สพฉ.แจงรถพยาบาลขนยาบ้า ไม่ใช่รถในระบบ

10 ก.ย. 2561 | 15:08 น.
สพฉ.แจงรถพยาบาลขนยาบ้าไม่ใช่ รถที่อยู่ในระบบของสพฉ. เผยถูกยุติการรับรองไปเป็นระยะเวลาหลายปีแล้วเนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะในการทำงาน เลขาสพฉ.ลั่นไม่สนับสนุนรถที่ทำผิดกฎหมายในทุกๆ กรณี พร้อมแนะประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาสอดส่องรถที่ไม่ถูกต้องผ่านแอพพลิเคชั่น EMS Certified เปิดสายด่วนให้ประชาชนแจ้งเมื่ อเจอรถต้องสงสัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรืออากาศเอกนพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ภายหลังจากที่มีข่าวเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้จับกุมรถพยาบาลกลุ่มหนึ่งที่ขนยาเสพติดโดยใช้ รถพยาบาลเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่นั้น ล่าสุดเรืออากาศเอกนายแพทย์อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้ออกมาระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า จากข้อมูลที่รับทราบจากข่าวและจากสื่อมวลชน สพฉ.ได้ทำการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว พบกว่ารถคันที่ใช้ก่อเหตุนั้น ไม่ใช่รถที่อยู่ภายใต้ระบบของ 1669 โดยจะมีรถอยู่ 1 คันที่ติดสติ๊กเกอร์สีเขียว ที่ เหมือนผ่านการรับรองมาตรฐานรถจากสพฉ. ซึ่ง สพฉ. เคยรับรองรถคันดังกล่าวจริง และรถคันดังกล่าวเป็นรถหน่วยเสริมของท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นรถของบริษัทเอกชนที่ท้องถิ่นแห่งนั้นได้จ้างให้มาดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่

รถคันดังกล่าวได้ถูกยุติการรับรองไปเป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว เนื่องจากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะในการทำงานต่อ เพียงแต่เขาไม่ได้เอาสติ๊กเกอร์ออก ทำให้ดูเหมือนว่าเป็นรถที่ยังทำงานในระบบอยู่

ตัวอย่างรถปฏิบัติการการแพทย์ขั้นสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว-696x557 "ขอยืนยันว่า แม้รถคันดังกล่าวจะอยู่นอกระบบของ สพฉ. แต่นโยบายของ สพฉ.ชัดเจนคือไม่สนับสนุนการทำผิดกฎหมายในทุกๆ กรณี ไม่ว่าจะเป็นการละเมิดกฎหมายที่ ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร หรือการขับเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดในช่วงที่ไม่ได้มีการไปรับหรือส่งผู้ป่วย เราก็ไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์ละเมิดกฎหมายไม่ว่าจะกรณีใดๆ ยิ่งเป็นการขนยาเสพติดยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรับได้ เพราะผิดทั้งกฎหมายบ้านเมืองและผิดทั้งจริยธรรมที่นำรถที่ จะต้องใช่ส่งผู้ป่วยฉุกเฉินมาทำเช่นนี้"

แอพพลิเคชั่น2 (1) เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สพฉ.เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉินซึ่ง สพฉ. มีอำนาจหน้าที่ ในการที่จะกำกับมาตรฐานเกี่ยวกับเรื่องของหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินและผู้ปฏิบัติการฉุกเฉิน และสถานพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยที่ผ่านมา สพฉ.ได้ร่วมกับหลากหลายหน่วยงานจัดตั้งสายด่วน 1669 ขึ้นมา และไปการทำงานไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย โดยภายในระบบของ 1669 นั้นจะมีหน่วยปฏิบัติการที่ขึ้นทะเบียนกับ 1669 ซึ่งหมายความว่าจะมีรถที่อยู่ในระบบปฏิบัติการในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินทั้งในส่วนของภาครัฐ เช่น โรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลของเอกชน ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ เทศบาลองค์การบริหารส่วนตำบล และในส่วนของมูลนิธิสมาคม นิติบุคคลต่างๆ ซึ่งจากการขึ้นทะเบียนหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน 1669 ของ สพฉ. ทั่วประเทศจะมีทั้งหมด 8,700 กว่าหน่วย และสพฉ.มีรถปฏิบัติการฉุกเฉินที่ อยู่ในระบบและผ่านการจดทะเบียนตามมาตรฐานแล้ว 10,000 คัน

แอพพลิเคชั่น1 เรืออากาศเอกนายแพทย์อัจฉริยะ กล่าวต่ออีกว่า ทั้งนี้รถฉุกเฉินที่จะผ่านการตรวจรับรองจะต้องจดทะเบียนถูกต้องตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ไม่ว่าจะเป็นรถตู้ก็จะต้องห้ามดัดแปลงและก็จะต้องเป็นป้ายทะเบียนสีขาวดำเพื่อให้ตรงไปตามกฎหรือระเบี ยบของกรมขนส่งทางบก ถ้าเกิดเป็นรถตู้ประเภทรถที่เกิ น 7 ที่นั่งก็จะเป็นทะเบียนขาวฟ้าอั นนี้ก็จะสามารถที่จะมีเตียงเพื่ อใช้รองรับผู้ป่วยได้แต่ที่นั่ งต้องเกิน 7 ที่นั่ง โดยส่วนใหญ่ในสภาพปัจจุบั นตามความเป็นจริง รถตู้เวลาเป็นเก้าอี้นั่งก็จะเกิน 7 ที่นั่งก็จะเป็นทะเบียนขาวฟ้า แต่ว่าเวลาไปดัดแปลงก็จะต้องเป็นทะเบียนขาวดำ ซึ่งจะต้องเป็นการไปจดทะเบียน หรือไปขออนุญาตจากกรมการขนส่งให้เรียบร้อย กระบวนการนี้ไม่เกี่ยวกับสพฉ.แต่ว่าเป็นส่วนที่หน่วยปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือว่ารถฉุกเฉินเหล่านั้นจะต้องไปดำเนินการมาให้เรียบร้อย

เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า การตรวจสอบรถพยาบาลฉุกเฉินที่วิ่งอยู่ตามท้องถนน ว่าเป็นรถที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสพฉ.แล้วหรือไม่ สามารถตรวจด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยแอพพลิเคชั่น EMS Certified ที่ทางสพฉ.จัดทำขึ้น