“องอาจ” ชี้ คสช. ต้องรับผิดชอบผลการคลายล็อคปลดล็อค

09 ก.ย. 2561 | 06:07 น.
8545387199539

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชี้การไม่ปลดล็อก หรือคลายล็อกที่ชัดเจนเป็นการกระมทำของ คสช. และ สนช. จี้ คสช.ต้องรับผิดชอบผลกระทบที่เกิดขึ้น  แนะควรอยู่บนพื้นฐานความคิดว่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างไร

นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์   รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องกระบวนการคลายล็อค และปลดล็อค ที่ยังมีความไม่ชัดเจนอยู่ขณะนี้ว่า การที่ยังมีความไม่ชัดเจนจนก่อให้เกิดความเคลือบแคลงว่าจะคลายล็อกอะไรให้ทำได้บ้าง และ จะปลดล็อคเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสมนั้นล้วนแล้วแต่เกิดจากการกระทำของ  คสช. และ สนช. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแม่น้ำห้าสายของ คสช.

ทั้งนี้  คสช. ล็อคพรรคการเมืองไม่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองที่มีผลบังคับใช้มานานเกือบหนึ่งปีแล้ว   ขณะที่ สนช. ก็เขียนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้เมื่อผ่านพ้นไป 90 วันหลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา  ซึ่งการกระทำเช่นนี้ใครๆ ก็มองออกว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจใน คสช. ที่กำลังจะแปรสภาพจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นในสนามการเมือง  โดยปลดล็อคเมื่อไหร่ หรือ จะคลายล็อคอะไรก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ คสช. จะกำหนดเองทั้งสิ้น  เพราะฉะนั้น  คสช. จะต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น

vote_1

อย่างไรก็ตาม  ขณะนี้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า กระบวนการคลายล็อก ปลดล็อค ที่ คสช. จะกำหนดขึ้นมานั้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองหรือ กลุ่มการเมือง ที่มีจุดยืนสนับสนุนผู้มีอำนาจใน  คสช.  ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น  สร้างความไม่ชอบธรรมให้เกิดขึ้นในกระบวนการเลือกตั้ง  อันส่งผลต่อการยอมรับผลการเลือกตั้งตามมา ในที่สุดอาจกลายเป็นการจุดชนวนปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่จบสิ้น คสช. ไม่ควร     คลายล็อกปลดล็อค อยู่บนพื้นฐานความคิดว่าพรรคการเมืองไหนจะได้ประโยชน์  เสียประโยชน์   แต่ควรอยู่บนพื้นฐานความคิดว่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างไร

“ในขณะที่เรากำลังเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง   ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศที่จะกำหนดอนาคตของตนเอง และประเทศชาติบ้านเมือง ผ่านการเลือกตั้ง   ควรมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะศึกษาพิจารณานโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ  อย่างกว้างขวางตั้งแต่บัดนี้ว่า แต่ละพรรคมีนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างไร   จะแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำแบบไหน   รวมถึงแนวทางการพัฒนาประเทศอีกมากมายหลายด้าน  เพราะฉะนั้นการคลายล็อกปลดล็อคควรคำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง  ให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการมีส่วนร่วมทางการเมือง กับพรรคการเมืองอย่างเท่าเทียมกัน  พร้อมเปิดโอกาสให้พรรคการเมือง และประชาชนได้ทำกิจกรรมทางการเมือง ให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นตามธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตยอย่างถ้วนหน้า  ไม่ควรใช้การคลายล็อคอะไรได้บ้าง หรือ ปลดล็อคเมื่อไหร่ เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจใน คสช. ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาไม่จบสิ้น”