Management Tools : GROW Model รู้จักโต กันบ้างไหม

08 ก.ย. 2561 | 13:40 น.
2655296859 เซอร์จอห์น วิทมอร์ (John Whitmore) เป็นแชมป์นักแข่งรถที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ เขาได้รับชัยชนะในการแข่งขันรายการสำคัญๆ ต่างๆ มากมาย เช่น การแข่ง British Saloon Car Championship และ European Touring Car Championship ในช่วงปี ค.ศ. 1961-1965

หลังจากปลดระวางตนเองในอาชีพแข่งรถ วิทมอร์ได้ให้ความสนใจกับการทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและเป็นวิทยากรที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน หนังสือ Coaching for Performance คือหนังสือเล่มดังของเขาที่ถูกตีพิมพ์ซํ้าเป็นภาษาอังกฤษ 5 ครั้งและถูกแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก 22 ภาษา

ตัวแบบหนึ่งซึ่งเป็นที่รู้จักดีที่เขาแนะนำให้คนรู้จัก เรียกว่า GROW Model ซึ่งรวมจากคำย่อของคำ 4 คำ คือ Goal , Reality , Options และ Will
TP6 G ตัวแรก หมายถึง Goal หรือเป้าประสงค์ คือจุดหมายปลายทางที่เราต้องการไปสู่ นั่นหมายถึงก่อนที่จะทำอะไร ควรตั้งจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้เกิดให้ชัดเจน โดยต้องจำแนกความแตกต่างระหว่าง เป้าประสงค์สูงสุด (ultimate goal) กับเป้าประสงค์ในการทำงาน (performance goal)

เขายกตัวอย่างเช่น หากเป้าประสงค์สูงสุดอยากจะลงแข่งวิ่งมาราธอนกับเขา ก็อาจตั้งเป้าประสงค์ย่อยในการฝึกวิ่งแต่ละวันให้ได้สักวันละ 30 นาทีทุกๆเช้า เป็นต้น

What do you want? จึงเป็นคำถามที่ต้องถามตัวเองเป็นคำถามแรกสุดว่า “เราต้องการอะไร” ให้ชัดเจน

R มาจาก Reality หรือ การสำรวจถึงสภาพที่เป็นจริงของตัวเรา ทั้งในด้านความพร้อมทางทรัพยากรที่จะทำสิ่งที่ต้องการให้เกิดความสำเร็จ ดูปัญหาหรือข้อจำกัดที่มีอยู่จริงอย่างตรงไปตรงมา และประเมินสถานการณ์อย่างถูกต้องว่าขณะนี้เราไปได้แค่ไหนของฝันที่ต้องการไปสู่

Reality จึงไม่ใช่การจินตนาการหรือเพ้อฝัน ไม่ใช่การหลงตนเองว่าดีงาม ไม่ใช่เชื่อคำเยินยอจากกองเชียร์ที่มุ่งเน้นประโยชน์จากเรา การประเมินที่ตรงไปตรงมาเท่านั้นที่จะช่วยให้เดินหน้าไปอย่างถูกต้อง

Where are you now? จึงเป็นคำถามเพื่อตรวจสอบตนเองว่า “ขณะนี้คุณอยู่ตรงไหนของฝันแล้ว”

O คือ Options หรือทางเลือกที่จะดำเนินการให้เกิดความสำเร็จตามเป้าประสงค์ คำว่า “ทางเลือก” หมายความว่าต้องมีหลายทางให้เลือก

การระดมสมองจากผู้ที่เกี่ยวข้อง การสอบถามจากผู้รู้ การศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมในสิ่งที่เราไม่รู้ จึงเป็นการนำไปสู่การสร้างทางเลือกที่เพิ่มขึ้นมากกว่าทางบังคับน้อยทางที่มีแต่เดิม การสร้างทางเลือกในการไปสู่ความสำเร็จที่มาก กว่าหนึ่งทางจึงเป็นวิธีการชาญฉลาดที่ทำให้เราสามารถบรรลุความสำเร็จเหนือผู้อื่นได้อย่างแยบยลขึ้น

What could you do? จึงเป็นคำถามเพื่อถามว่า “เราจะทำอะไรได้อีก” ในสถานการณ์ปัจจุบัน

อักษรตัวสุดท้าย W คือ Will แปลว่า “จะ” ซึ่งเป็นคำแห่งอนาคต

หลังจากการตั้งเป้าประสงค์ สิ่งที่มุ่งมั่น ความฝันที่ชัดเจน (G : Goal) หลังจากการประเมินสถานการณ์ที่เป็นจริงแล้วว่า เรามี “ต้นทุน” เท่าไร (R : Reality) และหลังจากการพยายามแสวงหา คิดค้น สิ่งที่เป็นทางเลือกต่างๆแล้ว (O : Options) ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องดำเนินการต่อไปในอนาคต (W : Will)

การประเมินเพื่อตัดสินใจเลือกทางเลือกที่เหมาะสม การกำหนดแผนการและขั้นตอนไปสู่ความสำเร็จอย่างเป็นระบบ การจัดการในด้านทรัพยากรทั้งเงิน ทั้งคน ทั้งองค์ความรู้ที่จำเป็นต้องใช้มาประสานสอดคล้องในจังหวะเวลาที่เหมาะสม การจัดโครงสร้างและระบบในการทำงานเพื่อให้ทุกอย่างรวมเป็นเนื้อเดียวอย่างราบรื่น ไปจนถึงการกำหนดสิ่งบ่งชี้หรือตัวชี้วัดว่า อะไรคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเราไปถึงจุดหมายหรือความสำเร็จแล้ว ทั้งหมดคือ สิ่งที่ “จะ” ต้องทำ

Will แม้จะเป็นคำแห่งอนาคต แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของอดีตและปัจจุบันที่แข็งแกร่ง

คำแห่งอนาคตนี้ จึงไม่ใช่จินตนาการหรือความเพ้อฝัน แต่เป็นสิ่งที่ตั้งใจปฏิบัติบนฐานของการคิดวิเคราะห์ที่รอบด้าน

What will you do? คือคำถามที่ถามว่า “แล้วคุณจะทำอะไรอย่างจริงจังต่อไป”

ลืมบอกไปว่าในเชิงการเมือง Will ยังหมายถึง “ความมุ่งมั่นตั้งใจ” อีกด้วย เช่น Political will หมายถึงความมุ่งมั่นตั้งใจทางการเมือง เลยแว่วๆ ได้ยินบางคนบอกว่า “จะตั้งใจทำอะไร” เมื่อกฎหมายสำคัญประกาศใช้แล้ว นั่นคงต้องรอคอยฟังครับ

|คอลัมน์ : Management Tools
|โดย : รศ.สมชัย ศรีสุทธิยากร สำนักวิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 6 ฉบับ 3399 ระหว่างวันที่ 9-12 ก.ย.2561