ตั้ง "กำแพงภาษี" ก็ฉุดไม่อยู่! มะกันขาดดุลการค้าเพิ่ม

10 ก.ย. 2561 | 02:48 น.
100961-1934

หลังเปิดศึกการค้ากับจีนไปแล้ว
 โดยต่างฝ่ายต่างตั้งกำแพงภาษีใส่กันมาเป็นระลอก แต่ผลลัพท์ยังไม่เป็นไปตามที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งเป้าหมายไว้ นั่นคือ การลดยอดขาดดุลการค้า ในทางตรงข้าม ตัวเลขสถิติล่าสุดในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ชี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางสภาวะที่ยอดการส่งออกถั่วเหลืองและเครื่องบินพาณิชย์ปรับลดลง สวนทางกับตัวเลขการนำเข้าในภาพรวมที่ขยับสูงขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่า ปัจจัยทางการค้าอาจจะส่งผลฉุดรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าในเดือน ก.ค. พุ่งสูงขึ้น 9.5% สู่ระดับ 50,100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1.65 ล้านล้านบาท เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 5 เดือน และเป็นการเพิ่มติดต่อกันมาเป็นเดือนที่ 2 แล้ว โดยในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ยังอยู่ที่ระดับ 45,700 ล้านดอลลาร์

รายงานเปิดเผยว่า ในส่วนของยอดขาดดุลการค้าที่มีต่อประเทศจีนนั้น สหรัฐฯ ขาดดุลเพิ่มขึ้นถึง 10% เป็นมูลค่า 36,800 ล้านดอลลาร์


container


ก่อนหน้านี้ เคยมีการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับตัวเลขคาดการณ์การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งในภาพรวมมีการคาดหมายว่า ตัวเลขจะพุ่งสูงถึงระดับ 50,300 ล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.ค. 2561 (ซึ่งเป็นคาดการณ์ที่มากกว่าตัวเลขจริง) แม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะดำเนินนโยบายการค้า "อเมริกาต้องมาก่อน" หรือ America First ที่เน้นปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าของสหรัฐฯ และเพิ่มการลงทุน-การสร้างงานในประเทศ แต่สหรัฐฯ ก็ยังขาดดุลการค้าเพิ่มมากขึ้นอยู่ดี นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นมา ทั้งสหรัฐฯ และจีน ได้โต้ตอบกันด้วยมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากกันและกัน คิดเป็นมูลค่ารวมแล้ว 100,000 ล้านดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ว่า การขึ้นภาษีสินค้ารอบใหม่กำลังจะเกิดขึ้นอีกในเร็ววันนี้ ซึ่งจะสร้างปัจจัยเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ และเศรษฐกิจโลกโดยรวม

นอกจากจีนแล้ว สหรัฐฯ ยังขาดดุลให้กับสหภาพยุโรป (อียู) และแคนาดาเพิ่มมากขึ้น โดยตัวเลขขาดดุลการค้าให้กับแคนาดาในเดือน ก.ค. นั้น เพิ่มขึ้น 57.6% คิดเป็นมูลค่า 3,100 ล้านดอลลาร์ และส่วนยอดขาดดุลการค้าให้กับอียูเพิ่มขึ้น 50% เป็น 17,600 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงมากเป็นประวัติการณ์ ส่วนกับเม็กซิโกนั้น สหรัฐฯ ขาดดุลน้อยลง คือ ลดลง 25.3% มาอยู่ที่ระดับ 5,500 ล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้าทิศทางการเติบโตของยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ก็เชื่อว่าจะส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 หดตัวลงอย่างแน่นอน


……………….
เซกชัน : เศรษฐกิจต่างประเทศ โดย นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,399 วันที่ 9-12 ก.ย. 2561 หน้า 10

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เงินบาทแข็งค่า 33.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตลาดกังวลสหรัฐและจีนตั้งกำแพงภาษี 25% ใน 23 ส.ค.นี้
"สนธิรัตน์"ยันไทยยังไม่ร่วมตอบโต้ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีเหล็ก


เพิ่มเพื่อน
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว