"ระวี" ท้าดีเบต! หนุนร่างกฎหมายข้าว
ฮือทั้งประเทศ 'ระวี' ท้าดีเบตกับทุกองค์กรชาวนา ปลุกศูนย์ข้าวชุมชนกว่า 6 แสนคนทั่วประเทศ ลุกสู้ ดันรับร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ. .... ยันร่างยังสามารถปรับแก้ไขได้ไม่สาย แต่อย่าทำแท้ง แนะแก้ไขปรับปรุงรายมาตรา เชื่อมีขบวนการใต้ดินที่ไม่อยากให้มีกฎหมาย
นายระวี รุ่งเรือง นายกสมาคมการค้าเครือข่ายชาวนาไทยและเลขานุการคณะกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... ยังสามารถแก้ไขปรับปรุงได้ หลังจากที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว จะส่งกลับมายังที่ประชุม ครม. เห็นชอบใหม่ จากนั้นจะส่งกลับมาที่ สนช. ใหม่ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 1-3 ในช่วงนั้นก็สามารถออกความคิดเห็นได้
"การที่มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยนั้น มองว่าเป็นเกมข้ออ้างเพื่อทำแท้งว่าเป็นกฎหมายควบคุมชาวนา ไม่จริง แต่นี่เป็นความต้องการของชาวนามานานแล้ว เพราะชาวไร่อ้อย ก็มี พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลฯ ชาวสวนยางพารา เขาก็มี พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ชาวไร่มันสำปะหลัง เขาก็มี พ.ร.บ.มันสำปะหลังฯ อาชีพ 'ชาวนา' เป็นเกษตรกรจำนวนมาก จะมีบ้าง ทำไมถึงมีปัญหามาโดยตลอด ปัจจุบันจะเห็นว่า วงจรข้าว กลางน้ำ ปลายน้ำ ร่ำรวยมาก ต้นน้ำ คือ ชาวนายากจน เป็นคนชั้นต่ำมาตลอด หรือจะปล่อยให้กดขี่ตลอดไป คงยอมไม่ได้ กลัวด้วยหรือ 'โรงสี' รวมตัวไม่ซื้อข้าวจากชาวนา"
นายระวี กล่าวว่า การมีกฎหมายฉบับนี้ ตั้งคำถามว่า ในห่วงโซ่การผลิตข้าวในปัจจุบัน กว่าจะถึงผู้บริโภค ราคาต่างกันมาก จากต้นทาง กลางทาง กลางทาง และกลางทาง ผ่านการแบ่งผลกำไรตลอดทางกว่าจะถึงผู้บริโภค เหล่าเสือตัวเดิม ๆ "อ้วนพี" กันมานาน พอจะมีเสือตัวใหม่ (ชาวนา) ขอ "อ้วนพี" จากที่ผอมแห้งมาตลอด ก็โวยวายกันใหญ่ ปัจจุบัน ศูนย์ข้าวชุมชนที่สำรวจและขึ้นทะเบียนใหม่ได้ 1,786 แห่ง เดิมมี 3,000 กว่าแห่ง มีสมาชิกกว่า 6 แสนคน กำลังสำรวจเพื่อขึ้นทะเบียนให้ครบ 3,000 พันแห่ง ในปี 2562
ส่วนแผนในปี 2563-2565 จะจัดตั้งให้ครบ 7,000 แห่ง ครบทุกตำบลที่ปลูกข้าวของประเทศ สมาชิก 1 ล้านคนขึ้นไป เพื่อเป็นองค์กรชาวนาที่ช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เขต และระดับประเทศ พร้อมที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายที่ สนช. เสนอ เนื่องจากเป็นกฎหมายฉบับแรกที่ออกมาเพื่อคุ้มครองปกป้องชาวนาและข้าวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศให้มีความมั่นคง แข็งแรง ยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ดี อยากให้ "หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ" เป็นองค์กรกลางในการจัดเวทีชาวนา โดยให้เชิญชาวนาทุกกลุ่ม เช่น สภาเกษตรกร ภาคชาวนา ศูนย์ข้าวชุมชน สมาคมชาวนา และกลุ่มชาวนาอื่น ได้มาเสวนากัน ให้ผู้นำแต่ละองค์กร 1-2 คน แล้วก็ให้ลงมติกันในที่ประชุม ขอท้าดีเบตกับทุกองค์กรชาวนา มั่นใจว่า ชาวนาทั่วประเทศจะยกมือสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างแน่นอน
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เจน4ข้าวหงษ์ทองปรับกลยุทธ์ดันยอดขายเป้า2พันล้าน
● บทบรรณาธิการ : นายกฯตัดสินใจเร็ว "ล้มจำนำข้าว" ยุ้งฉางเอกชน
นายระวี รุ่งเรือง นายกสมาคมการค้าเครือข่ายชาวนาไทยและเลขานุการคณะกรรมการศูนย์ข้าวชุมชนระดับประเทศ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงร่างพระราชบัญญัติข้าว พ.ศ. .... ยังสามารถแก้ไขปรับปรุงได้ หลังจากที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่งเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่งคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้ว จะส่งกลับมายังที่ประชุม ครม. เห็นชอบใหม่ จากนั้นจะส่งกลับมาที่ สนช. ใหม่ เพื่อเข้าสู่การพิจารณาวาระ 1-3 ในช่วงนั้นก็สามารถออกความคิดเห็นได้
"การที่มีหลายฝ่ายออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยนั้น มองว่าเป็นเกมข้ออ้างเพื่อทำแท้งว่าเป็นกฎหมายควบคุมชาวนา ไม่จริง แต่นี่เป็นความต้องการของชาวนามานานแล้ว เพราะชาวไร่อ้อย ก็มี พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลฯ ชาวสวนยางพารา เขาก็มี พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 ชาวไร่มันสำปะหลัง เขาก็มี พ.ร.บ.มันสำปะหลังฯ อาชีพ 'ชาวนา' เป็นเกษตรกรจำนวนมาก จะมีบ้าง ทำไมถึงมีปัญหามาโดยตลอด ปัจจุบันจะเห็นว่า วงจรข้าว กลางน้ำ ปลายน้ำ ร่ำรวยมาก ต้นน้ำ คือ ชาวนายากจน เป็นคนชั้นต่ำมาตลอด หรือจะปล่อยให้กดขี่ตลอดไป คงยอมไม่ได้ กลัวด้วยหรือ 'โรงสี' รวมตัวไม่ซื้อข้าวจากชาวนา"
นายระวี กล่าวว่า การมีกฎหมายฉบับนี้ ตั้งคำถามว่า ในห่วงโซ่การผลิตข้าวในปัจจุบัน กว่าจะถึงผู้บริโภค ราคาต่างกันมาก จากต้นทาง กลางทาง กลางทาง และกลางทาง ผ่านการแบ่งผลกำไรตลอดทางกว่าจะถึงผู้บริโภค เหล่าเสือตัวเดิม ๆ "อ้วนพี" กันมานาน พอจะมีเสือตัวใหม่ (ชาวนา) ขอ "อ้วนพี" จากที่ผอมแห้งมาตลอด ก็โวยวายกันใหญ่ ปัจจุบัน ศูนย์ข้าวชุมชนที่สำรวจและขึ้นทะเบียนใหม่ได้ 1,786 แห่ง เดิมมี 3,000 กว่าแห่ง มีสมาชิกกว่า 6 แสนคน กำลังสำรวจเพื่อขึ้นทะเบียนให้ครบ 3,000 พันแห่ง ในปี 2562
ส่วนแผนในปี 2563-2565 จะจัดตั้งให้ครบ 7,000 แห่ง ครบทุกตำบลที่ปลูกข้าวของประเทศ สมาชิก 1 ล้านคนขึ้นไป เพื่อเป็นองค์กรชาวนาที่ช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริง ตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด เขต และระดับประเทศ พร้อมที่จะสนับสนุนร่างกฎหมายที่ สนช. เสนอ เนื่องจากเป็นกฎหมายฉบับแรกที่ออกมาเพื่อคุ้มครองปกป้องชาวนาและข้าวไทย ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ของประเทศให้มีความมั่นคง แข็งแรง ยั่งยืนต่อไป
อย่างไรก็ดี อยากให้ "หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ" เป็นองค์กรกลางในการจัดเวทีชาวนา โดยให้เชิญชาวนาทุกกลุ่ม เช่น สภาเกษตรกร ภาคชาวนา ศูนย์ข้าวชุมชน สมาคมชาวนา และกลุ่มชาวนาอื่น ได้มาเสวนากัน ให้ผู้นำแต่ละองค์กร 1-2 คน แล้วก็ให้ลงมติกันในที่ประชุม ขอท้าดีเบตกับทุกองค์กรชาวนา มั่นใจว่า ชาวนาทั่วประเทศจะยกมือสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้อย่างแน่นอน
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เจน4ข้าวหงษ์ทองปรับกลยุทธ์ดันยอดขายเป้า2พันล้าน
● บทบรรณาธิการ : นายกฯตัดสินใจเร็ว "ล้มจำนำข้าว" ยุ้งฉางเอกชน
