟริช ผู้อำนวยการอาวุโสส่วนงานขายต่างประเทศ บริษัท อาวดี้ เอจีฯ กล่าว

ฝั่ง“จากัวร์ แลนด์โรเวอร์” จากอังกฤษภายใต้การดูแลตลาดของ“อินช์เคป” ประเดิมขายรถปลั๊ก-อินไฮบริดในตระกูลของ “เรนจ์ โรเวอร์” และเตรียมส่งมอบรถล็อตแรกให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนกันยายนนี้ ส่วนในกลุ่ม “อีวี”จะนำโดย “จากัวร์”

“รถยนต์รุ่นยอดนิยมของจากัวร์ในไทยคือเอสยูวีรุ่น เอฟ-เพซ และ อี-เพซ ซึ่งแผนงานหลังจากนี้ เราเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น ไอ-เพซ ในงานมอเตอร์โชว์ 2019” นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการรถยนต์จากัวร์ และ แลนด์โรเวอร์ กล่าวและว่า

การนำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาเปิดตัวในปีหน้า ถือว่าบริษัทเป็นลำดับต้นๆ ที่เข้ามารุกตลาดนี้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือลูกค้าในเซ็กเมนต์รถหรู
ซึ่งปลายปี 2561 บริษัทจะแถลงความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ปลั๊ก-อิน รวมถึงเปิดจุดชาร์จไฟฟ้าที่เตรียมจับมือกับพันธมิตรอีกครั้ง

“เรามองว่าเทรนด์หรือทิศทางของรถยนต์ไฟฟ้าต้องมาอยู่แล้ว แต่จะมาเร็วมาช้าก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละประเทศ ในส่วนของ
อินช์เคป เตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้กันอยู่ โดยรถที่ขายจะมีแท่นชาร์จไปให้ลูกค้า ถือเป็นของที่คู่กัน” นายชาญชัย กล่าว

สำหรับจากัวร์ ไอ-เพซ เป็นเอสยูวีพลังไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ 2 ตัว ตัวแรกส่งกำลังให้ล้อคู่หน้า อีกตัวส่งกำลังให้ล้อคู่หลัง สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.4.8 วินาที ตัวรถถูกออกแบบให้มีการกระจายนํ้าหนักหน้า-หลังสมดุลแบบ 50:50  ส่วนการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง รถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 480 กิโลเมตร ราคาขายที่อังกฤษประมาณ 2.6 ล้านบาท

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,400 วันที่ 13 - 15 กันยายน พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว