เบื้องลึก ระบบแบงก์... ล่ม!กสิกรสารภาพ ‘ผิดที่คน-มีโอกาสเกิดได้อีก’
เหตุ“ระบบเชื่อมต่อธนาคารพาณิชย์ล่ม” เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมต่อเนื่องถึง วันที่ 1 กันยายน 2561 สร้างความปั่นป่วนกับประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนและประชาชนที่ต้องใช้บริการฝาก ถอนโอนเงิน ในวันสิ้นเดือน และเมื่อประกอบเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสำเร็จเบื้องต้นของการทำตลาด ที่ผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้บริการผ่านโมบายแบงกิ้ง ทำให้มีเสียงบ่น ก่นด่า สะพัดในโลกโซเชียล รวดเร็วเป็นไฟลามทุ่ง เพราะหลังๆ ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าแค่ไหน ข่าวการรั่วไหลของข้อมูล หรือระบบปัญหาขัดข้อง ดูเหมือนจะถี่ขึ้นเป็นเงาตามตัว
[caption id="attachment_314400" align="aligncenter" width="402"]
ปรีดี ดาวฉาย[/caption]
ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งถูกระบุว่า เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในครั้งนี้ โดย นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการ
ผู้จัดการ ออกมายอมรับว่า เกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ (Human Error)ที่ทำผิดพลาดขั้นตอนจนไปกระทบเครือข่าย หรือ Network ภายใน ทำให้ต้องปิดระบบเชื่อมต่อกับบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ ITMXซึ่งเป็นบริษัทเชื่อมโยงเครือข่ายกลาง (Switching) ระหว่างธนาคาร เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามไปสู่สถาบันการเงินอื่นๆ พร้อมทั้งได้ประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารด้านระบบคอมพิวเตอร์ของสมาคมธนาคารไทยร่วมกับธนาคารสมาชิก หรือ Chief information officer (CIO)เพื่อพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ต่อมานายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานกสิกร บิสิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป หรือ KBTG ในฐานะประธานชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (Banking Information Technology Club) สมาคมธนาคารไทยได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เกิดจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกสิกรไทยใช้คำสั่งผิดพลาด ทำให้ Core Switch ซึ่งเป็นอุปกรณ์เครือข่ายหลักของธนาคารไม่สามารถทำงานได้ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ทำให้ ITMX ตัดระบบของกสิกรไทยออกจากระบบกลาง เมื่อเวลา 06.31 น.
ส่วนเหตุการณ์ในวันที่ 1 กันยายนยืนยันว่า ระบบของกสิกรไทยยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่มีรายการโอนเงินต่างธนาคารที่ใส่เลขบัญชีไม่ถูกต้องเข้ามาจำนวนมาก ทำให้มีโค้ด Error ซึ่งเกิดจากการโอนหมายเลขบัญชีผิด ใส่เบอร์โทรศัพท์ผิด ซึ่งบางระบบอาจจะแจ้งเพียงว่า ระบบขัดข้อง หรือ บางระบบจะบอกว่า เลขบัญชีผิด ทำให้คนใช้บริการกดใหม่หรือกดซํ้าหลายครั้ง ทำให้ธนาคารบางแห่งมีปริมาณธุรกรรมสูง โดยทั้งวันประมาณกว่า 4 หมื่นรายการที่โอนหมายเลขบัญชีผิด ซึ่งพวกนี้ จะเรียกว่าปริมาณเทียม ซึ่งเมื่อ ITMX เห็นผิดสังเกต จึงตัดกสิกรไทย ออกจากระบบกลางเมื่อเวลา 10.15 น.
จากนั้น กสิกรไทยจึงเปลี่ยนไปใช้ช่องทางสำรองของ PCC แทนทันที ซึ่งเป็นคนละระบบกับ ITMX ทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปยังทุกธนาคารได้และลูกค้าบางธนาคารที่ใช้ช่องทาง PCC ขณะนั้นสามารถโอนเงินเข้าบัญชีกสิกรไทยได้ยกเว้นลูกค้าที่ใช้ช่องทาง ITMX ไม่สามารถโอนเงินมายังกสิกรไทย เนื่องจากใช้คนละช่องทางกัน
“เรายอมรับโดยดุษณีว่า เหตุเกิดในวันที่ 31 สิงหาคมนั้น เริ่มต้นที่กสิกรไทย เป็นปัญหาเกิดจากคนคือ เจ้าหน้าที่ในกสิกรไทยใส่คำสั่งผิดพลาดและอีกประเด็นคือ คนใส่หมายเลขบัญชี หมายเลขโทรศัพท์ผิด ผมขอรับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เหตุเกิดในวันที่ 2 คือวันที่ 1 กันยายน ไม่ได้เกิดจากกสิกรไทย ซึ่งทุกคนบอกว่าเพราะคุณคนเดียวกสิกรไทย ซึ่งเราไม่สบายใจกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเร่งแก้ไขในหลายจุด ยินดีลงทุนเพิ่มเพราะลูกค้าเรามากขึ้นทุกวัน”
สำหรับประเด็นของ Human Error ถามว่า จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น “ความผิดพลาดจากคนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งธนาคารต้องพยายามทำให้เกิดปัญหาน้อยลงและใช้คนน้อยลง โดยปัจจุบันบางอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ธนาคารใช้บางเครื่องก็สามารถประมวลหรือวิเคราะห์แทนคนได้ ดังนั้นอนาคตธนาคารทยอยใช้เครื่องทดแทนคน” นายสมคิดกล่าวในที่สุด
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,399 วันที่ 9 - 12 กันยายน พ.ศ. 2561
[caption id="attachment_314400" align="aligncenter" width="402"]
ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) ซึ่งถูกระบุว่า เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาในครั้งนี้ โดย นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการ
ผู้จัดการ ออกมายอมรับว่า เกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ (Human Error)ที่ทำผิดพลาดขั้นตอนจนไปกระทบเครือข่าย หรือ Network ภายใน ทำให้ต้องปิดระบบเชื่อมต่อกับบริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด หรือ ITMXซึ่งเป็นบริษัทเชื่อมโยงเครือข่ายกลาง (Switching) ระหว่างธนาคาร เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจลุกลามไปสู่สถาบันการเงินอื่นๆ พร้อมทั้งได้ประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารด้านระบบคอมพิวเตอร์ของสมาคมธนาคารไทยร่วมกับธนาคารสมาชิก หรือ Chief information officer (CIO)เพื่อพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ต่อมานายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธานกสิกร บิสิเนส-เทคโนโลยีกรุ๊ป หรือ KBTG ในฐานะประธานชมรมเทคโนโลยีสารสนเทศ (Banking Information Technology Club) สมาคมธนาคารไทยได้ชี้แจงว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เกิดจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของกสิกรไทยใช้คำสั่งผิดพลาด ทำให้ Core Switch ซึ่งเป็นอุปกรณ์เครือข่ายหลักของธนาคารไม่สามารถทำงานได้ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ทำให้ ITMX ตัดระบบของกสิกรไทยออกจากระบบกลาง เมื่อเวลา 06.31 น.
ส่วนเหตุการณ์ในวันที่ 1 กันยายนยืนยันว่า ระบบของกสิกรไทยยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่มีรายการโอนเงินต่างธนาคารที่ใส่เลขบัญชีไม่ถูกต้องเข้ามาจำนวนมาก ทำให้มีโค้ด Error ซึ่งเกิดจากการโอนหมายเลขบัญชีผิด ใส่เบอร์โทรศัพท์ผิด ซึ่งบางระบบอาจจะแจ้งเพียงว่า ระบบขัดข้อง หรือ บางระบบจะบอกว่า เลขบัญชีผิด ทำให้คนใช้บริการกดใหม่หรือกดซํ้าหลายครั้ง ทำให้ธนาคารบางแห่งมีปริมาณธุรกรรมสูง โดยทั้งวันประมาณกว่า 4 หมื่นรายการที่โอนหมายเลขบัญชีผิด ซึ่งพวกนี้ จะเรียกว่าปริมาณเทียม ซึ่งเมื่อ ITMX เห็นผิดสังเกต จึงตัดกสิกรไทย ออกจากระบบกลางเมื่อเวลา 10.15 น.
จากนั้น กสิกรไทยจึงเปลี่ยนไปใช้ช่องทางสำรองของ PCC แทนทันที ซึ่งเป็นคนละระบบกับ ITMX ทำให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปยังทุกธนาคารได้และลูกค้าบางธนาคารที่ใช้ช่องทาง PCC ขณะนั้นสามารถโอนเงินเข้าบัญชีกสิกรไทยได้ยกเว้นลูกค้าที่ใช้ช่องทาง ITMX ไม่สามารถโอนเงินมายังกสิกรไทย เนื่องจากใช้คนละช่องทางกัน
“เรายอมรับโดยดุษณีว่า เหตุเกิดในวันที่ 31 สิงหาคมนั้น เริ่มต้นที่กสิกรไทย เป็นปัญหาเกิดจากคนคือ เจ้าหน้าที่ในกสิกรไทยใส่คำสั่งผิดพลาดและอีกประเด็นคือ คนใส่หมายเลขบัญชี หมายเลขโทรศัพท์ผิด ผมขอรับรองล้านเปอร์เซ็นต์ว่า เหตุเกิดในวันที่ 2 คือวันที่ 1 กันยายน ไม่ได้เกิดจากกสิกรไทย ซึ่งทุกคนบอกว่าเพราะคุณคนเดียวกสิกรไทย ซึ่งเราไม่สบายใจกับเหตุที่เกิดขึ้น โดยเร่งแก้ไขในหลายจุด ยินดีลงทุนเพิ่มเพราะลูกค้าเรามากขึ้นทุกวัน”
สำหรับประเด็นของ Human Error ถามว่า จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่นั้น “ความผิดพลาดจากคนนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งธนาคารต้องพยายามทำให้เกิดปัญหาน้อยลงและใช้คนน้อยลง โดยปัจจุบันบางอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่ธนาคารใช้บางเครื่องก็สามารถประมวลหรือวิเคราะห์แทนคนได้ ดังนั้นอนาคตธนาคารทยอยใช้เครื่องทดแทนคน” นายสมคิดกล่าวในที่สุด
หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,399 วันที่ 9 - 12 กันยายน พ.ศ. 2561
