EXIM BANK แก้ ก.ม. ขยายขอบเขตธุรกิจรับประกันความเสี่ยงการค้า-การลงทุน "ไทยบุกแอฟริกา"

04 ก.ย. 2561 | 12:14 น.
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากการประกาศใช้พระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561 เมื่อเดือน ก.ค. 2561 EXIM BANK ได้ขยายขอบเขตการให้บริการในด้านการรับประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย ดังนี้

1.ให้บริการประกันความเสี่ยงการลงทุนได้โดยไม่จำกัดแต่เพียงนักลงทุนที่ได้รับวงเงินสินเชื่อกับ EXIM BANK เท่านั้น หากแต่นักลงทุนที่ใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์อื่นก็สามารถใช้บริการได้ รวมถึงธนาคารพาณิชย์สามารถเป็นผู้ถือกรมธรรม์ได้ในกรณีที่กังวลกับความเสี่ยงในการให้วงเงินสินเชื่อเพื่อการลงทุนในต่างประเทศ

2.ให้บริการประกันความเสี่ยงจากการที่ผู้จำหน่ายสินค้าหรือบริการ (Supplier) ไม่ได้รับชำระค่าสินค้าหรือบริการจากผู้ส่งออก

3.ให้บริการประกันความเสี่ยง กรณีสถาบันการเงินถูกเรียกให้ชำระเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ออกให้กับผู้ประกอบการไทยที่ไปดำเนินกิจการในต่างประเทศอย่างไม่เป็นธรรม การขยายขอบเขตการให้บริการประกันความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนของ EXIM BANK ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยที่มีศักยภาพสามารถเข้าไปรับงานหรือขยายฐานการค้าการลงทุนในต่างประเทศได้มากขึ้น โดยการขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับสถาบันการเงินและองค์กรรับประกันทั้งในและต่างประเทศในรูปแบบที่เกื้อกูลกันเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคและของโลกโดยรวม

นอกจากการขยายขอบเขตและเครือข่ายการให้บริการ EXIM BANK ยังจะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรให้ข้อมูลการค้าการลงทุนที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อส่งเสริมการบุกตลาดใหม่ที่เต็มไปด้วยโอกาสและมีเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศจากสถาบันการเงินอย่าง EXIM BANK โดยครั้งนี้ EXIM BANK ร่วมกับเอออน (ประเทศไทย) บริษัทนายหน้าประกันภัยข้ามชาติและที่ปรึกษาด้านการจัดการความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนชั้นนำระดับโลก จัดสัมมนา "แอฟริกา : จุดหมายใหม่ โอกาสใหม่ในปี 2561 (Africa: New Destination, New Opportunities 2018)" เพื่อนำเสนอโอกาสการค้าและการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในตลาดแอฟริกาให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเริ่มต้นการค้าและการลงทุนในตลาดแอฟริกาจำนวน 150 คน ณ โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2561

ทั้งนี้ เนื่องจากทวีปแอฟริกาถือเป็นตลาดใหม่ (New Frontier) ที่มีขนาดพื้นที่และจำนวนประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากเอเชีย ประกอบด้วยประเทศมากถึง 54 ประเทศ มีความพร้อมด้านแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ สินแร่ น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีในการส่งออกไปตลาดหลัก ตั้งอยู่บนเส้นทางเดินเรือสำคัญระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแอตแลนติก และมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังในการใช้จ่ายคิดเป็น 40% ของประชากรทั้งหมด การค้าไทย-แอฟริกา ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.ค. 2561 ขยายตัว 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปแอฟริกามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ ข้าว รถยนต์และส่วนประกอบ โดยคิดเป็นสัดส่วนการส่งออกที่ 35% และ 16% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากสถาบันจัดลำดับความเสี่ยงประเทศหลายแห่ง ระบุว่า ประเทศในแอฟริกาหลายประเทศยังคงได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีความกังวลและไม่กล้าขยายการค้าการลงทุนเข้าไปในแอฟริกา ซึ่งมีศักยภาพและเป็นแหล่งลงทุนแห่งใหม่ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ EXIM BANK จึงต้องการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปค้าขายหรือลงทุนในแอฟริกาเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่การค้าไทย-แอฟริกามีสัดส่วนเพียง 3% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ขณะที่ เงินลงทุนโดยตรงของไทยในแอฟริกาก็ยังมีสัดส่วนไม่มาก โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอียิปต์และมอริเชียส ซึ่งมีสัดส่วนราว 4% ของเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศทั้งหมดของไทย โดย EXIM BANK พร้อมให้คำปรึกษาด้านการป้องกันความเสี่ยงทางการค้า อาทิ การเลือกใช้เทอมการชำระเงินที่รัดกุม การวิเคราะห์ข้อมูลคู่ค้า และการให้บริการประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุน โดยจัดให้มีสิทธิพิเศษลดค่าเบี้ยประกันการส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกไปแอฟริกา พร้อมวิเคราะห์ข้อมูลคู่ค้าฟรี 2 รายแรก และลด 50% สำหรับรายที่ 3-5


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
EXIM BANK ชี้แจงเกี่ยวกับการสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย สปป.ลาว
EXIM BANKเปิดบริการใหม่คุ้มครองความเสี่ยงส่งออกไปCLM

e-book-1-503x62-7