ชงตั้งโรงไฟฟ้า6พื้นที่ พีดีพีใหม่ชี้มีความจำเป็น

10 ก.ย. 2561 | 11:29 น.
 

“พลังงาน” เร่งสรุปแผนพีดีพีฉบับใหม่ เตรียมประชุม กบง.นัดพิเศษเร็วๆ นี้ พิจารณาการส่งต่อ กพช. เห็นชอบภายในก.ย.นี้ ชี้กทม.และ 6 ภาค จำเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าหลัก เพื่อความมั่นคง

นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงความคืบหน้าการจัดทำแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 (พีดีพี) ฉบับใหม่ ว่า สนพ.อยู่ระหว่างเร่งจัดทำแผนพีดีพีฉบับใหม่ ซึ่งในแผนพีดีพีฉบับนี้ต่างจากแผนเดิม เนื่องจากจะแบ่งโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงออกเป็น 6 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และบวกพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยทุกพื้นที่จําเป็นต้องมีโรงไฟฟ้าหลักเพื่อความมั่นคงทุกภาค เพื่อคํ้าระบบ ส่วนรายละเอียดนั้นจะต้องเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาพีดีพีฉบับใหม่ ภายในเดือนกันยายนนี้ จากนั้นจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ต่อไป โรงไฟฟ้า

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายใต้แผนพีดีพีฉบับใหม่จะแบ่งโรงไฟฟ้าออกเป็นโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคง และด้านโรงไฟฟ้า เพื่อการแข่งขันภาคผู้ประกอบการและภาคประชาชน ซึ่งโรงไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงจะแบ่งการลงทุนเป็นรายภาค รวมการผลิตไฟฟ้พลังงานแสงอาทิตย์ภาคประชาชนเพื่อผลิตใช้เองและขายส่วนเกินเข้าระบบเอาไว้ด้วยทั้งการขายผ่านคนกลาง หรือขายเข้าระบบของการไฟฟ้า คาดจะเปิดให้เริ่มผลิตได้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป” นายศิริ กล่าว

สำหรับกรณีค่าไฟฟ้าคาดว่าหากสามารถดำเนินการตามแผนพีดีพีฉบับใหม่ แนวโน้มค่าไฟฟ้ามีโอกาสถูกลงกว่าแผนเดิมที่คาดว่าในช่วงปลายแผนจะอยู่ที่ 5 บาทต่อหน่วยในปี 2579 รวมทั้งมีโอกาสที่ค่าไฟฟ้าจะถูกกว่าปัจจุบัน โดยกระทรวงพลังงานจะพยายามรักษาระดับราคาขายปลีกค่าไฟฟ้าด้านความมั่นคงให้อยู่ระดับ 3.60 บาทต่อหน่วย เนื่องจากภาพรวมในระยะยาว จะเปิดกว้างทุกกลุ่มแข่งขันการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น รวมทั้งบริหารจัดการไฟฟ้า ระบบสมาร์ท กริด อาจส่งผลให้อนาคตมีแนวโน้มถูกกว่าปัจจุบัน อย่างไรก็ตามในส่วนของการวางระบบนั้น ทาง 3 การไฟฟ้า จะต้องร่วมมือกัน รวมทั้งมีบทบาทในการรักษาเสถียรภาพระบบไฟฟ้าต่อไป

โดยข้อมูลเบื้องต้นแผนพีดีพีฉบับใหม่ มีการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าปลายแผนปี 2580 จะอยู่ระดับ 6 หมื่นเมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ประมาณ 3.4 หมื่นเมกะวัตต์

หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,399 วันที่ 9-12 กันยายน 2561