วันนี้ (10 ก.ย. 61) เว็บซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของ
นายปริญญา จารวิจิต กับพวก ให้อายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราว จำนวน 64 รายการ ตามมติคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 14/2561 เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2561 มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 แห่งระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2559 จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีข้างต้น และไม่อาจดำเนินการเพื่อขอคืนทรัพย์สินหรือชดใช้คืนความเสียหายดังกล่าวได้ตามกฎหมายอื่นหรือดำเนินการตามกฎหมายอื่นแล้วแต่ไม่เป็นผล ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงาน ปปง. ภายในกำหนดเวลา 30 วัน นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ ตามแบบคำร้องขอให้ศาลนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่
www.amlo.go.th
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ นายปริญญา จารวิจิต เป็นนักธุรกิจ พร้อมกับพวก ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงในการทำธุรกิจผ่านเงินสกุลดิจิทัล หรือ บิตคอยน์ ซึ่งมี นายเออาร์นี ออตตาวา ซาอ์ริมาอ์ นักลงทุนชาวฟินแลนด์ อายุ 23 ปี ได้รับความเสียหาย เป็นเงินบิตคอยน์ 5,564.44 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 797 ล้านบาท จนทำให้นายปริญญาและพวกถูกพนักงานสอบสวนกองปราบปรามอายัดบัญชีเงินฝากของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องไว้แล้วทั้งหมด 51 บัญชี ที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหาที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดไว้ทั้งหมด 15 แปลง มูลค่ารวมประมาณ 176 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น ๆ ของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินหรือของกลางต่อไป
ราชกิจจานุเบกษา
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/221/T38.PDF