อสังหา‘อีสาน-เหนือ’เมิน เข้าร่วมธอส.บ้านตํ่าล้าน

05 ก.ย. 2561 | 10:04 น.
บิ๊กอสังหาฯ อีสาน-เหนือ ชี้ผู้ประกอบการเชียงใหม่สนใจน้อยโครงการบ้านผู้มีรายได้น้อย เหตุต้นทุนที่ดิน-ค่าก่อสร้างสูงไม่คุ้ม

จากกรณีกระทรวงการคลัง ออกนโยบายให้ผู้ประกอบการทำโครงการ สำหรับบ้านผู้มีรายได้น้อยราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท โดยมีภาคสถาบันการเงินธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นแม่งาน

ล่าสุด นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ กรรมการผู้จัดการบริษัทห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในจังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โครงการนี้ไม่มีผลต่อบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากเน้นพัฒนาโครงการระดับพรีเมียมราคาตั้งแต่กว่า 2 ล้านบาทขึ้นไป  ขณะที่กลุ่มกำลังซื้อส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ พ่อค้า ฯลฯ   มองว่า มีโครงการส่วนน้อยที่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากต้นทุนที่ดินสูง HOME

นายนนท์ หิรัญเชรษฐ์ นายกสมาคมการค้าอสังหา ริมทรัพย์จังหวัดเชียงใหม่ภาคเหนือ กล่าวว่า โดยทั่วไปแล้วเท่าที่สื่อสารประชาสัมพันธ์ในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน จะไม่ค่อยให้ความสำคัญเพราะมีข้อจำกัดเกี่ยวกับเรื่องราคาขายที่ทางภาครัฐกำหนดให้ ซึ่งงบประมาณในการลงทุนต่อยูนิตค่อนข้างที่จะสูง ฉะนั้นผลตอบแทนที่จะได้มาถ้าเผื่ออัตราดอกเบี้ยที่ค้างชำระที่ไม่สามารถทำการตลาดได้ทันบางยูนิตแทบจะไม่มีกำไร

ถ้าเทียบกับโครงการหมู่บ้านการเคหะฯในอดีตที่ผ่านมามีลักษณะเทียบเคียงที่คล้ายๆกันซึ่งผู้ประกอบการเองช่วงนั้นก็พากันไปลงโครงการหมู่บ้านการเคหะฯ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จกันจึงถอนตัวออกมา ฉะนั้นโครงการที่ ธนาคารอาคาร สงเคราะห์ ทำโครงการนี้ออกมาในปัจจุบันก็ใกล้เคียงกันก็เลยทำให้ผู้ประกอบการค่อนข้างที่จะมีความสนใจน้อยมาก ถ้าจะทำโครงการก็คงจะเลือกทำส่วนตัวมากกว่า เพราะว่าการไปร่วมลงทุนกับลักษณะของโครงการบ้านเพื่อคนจนโดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นสถาบันการเงินที่ให้งบประมาณสนับสนุนโครงการ ดูตัวเลขแล้วคิดว่าน่าจะมีความลำบากกับการบริหารจัดการโครงการ

สำหรับสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีหลังสถานการณ์บ้านก็ยังมีแนวโน้มที่จะทรงกับทรุด ชะลอตัวอยู่ เพราะเหตุที่ว่าปัจจัยภาพรวมก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องหนี้ครัวเรือนสูง ประกอบกับ NPL ตอนนี้เริ่มที่จะมีตัวเลขที่ขยับสูงขึ้นทำให้การผ่อนชำระค่าเช่าบ้าน ซื้อบ้าน แม้กระทั่งค่าครองชีพประจำวันก็ค่อนข้างที่จะแบกภาระกันมากพอสมควร สถานการณ์ภาพรวมของเศรษฐกิจบ้านเราต้องยอมรับยิ่งผนวกกับปัจจุบันการท่องเที่ยวของเชียงใหม่เราก็มีการชะลอตัวลงไปมากพอสมควรเพราะเนื่องจากว่าทางภาครัฐ ได้เข้มงวดเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจโฮเต็ล ที่ใช้ พ.ร.บ.โรงแรมเข้ามาควบคุม

ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำโฮเต็ลต้องปิดตัวลงหลายโครง การ  โรงแรม บ้าน ที่ผิดกฎหมายปิดไปเยอะมาก มันถูกปิดโดยกฎหมายรวมถึงธุรกิจต่อเนื่องก็คือ นวดแผนโบราณ สปา รถเช่า ร้านอาหาร ของที่ระลึก ธุรกิจต่อเนื่องท่องเที่ยวหลายอย่างก็ต้องปิดตัวลง ประชาชนที่ประกอบธุรกิจทางด้านนี้ก็ขาดรายได้ ซึ่งตอนนี้เหมือนเป็นกำลังซ้อนที่บวกเข้ามาทำให้ปัจจัยเศรษฐกิจเราแย่ลงไปอีก คาดว่าปลายปีนี้ตัวเลขอาจจะลดลงกว่าปีที่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูเพราะว่ายังเหลืออีก 2 ไตรมาส

หน้า 29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,398 วันที่ 6-8 กันยายน 2561