"บล.ไอร่า" เกาะติดสถานการณ์ แนะลงทุนในหุ้นรับอานิสงส์ ศก. โต!!

06 ก.ย. 2561 | 05:25 น.
บล.ไอร่า ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ย. แกว่งตัว เหตุยังคงเจอแรงกดดันจากต่างประเทศ ทั้งปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่อบานปลายหนัก หลังสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก บวกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 2 รอบ แม้ปัจจัยในประเทศยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์การทำ Window Dressing ปิดงบไตรมาส 3/2561 รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่ดีขึ้นหลังกำหนดวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562

นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) หรือ AS เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นในเดือน ก.ย. ได้รับปัจจัยบวกจาก Window Dressing ปิดงบการเงินไตรมาส 3/2561 ในช่วงปลายเดือน ก.ย. รวมถึงประเด็นการเมือง ที่คาดว่า Sentiment ดีขึ้นตามลำดับ หลังกำหนดวันเลือกตั้งเบื้องต้น 24 ก.พ. 2562 พร้อมใช้ ม.44 ปลดล็อกพรรคการเมือง คาดสามารถทำกิจกรรมการเมืองได้ช่วง ก.ย. ถึง ธ.ค. 2561 หลัง ก.ม.ลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ประกาศใช้ และ Thailand Future Fund มูลค่า 45,000 ล้านบาท แผนขายหน่วยลงทุน ต.ค. นี้ และคาดเข้าจดทะเบียนฯ พ.ย.



aira


ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุนในเดือนนี้ มาจาก Fund Flow ต่างชาติ ขายสุทธิ 10,418 ล้านบาท ทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ ยอดขายสุทธิสะสมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ระดับ 201,117 ล้านบาท หรือประมาณ 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงสุดในกลุ่ม TIP โดยอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ยอดขายสุทธิสะสมอยู่ที่ประมาณ 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ตลาดพันธบัตรต่างชาติซื้อสุทธิประมาณ 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาสำหรับเดือน ก.ย. นี้ คือ การประชุม กนง. ในวันที่ 19 ก.ย. 2561 คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% ต่อปี แต่คาดอาจเริ่มส่งสัญญาณลดการใช้นโยบายผ่อนคลายลง หลังเศรษฐกิจขยายตัวดีต่อเนื่องและอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย คาดอาจเริ่มพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยปลายปี 2561 ถึงต้นปี 2562 รวมถึงการประชุมเฟดในวันที่ 25-26 ก.ย. 2561 คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 พร้อมคาดเกิดขึ้นอีก 1 ครั้ง ในเดือน ธ.ค. (18-19 ธ.ค. 2561) คาดรวมทั้งหมด 4 ครั้ง ในปี 2561 คาดอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 2.25-2.50% ขณะที่ คาดปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2-3 ครั้ง ในปี 2562

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนในนโยบายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ทั้งการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ที่ก่อนหน้ามีความคาดหวังในเชิงบวกต่อข้อตกลง NAFTA ฉบับใหม่ และการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ผ่านมา 2 รอบ ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งคาดต้องใช้ระยะเวลาในการเจรจาต่อรอง พร้อมกับความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรอบใหม่ ที่อาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น



090861-1927-9-335x503


ดังนั้น ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในเดือน ก.ย. คาดมีความผันผวน ภายใต้ประเด็นเดิม ต่างประเทศที่กลับมามีความไม่แน่นอน และมีน้ำหนักกดดันอีกครั้ง โดยเฉพาะการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุด สถานการณ์ส่งสัญญาณมีความรุนแรงมากขึ้น หลังสหรัฐฯ มีแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอัตรา 25% วงเงินเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (50% ของมูลค่าสินค้าจีนที่สหรัฐฯ นำเข้า) หลัง ก.ค. ถึง ส.ค. ที่ผ่านมา 2 ประเทศ เรียกเก็บภาษีสินค้าระหว่างกัน อัตรา 25% วงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งที่ 3

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความไม่แน่นอนจากประเด็นต่างประเทศ ทำให้คาดดัชนีมีความผันผวนและราคาหุ้นมีโอกาสปรับลดลง  อย่างไรก็ตาม เป็น "โอกาสในการเข้าสะสม" โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ยังดีต่อเนื่อง พร้อมกับการลงทุนภาครัฐฯ ที่คาดเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 2H/61 เป็นต้นไป รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคส่งสัญญาณที่ดี หลังไตรมาส 2/2561 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 67.5 สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาสที่ผ่านมา แนะเก็งกำไรในหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CBG , COM7 , CK , KCE , MTC , PTT และ TRUE เป็นต้น


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“บล.ไอร่า”มองหุ้นไทยเดือนพ.ค.ได้แรงหนุนศก.ฟื้น-ประกาศงบ Q1
บล.ไอร่า ส่องกลยุทธ์เดือนมี.ค.จับตาทำ Window Dressing  ปิดงบQ1


เพิ่มเพื่อน


23626556