กรมชลประทานน้อมนำ "ศาสตร์พระราชา" แก้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง 'บางสะพาน' ระยะที่ 2
อธิบดีกรมชลประทาน กดปุ่มเปิด "โครงการบรรเทาอุทกภัย บางสะพาน ระยะที่ 2" สานโครงการพระราชดำริ ในหลวง ร.9 หวังแก้ปัญหาน้ำท่วม-แล้งซ้ำซาก เผย สำเร็จตามแผนเดือน มี.ค. 62 คาดเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 1.5 หมื่นไร่
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์" โดยมี นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการฯ ณ โครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ อ.บางสะพาน มีสภาพภูมิประเทศที่ลาดชันในบริเวณพื้นที่ที่เป็นต้นน้ำ และเป็นที่ราบสลับที่ดอนบริเวณพื้นที่ตอนล่าง เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันในฤดูฝน น้ำจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างก่อนไหลลงสู่ทะเล ประกอบกับมีคลองระบายน้ำตามธรรมชาติที่แคบและตื้นเขิน อีกทั้งการขยายตัวของเมือง เส้นทางคมนาคม การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตลอดจนสิ่งก่อสร้างรุกล้ำทางน้ำที่เป็นอุปสรรคและกีดขวางการไหลเวียนของน้ำ ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำไหลระบายไม่ทัน จนเกิดเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.บางสะพาน เป็นประจำทุกปี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริ ให้กรมชลประทานศึกษาพิจารณาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาอุกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน อ.บางสะพาน กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยการปรับปรุงขุดลอกคลองบางสะพาน ระยะที่ 1 ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อยแล้วในปี 2560 ที่ผ่านมา สามารถระบายน้ำหลากในช่วงฤดูฝน ปี 2560 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.บางสะพาน ได้เป็นอย่างดี
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ได้ดำเนินการขุดลอกคลองบางสะพาน ระยะที่ 2 จาก กม.5+500 ถึง กม.14.880 ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร พร้อมอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จะแล้วเสร็จตามแผนในเดือน มี.ค. 2562 และมีแผนที่จะก่อสร้างประตูระบายน้ำในลุ่มน้ำคลองบางสะพาน 3 จุด คือ ประตูระบายน้ำทุ่งพร้าว ประตูระบายน้ำกลางคลองบางสะพาน และประตูระบายน้ำปลายคลองบางสะพาน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและป้องกันน้ำทะเลหนุนเข้าพื้นที่การเกษตร
รวมทั้งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่ลุ่มน้ำ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง ความจุ 13.26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 6,850 ไร่ และอ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง ความจุ 17.46 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคุลมพื้นที่ชลประทาน 8,600 ไร่ เพื่อเป็นแก้มลิงตัดยอดน้ำชะลอการไหลหลากของน้ำในฤดูน้ำหลาก และสามารถช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างคลองผันน้ำเลี่ยง โดยขุดคลองผันน้ำคลองเขาม้าร้อง-อ่าวบางสะพาน
ดังนั้น หากสามารถดำเนินการโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เสร็จทั้งโครงการ จะทำให้สามารถระบายน้ำที่ไหลผ่านลุ่มน้ำคลองบางสะพานได้ไม่น้อยกว่า 1,025 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30.75 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ จำนวน 15,450 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ในพื้นที่ อ.บางสะพาน ได้อย่างยั่งยืน
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "กฤษฎา" ยัน! กรมชลประทานถอดบทเรียนปี 54 รับมือน้ำท่วม
● กรมชลประทานระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ปิดช่องคันคลองชลประทานขาดบริเวณบ้านคุยโพธิ์
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์" โดยมี นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการฯ ณ โครงการบรรเทาอุทกภัยพื้นที่ อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระยะที่ 2 อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่ อ.บางสะพาน มีสภาพภูมิประเทศที่ลาดชันในบริเวณพื้นที่ที่เป็นต้นน้ำ และเป็นที่ราบสลับที่ดอนบริเวณพื้นที่ตอนล่าง เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวันในฤดูฝน น้ำจะไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตอนล่างก่อนไหลลงสู่ทะเล ประกอบกับมีคลองระบายน้ำตามธรรมชาติที่แคบและตื้นเขิน อีกทั้งการขยายตัวของเมือง เส้นทางคมนาคม การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ตลอดจนสิ่งก่อสร้างรุกล้ำทางน้ำที่เป็นอุปสรรคและกีดขวางการไหลเวียนของน้ำ ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำไหลระบายไม่ทัน จนเกิดเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.บางสะพาน เป็นประจำทุกปี
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริ ให้กรมชลประทานศึกษาพิจารณาแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาอุกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืนให้กับประชาชน อ.บางสะพาน กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยการปรับปรุงขุดลอกคลองบางสะพาน ระยะที่ 1 ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร เสร็จเรียบร้อยแล้วในปี 2560 ที่ผ่านมา สามารถระบายน้ำหลากในช่วงฤดูฝน ปี 2560 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.บางสะพาน ได้เป็นอย่างดี
สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ได้ดำเนินการขุดลอกคลองบางสะพาน ระยะที่ 2 จาก กม.5+500 ถึง กม.14.880 ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร พร้อมอาคารป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จะแล้วเสร็จตามแผนในเดือน มี.ค. 2562 และมีแผนที่จะก่อสร้างประตูระบายน้ำในลุ่มน้ำคลองบางสะพาน 3 จุด คือ ประตูระบายน้ำทุ่งพร้าว ประตูระบายน้ำกลางคลองบางสะพาน และประตูระบายน้ำปลายคลองบางสะพาน เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและป้องกันน้ำทะเลหนุนเข้าพื้นที่การเกษตร
รวมทั้งก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่ลุ่มน้ำ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำบ้านไทรทอง ความจุ 13.26 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน 6,850 ไร่ และอ่างเก็บน้ำคลองลอยตอนล่าง ความจุ 17.46 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคุลมพื้นที่ชลประทาน 8,600 ไร่ เพื่อเป็นแก้มลิงตัดยอดน้ำชะลอการไหลหลากของน้ำในฤดูน้ำหลาก และสามารถช่วยเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการก่อสร้างคลองผันน้ำเลี่ยง โดยขุดคลองผันน้ำคลองเขาม้าร้อง-อ่าวบางสะพาน
ดังนั้น หากสามารถดำเนินการโครงการบรรเทาอุทกภัย อ.บางสะพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้เสร็จทั้งโครงการ จะทำให้สามารถระบายน้ำที่ไหลผ่านลุ่มน้ำคลองบางสะพานได้ไม่น้อยกว่า 1,025 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 30.75 ล้านลูกบาศก์เมตร และเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ จำนวน 15,450 ไร่ ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ในพื้นที่ อ.บางสะพาน ได้อย่างยั่งยืน
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "กฤษฎา" ยัน! กรมชลประทานถอดบทเรียนปี 54 รับมือน้ำท่วม
● กรมชลประทานระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ปิดช่องคันคลองชลประทานขาดบริเวณบ้านคุยโพธิ์
