บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 5 กันยายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
ความแข็งแกร่งของราคาทองคำและแรงซื้อน้อย ทำให้การลงทุนอาจต้องเป็นไปในลักษณะรอจังหวะการอ่อนตัวลงของราคาค่อยเข้าซื้อ หรือราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,200-1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ชะลอการขายออกไป
ราคาทองคำยังคงพยายามกลับขึ้นไปทดสอบเหนือ 1,200-1,202 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มขึ้นทดสอบ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าไม่สามารถปรับขึ้นได้ จะเกิดแรงขายออกมาเป็นระยะ โดยแนวรับระยะสั้นจะอยู่ที่ 1,182 และแนวรับถัดไปจะอยู่บริเวณ 1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,182 1,175 1,160
แนวต้าน 1,202 1,214 1,228
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 9.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังคงเผชิญกับแรงกดดันสำคัญ ได้แก่ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์จากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าของจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้ข้อสรุปจากการทำประชาพิจารณ์ในวันพฤหัสบดีนี้ การทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่าง 2 ประเทศกดดันให้สกุลเงินในประเทศเกิดใหม่ร่วงลงและกระตุ้นแรงซื้อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มหลังผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นสู่ระดับ 61.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2004 จากระดับ 58.1 ในเดือนก.ค. ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงวานนี้ -8.24 ตันสู่ระดับ 746.92 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปี 2016 สำหรับวันนี้จับตาการเจราจาข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ระหว่างสหรัฐและแคนาดา ความคืบหน้าเกี่ยวกับประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมไปถึงการเปิดเผยดุลการค้าของสหรัฐ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด