ซีอีโอเจดีดอทคอมโดนจับในสหรัฐฯ
ริชาร์ด หลิว มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เจดีดอทคอม” ยักษ์ใหญ่อีคอมเมอร์ซ ถูกตำรวจสหรัฐฯ จับกุมตัวขณะเดินทางในมลรัฐมินนิโซตา ด้วยข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ แต่เขาได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาและรอการไต่สวนเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่
ซีอีโอของเจดีดอทคอมถูกจับกุมตัวก่อนเที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2561 และถูกปล่อยตัวในเวลา 16.00 น. ของวันเสาร์ (1 กันยายน) เวลาท้องถิ่น เว็บไซต์ของส่วนบริหารราชการเขตเฮนเนอพินแสดงภาพของริชาร์ด หลิว ได้รับการปล่อยตัว ขณะที่โฆษกตำรวจเมืองมินนิแอโปลิสออกมาเปิดเผยรายละเอียดเพียงว่า การสืบสวนคดียังคงดำเนินต่อไป
เจดีดอทคอมเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน และเป็นคู่แข่งกับผู้นำตลาดในระดับเฮฟวี่เวตอย่างอาลีบาบา นายหลิวเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศจีนและทรัพย์สินของเขาก็มีมูลค่าถึง 7,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากการรวบรวมข้อมูลของนิตยสารฟอร์บส์)
แถลงการณ์ชี้แจงของบริษัทเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ริชาร์ด หลิว ซึ่งมีชื่อจีนว่านายหลิว เชียงตง (Liu Qiangdong) ถูกใส่ความ โดยในระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ เขาได้ถูกตำรวจในรัฐมินนิโซตา สอบปากคำด้วยข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อมูลหลักฐานยืนยัน ตำรวจในพื้นที่จึงปล่อยตัวเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนายหลิวก็ได้กลับไปทำกิจกรรมทางธุรกิจตามที่ได้วางแผนเอาไว้ เจดีดอทคอมไม่ได้ให้รายละเอียดข้อมูลมากไปกว่านี้ และนายหลิว ก็ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
สื่อต่างประเทศรายงานการออกมาให้ข้อมูลของมหาวิทยาลัยมินนิโซตาว่า นายหลิวเป็นนักศึกษาในโปรแกรมบริหารธุรกิจระดับปริญญาเอกสำหรับผู้บริหารองค์กร ซึ่งส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยซิงหัวในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเนื่องจากทั้งสองมหาวิทยาลัยทำโครงการร่วมกัน นักศึกษาของโปรแกรมนี้จึงได้เดินทางมาดูงานและฝึกอบรมที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตาด้วย นางเอ็มมา เบาเออร์ โฆษกมหาวิทยาลัยกล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นใดๆเกี่ยวกับคดีนี้และขอให้ทางตำรวจเป็นผู้ตอบคำถามจะดีกว่า
ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของเจดีดอทคอมดิ่งลงเกือบ 3% ก่อนเปิดตลาด Nasdaq ในวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
เจดีดอทคอม (JD.com) เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ในจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 25% รองจากอาลีบาบา โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้ 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเติบโต 40.3% โดยถือเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมซอน และอัลฟาเบ็ท
ในปีที่ผ่านมา (2560) เจดีดอทคอม ได้เข้ามาร่วมทุนกับยักษ์ค้าปลีกของไทย อย่างบริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป จำกัด จัดตั้งบริษัทให้บริการอีคอมเมิร์ซในไทย “เจดีเซ็นทรัล”โดยมีพันธกิจหลักคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเสนอหลากหลายสินค้าคุณภาพของแท้ 100% ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศในราคาที่จับต้องได้ ทั้งยังขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Big Data ทำให้ระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพ สามารถจัดส่งของให้ลูกค้าได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เจดีเซ็นทรัลมีความมุ่งมั่นในการเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดันสินค้าไทยออกสู่ตลาดสากล และจะช่วยพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าไทยให้มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกับนานาชาติ และมุ่งหวังในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้
ซีอีโอของเจดีดอทคอมถูกจับกุมตัวก่อนเที่ยงคืนของคืนวันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม 2561 และถูกปล่อยตัวในเวลา 16.00 น. ของวันเสาร์ (1 กันยายน) เวลาท้องถิ่น เว็บไซต์ของส่วนบริหารราชการเขตเฮนเนอพินแสดงภาพของริชาร์ด หลิว ได้รับการปล่อยตัว ขณะที่โฆษกตำรวจเมืองมินนิแอโปลิสออกมาเปิดเผยรายละเอียดเพียงว่า การสืบสวนคดียังคงดำเนินต่อไป
เจดีดอทคอมเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน และเป็นคู่แข่งกับผู้นำตลาดในระดับเฮฟวี่เวตอย่างอาลีบาบา นายหลิวเป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐีซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีในประเทศจีนและทรัพย์สินของเขาก็มีมูลค่าถึง 7,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (จากการรวบรวมข้อมูลของนิตยสารฟอร์บส์)
แถลงการณ์ชี้แจงของบริษัทเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า ริชาร์ด หลิว ซึ่งมีชื่อจีนว่านายหลิว เชียงตง (Liu Qiangdong) ถูกใส่ความ โดยในระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกาเพื่อจุดประสงค์ทางธุรกิจ เขาได้ถูกตำรวจในรัฐมินนิโซตา สอบปากคำด้วยข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อมูลหลักฐานยืนยัน ตำรวจในพื้นที่จึงปล่อยตัวเขาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนายหลิวก็ได้กลับไปทำกิจกรรมทางธุรกิจตามที่ได้วางแผนเอาไว้ เจดีดอทคอมไม่ได้ให้รายละเอียดข้อมูลมากไปกว่านี้ และนายหลิว ก็ยังไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อแต่อย่างใด
สื่อต่างประเทศรายงานการออกมาให้ข้อมูลของมหาวิทยาลัยมินนิโซตาว่า นายหลิวเป็นนักศึกษาในโปรแกรมบริหารธุรกิจระดับปริญญาเอกสำหรับผู้บริหารองค์กร ซึ่งส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยซิงหัวในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และเนื่องจากทั้งสองมหาวิทยาลัยทำโครงการร่วมกัน นักศึกษาของโปรแกรมนี้จึงได้เดินทางมาดูงานและฝึกอบรมที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตาด้วย นางเอ็มมา เบาเออร์ โฆษกมหาวิทยาลัยกล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นใดๆเกี่ยวกับคดีนี้และขอให้ทางตำรวจเป็นผู้ตอบคำถามจะดีกว่า
ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้นของเจดีดอทคอมดิ่งลงเกือบ 3% ก่อนเปิดตลาด Nasdaq ในวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา
เจดีดอทคอม (JD.com) เป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ในจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดราว 25% รองจากอาลีบาบา โดยในปี 2560 บริษัทมีรายได้ 5.57 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเติบโต 40.3% โดยถือเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากอเมซอน และอัลฟาเบ็ท
ในปีที่ผ่านมา (2560) เจดีดอทคอม ได้เข้ามาร่วมทุนกับยักษ์ค้าปลีกของไทย อย่างบริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป จำกัด จัดตั้งบริษัทให้บริการอีคอมเมิร์ซในไทย “เจดีเซ็นทรัล”โดยมีพันธกิจหลักคือการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบ โดยนำเสนอหลากหลายสินค้าคุณภาพของแท้ 100% ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศในราคาที่จับต้องได้ ทั้งยังขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Big Data ทำให้ระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพ สามารถจัดส่งของให้ลูกค้าได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เจดีเซ็นทรัลมีความมุ่งมั่นในการเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยผลักดันสินค้าไทยออกสู่ตลาดสากล และจะช่วยพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าไทยให้มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกับนานาชาติ และมุ่งหวังในการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้