กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฮับบ้านแพง ค่ายสิงห์ฯปั้นเมืองเศรษฐี

10 ก.ย. 2561 | 04:33 น.
 

‘สิงห์เอสเตท’ปั้นเมืองเศรษฐี

ทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ฮับบ้านแพง สิงห์ เอสเตท เขย่าต่อ ส่งเนอวานา ไดอิ  ร่วมทุนญี่ปุ่น ปั้นสมาร์ทซิตีสุดหรู 20-50 ล้าน หลังเปิดตัวอัลตราลักชัวรี โซนประดิษฐ์มนูธรรม

นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ในเครือของบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (S)เปิดเผยถึงความคืบหน้า การพัฒนาที่ดินจำนวน 250 ไร่ บนทำเลถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) เพื่อเป็นสมาร์ทซิตีแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก หลังจากระบุว่าเป็นทำเลที่จะมีการเจริญเติบโตอย่างสูงในอนาคต เนื่องจากเป็นถนน 1 ใน 3 สายเท่านั้น ที่รถจะสามารถวิ่งตรงไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิได้ นอกจากเส้นทางบางนา-ตราด และถนนมอเตอร์เวย์ในปัจจุบันแล้ว ทั้งยังใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 3 สาย คือ แอร์พอร์ต ลิงค์ และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) รวมถึงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการ พัฒนาเมือง จากสิ่งอำนวยความสะดวกที่รายล้อมครบด้าน เช่น สถานศึกษาชื่อดัง ห้างสรรพสินค้าและโรงพยาบาลชั้นนำ ซึ่งทำให้ขณะนี้มูลค่าที่ดินเริ่มสูงขึ้น และเป็นที่สนใจของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายราย เข้ามาจับจองพื้นที่เพื่อพัฒนาโครงการกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเนอวานาไดอิด้วย ที่มีแผนนำร่องพัฒนาเมืองใหม่ (สมาร์ทซิตี) มูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านบาท เป้าหมายระยะเวลาพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวรวม 5 ปี ภาพบ้านสันติบุรี

โดยสมาร์ทซิตีดังกล่าวนั้น จะประกอบไปด้วย พื้นที่เช่าสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ และโดยเฉพาะโครงการเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งรูปแบบบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ รวม 8-9 โปรเจ็กต์ ขณะนี้นำร่องไปแล้ว 1 โครงการ คือ “ทาวน์โฮม เนอวานา ดีฟายน์” บนเนื้อที่ 19 ไร่ จำนวน 173 หน่วย มูลค่า 1.9 พันล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 7 ล้านบาทต่อหน่วย ซึ่งมียอดขายไปแล้วประมาณ 85% ในเฟสแรกที่เปิดขาย ขณะที่ล่าสุดเปิดแผนโครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์เป็นโปรเจ็กต์ที่ 2  “เนอวานา บียอนด์” บนเนื้อที่ 27 ไร่  จำนวน 85 หลัง มูลค่าโครงการ 2.6 พันล้านบาท ราคา 20-50 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนครั้งแรกกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของญี่ปุ่น ไดวะ เฮ้าส์ ภายใต้ชื่อบริษัท เนอวานา ไดวะ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยเน้นรูปแบบบ้านสไตล์โมเดิร์น ทันสมัย ขนาดตั้งแต่ 300-470 ตารางเมตร เจาะกลุ่มลูกค้าเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ โดยจะเปิดขายในช่วงเดือนธันวาคมนี้  ขณะที่โครงการที่เหลือ จะเน้นจับกลุ่มราคาระดับบนขึ้นไปเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นในลักษณะร่วมทุนหรือพัฒนาขึ้นเอง  พร้อมคาดว่าอีก 5 ปีหลังจากนี้ ทำเลดังกล่าวจะมีความเจริญและคึกคักอย่างมาก

“เบื้องต้น จาก 11 โปรเจ็กต์ 8-9 โปรเจ็กต์จะเป็นโครงการที่อยู่อาศัย เพราะเวลานี้พื้นที่ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก คือ กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เหมาะมากกับการทำบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ซึ่งนอกจากเราแล้ว ขณะนี้ยังมีรายอื่นๆเข้ามาซื้อลงทุน เพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ ที่ดินในย่านนี้เทรดกันวุ่น โรงเรียนนานาชาติก็จะมาอีก คือ เหมาะสุดกับการอยู่อาศัย อีก 5 ปี รับรองคึกคักมาก”

นายศรศักดิ์ ยังระบุ ว่า แผนในปี 2562 นั้น บริษัทเตรียมจะเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ 250 ไร่ดังกล่าว อีก 2 โครงการ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลใกล้เมือง รองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ครอบ ครัวขยาย หรือกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ต้องการหลีกหนีความแออัดในกรุงเทพฯ ซึ่งคาดว่าสมาร์ทซิตีที่จะเกิดขึ้นนั้นจะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ให้กับตลาดอสังหาริม ทรัพย์ไทยอย่างแน่นอน

หน้า 29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,399 วันที่ 9-12 กันยายน 2561