4 ผู้สมัครชิงเอ็มดี ‘อีลิทการ์ด’ เร่งขายสมาชิกใหม่ผนึกบีโอไอลงทุนอีอีซี

15 ก.ย. 2561 | 03:11 น.
เปิดตัว 4 ผู้สมัครชิงเก้าอี้เอ็มดีทีพีซี คาดต.ค.นี้ได้ตัวจริง ขับเคลื่อนยอดขายบัตรไทยแลนด์อีลิทการ์ดปีงบประมาณ 2562 เติบโต 15% ทั้งเล็งผนึกบีอีไอ ดึง สมาชิกอีลิทการ์ด ลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่อีอีซี ตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสมภายใน 5 ปีจากนี้

หลังจากบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด หรือทีพีซี ได้เปิดรับสมัครบุคคล เพื่อคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ทีพีซี แทน “พฤกษ์ บุปผาคำ” พบว่ามีผู้สมัครที่ผ่านคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด 4 คน ซึ่งกระ บวนการสรรหาคาดว่าจะแล้วเสร็จและได้ตัวเอ็มดีใหม่ภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากผู้สมัครได้สัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ไปเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา  ทั้งนี้ผู้สมัครทั้ง 4 ราย ประกอบไปด้วย

1. นายอนัคฆวัชร์ ก่อวัฒนกุล รองประธานฝ่ายสมาชิกบัตรประเทศไทย บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (ไทย)ฯ หรือ เอเม็กซ์

2. ผศ.ร.อ.น.พ ดร.สุมาส วงศ์สุนพรัตน์ อดีตผู้บริหารระดับสูงในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการธนาคารธนชาต อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มสามมิตร รวมถึงที่ปรึกษาทางด้านกลยุทธ์การตลาด การบริหารจัดการองค์กรให้กับธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

3. นายภานุวัธน์ วงศ์ศรีพิสันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย)ฯ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสุราจากต่างประเทศรายใหญ่ในประเทศไทย อาทิ ฮันเดรด ไพเพอร์ส

4. นายมานะ พงศานรากุล อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทีดับบลิวแซด (TWZ) หนึ่งในผู้นำในด้านการจัดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมของไทย และนายกสมาคมศิษย์เก่า คณะวิศวกรรม ศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระ จอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง

MP22-3400-A

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทย (ททท.) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ไทยแลนด์พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี) ผู้ดำเนินโครงการบัตรอีลิทการ์ด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การสรรหาผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี คนใหม่ จากผู้สมัครทั้ง 4 รายที่ผ่านเกณฑ์และคุณสมบัติตามกำหนด รวมถึงขั้นตอนการเจรจาผลตอบแทน คาดว่าจะได้ตัวเอ็ม ดี ทีพีซีคนใหม่ ในอีกไม่เกิน 2 เดือนจากนี้ เพื่อให้เข้ามาขับเคลื่อนแผนการดำเนินธุรกิจของทีพีซีในปีหน้า

ส่วนผลประกอบการของทีพีซี ช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 2560-31 กรกฎาคม 2561) มีรายได้รวมจากการดำเนินการอยู่ที่ 790 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 43.37% จากที่ตั้งไว้ที่ 551 ล้านบาท และคิดเป็นอัตราการเติบโต 66.35% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2560 ซึ่งมีรายได้รวม 474.88 ล้านบาท มีกำไร 239 ล้านบาท โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายสมาชิกใหม่ และค่าธรรมเนียมสมาชิกบัตรไทยแลนด์ อีลิทการ์ดและคาดว่าตลอดปีงบประมาณนี้ทีพีซีจะมีรายได้รวมกว่า 950ล้านบาท ส่วนในงบประมาณปี 2562 ตั้งเป้าเติบโต 15%

“ทีพีซี วางกรอบไว้ภาย ใน 5 ปีนับจากนี้ จะล้างขาดทุนสะสมได้ โดยปัจจุบันการขาดทุนสะสมลดลงจากกว่า 1 พันล้านบาท เหลืออยู่ที่ 700 ล้านบาท หลังจากทีพีซีมีผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา”

ทั้งนี้จากการที่สมาชิกไทยแลนด์ อีลิทการ์ด พำนักอยู่ในไทยเป็นระยะยาว ทำให้เกิดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการเช่าที่อยู่อาศัย หรือการซื้อที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม รวมถึงการใช้บริการในภาคธุรกิจ และบริการต่างๆ จากเครือพันธมิตร  ถือเป็นการนำเม็ดเงินเข้ามาลงทุนและใช้จ่ายในไทยมากขึ้น ซึ่งการใช้จ่ายเหล่านี้จะช่วยทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศทางหนึ่ง

ดังนั้นยิ่งทีพีซี สามารถขยายฐานสมาชิกใหม่ๆ ได้เพิ่มมากขึ้นเท่าใด ประโยชน์ก็จะตกกับประเทศเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และไม่ใช่แค่เพียงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่จะเกิดประโยชน์กับภาคอุตสาหกรรมทั้งระบบ ซึ่งไทยแลนด์ อีลิทการ์ด ยังมีฐานลูกค้าอยู่อีกมาก หากบุกตลาดอย่างจริงจัง โดยเฉพาะตลาดจีน และญี่ปุ่น เป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อีกมาก เพราะ 2 ประเทศนี้มีกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก รวมถึงตลาดฝั่งยุโรปและอเมริกา การเจาะฐานตลาดนี้ได้ จะช่วยให้ไทยแลนด์ อีลิท การ์ด มีฐานลูกค้าที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันบอร์ดทีพีซี มี นโยบายให้รุกขายบัตรอีลิท อัลทิเมต พริวิเลจ (Elite Ultimate Privilege) ราคา 2  ล้านบาท อายุบัตร 20 ปี เพื่อเพิ่มรายได้บัตรให้เติบโตมากขึ้น โดยให้มีสัดส่วนไม่ตํ่ากว่า 20% ของยอดขายบัตรอีลิทการ์ดทั้ง 7 รูปแบบ ซึ่งอีลิทการ์ด นับว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงกระแสการค้าการลงทุนมาไทยในระยะยาว โดยทีพีซีเตรียมร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ดึงผู้ถือบัตรอีลิทการ์ดเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)

รวมถึงทีพีซี ยังได้ร่วมโรดโชว์กับททท. รวมทั้งวางแผนและเข้าร่วมกิจกรรมทางการขายและการตลาดกับตัวแทนขายในกลุ่มประเทศเป้าหมายอย่างใกล้ชิด มีการสรรหาตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ ทั้งต่างประเทศและในประเทศที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงการคัดสรรพันธมิตรคู่ค้า ที่มีศักยภาพที่ตรงตามความต้องการของสมาชิก และยกระดับแบรนด์ของบัตรไทยแลนด์ อีลิท การ์ด เพื่อมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย นายยุทธศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3400 ระหว่างวันที่ 13 - 15 กันยายน 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว