อัดงบ 50 ล้านบาท ศึกษาโรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้

07 ก.ย. 2561 | 07:23 น.
 

คณะกรรมการฯ SEA เดินหน้าศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ เตรียมเปิดรับผู้สนใจยื่นข้อเสนอ โครงการเพื่อการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้า วงเงินไม่กิน 50 ล้านบาท

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานร่วมคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ เปิดเผยว่า  กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างเร่งบริหารจัดการความมั่นคงด้านไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ คู่ขนานไปกับการลดความขัดแย้งในพื้นที่  ซึ่งในวันที่ 7 กันยายน 2561 ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการกำกับการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ (SEA)  เป็นครั้งที่ 5 โดยคณะกรรมการฯ ได้แจ้งความคืบหน้าการบรรลุแนวทางการสนับสนุนงบประมาณการดำเนินการ จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เพื่อว่าจ้างศึกษาโครงการฯวงเงิน 50 ล้านบาท NIK_0253

โดยสำนักงานกกพ.และกระทรวงพลังงาน ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือโครงการศึกษาการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ร่วมกัน สนับสนุนให้เกิดการศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ดังกล่าว เพื่อให้รัฐบาลสามารถกำหนดนโยบายการพัฒนาและจัดหาพลังงานในภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับจากประชาชน และสนับสนุนให้กระทรวงพลังานสามารถปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ได้อย่างมีรูปธรรม รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคสังคมและประชาชนมีความรู้ และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้าเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน

ปัจจุบันสำนักงาน กกพ. ได้ออกประกาศเรื่อง การเปิดรับข้อเสนอโครงการเพื่อการส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ ความตระหนัก และมีส่วนร่วมทางด้านไฟฟ้า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญ จะมีกรอบวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท และผู้มีสิทธิ์ยื่นขอรับการจัดสรร เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ได้แก่ หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรไม่แสวงหากำไร โดยกระทรวงพลังงานจะเปิดชี้แจง TOR และตอบข้อสงสัยสำหรับผู้สนใจในวันที่ 14 กันยายน 2561 และกำหนดระยะเวลาให้ผู้ที่สนใจยื่นข้อเสนอโครงการฯ มายังกระทรวงพลังงาน ภายใน 3 สัปดาห์ (ระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2561 ถึง 5 ตุลาคม 2561) ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้จะสามารถพิจารณาผู้ได้รับการคัดเลือกมาศึกษาโครงการฯ และหากดำเนินการได้กรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้คาดว่าจะได้ผลการศึกษาทั้งหมดภายในเวลา 9 เดือน

นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะประธานร่วมฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่าคณะกรรมการฯ ได้กำหนดเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอโครงการที่มีความเหมาะสมมากที่สุด เพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้นการคลี่คลายสถานการณ์ที่มีข้อขัดแย้งต่อพื้นที่จัดตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ของประชาชนแต่ละกลุ่มอย่างรอบคอบ ยึดหลักดำเนินการด้วยความเป็นกลาง ตามหลักวิชาการที่ได้รับการยอมรับ และจะวางกรอบการดำเนินงานเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานในพื้นที่ภาคใต้ระยะยาว โดยยึดหลักให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินการของคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้