เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2561 แอพพลิเคชันหาเพื่อน-หาคู่ ที่ชื่อว่า
BeeTalk และแอพพลิเคชั่น
TalkTalk ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์เป็นภาษาไทย แจ้งต่อผู้ใช้แอพพลิเคชันว่า เรียนสมาชิก ดีเจ และผู้ใช้บริการทั้ง 2 แอพพลิเคชัน เรื่อง
"ยุติการให้บริการและยกเลิกช่องทางการสื่อสาร"
จากนั้นเนื้อหาของแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ทีมงานประจำประเทศไทยได้รับนโยบายในการดำเนินงานจากสำนักงานใหญ่ ประเทศสิงคโปร์ ให้มีการยุติการให้บริการของแพลตฟอร์ม TalkTalk และฟังก์ชั่นการใช้งานบางส่วนของแอพพลิเคชัน BeeTalk ตามรายละเอียดและกำหนดการ ดังนี้
1.ยุติการให้บริการทั้งหมดของแฟลตฟอร์มรวมทั้งแอพพลิเคชัน TalkTalk และยกเลิกช่องทางการติดต่อสื่อสาร ในวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย. 2561 , 2.ยุติการให้บริการเฉพาะฟังชั่น Live ของแอพพลิเคชัน BeeTalk ในวันอาทิตย์ที่ 30 ก.ย. 2561 ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ ยังคงให้บริการตามปกติ โดยระหว่างนี้ไปจนถึงวันที่ยุติการบริการ ท่านยังสามารถใช้บริการและติดต่อทีมงานได้ตามปกติทางอินบ็อกของเพจ BeeTalk Thailand
จากการตรวจสอบของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า แอพพลิเคชันที่ชื่อว่า BeeTalk เป็นของ Beetalk Private Ltd., วางจำหน่าย (เปิดให้โหลดครั้งแรก) เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2556 มีการดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้ง และแอพพลิเคชัน TalkTalk ของ TalkTalk.TH วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2559 มียอดดาวน์โหลดรวมมากกว่า 1 ล้านครั้ง แต่ทั้ง 2 แอพพลิเคชัน มีนักพัฒนาซอฟต์แวร์เดียวกันอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเป็นแอพพลิเคชันที่มีการจำกัดของผู้ดาวน์โหลดแอพเป็นประเภท 12+ คือ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำการตอบโต้กับผู้ใช้
แหล่งข่าวด้านไอทีให้ข้อมูลกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แอพพลิเคชัน BeeTalk เป็นแอพที่ได้รับความนิยมมากกว่าจนติดอันดับแอพพลิเคชันยอดนิยม ซึ่งการปิดให้บริการ Live หมายถึงการที่
"ดีเจ" ซึ่งพัฒนาตัวเองจากคนธรรมดาที่โหลดแอพมาเล่นปกติ จนมีคนติดตามจำนวนมาก ก็จะถูก
"โมเดลลิ่ง" ทั้งแบบบุคคลและบริษัท ทาบทามให้มาเป็นดีเจ เพื่อถ่ายทอดสดในสิ่งที่ดีเจถนัด เช่น กิจวัตรประจำวัน ร้องเพลง แต่งหน้า หรือ แต่งกายวาบหวิว หากมีคนที่เข้ามาดูแล้วชื่นชอบ ก็จะกดส่งของขวัญ ซึ่งที่มาของของขวัญต้องมีการซื้อด้วยเงินผ่านระบบออนไลน์หักผ่านบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิต หรือ บัตรเติมเงิน เพื่อส่งของขวัญให้กับดีเจ ในราคาที่มีตั้งแต่หลักไม่กี่สิบบาทจนถึงหลักพัน เมื่อดีเจได้ของขวัญแล้ว ส่วนหนึ่งก็จะเป็นรายได้ของดีเจที่ทำยอดให้ได้ตามเป้าที่แอพพลิเคชันกำหนด และอีกส่วนหนึ่งก็จะหักให้กับแอพพลิเคชันและโมเดลลิ่งต้นสังกัด
ซึ่งในระยะหลังพบว่า มีดีเจที่อายุน้อยยังอยู่ในวัยเรียน บางคนสวมชุดนักเรียน นักศึกษา นั่งในห้องเรียน แต่ก็ยังมีการถ่ายทอดสดเพื่อเรียกของขวัญจากแฟนคลับก็มีให้เห็นบ่อยครั้ง หรือแม้แต่ดีเจที่มีอาชีพข้าราชการครู พยาบาล ทหาร ตำรวจ ก็มีการถ่ายทอดสดตัวเองในขณะที่นั่งทำงานในเครื่องแบบก็มีเช่นกัน
แหล่งข่าว เล่าอีกว่า สำหรับแอพพลิเคชันบีทอคนั้น บางครั้งกลายเป็นเครื่องมือหากินของมิจฉาชีพ ที่ล่อลวงคนที่สนทนาไปทำมิดีมิร้ายจนเป็นข่าวหลายครั้ง ส่วนที่ไม่เป็นข่าวพบว่ามีทั้งการใช้เป็นพื้นที่ซื้อขาย-บริการทางเพศ การหลอกลวงให้อีกฝ่ายโอนเงินเมื่อได้เงินแล้วก็จะลบการเป็นเพื่อน รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของผู้ที่ชอบแสดงออกทางเพศด้วยการส่งรูปออวัยวะลับให้กับอีกฝ่ายก็มีจำนวนมาก