lNTERVIEW | เปิดพอร์ตมิกซ์ยูส "วัน ออริจิ้น" ปักหมุด 23 โปรเจ็กต์ แนวรถไฟฟ้า-สมรภูมิอีอีซี

05 ก.ย. 2561 | 03:15 น.
การปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจของ "บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)" ที่ดิ้นหนีตลาดเรดโอเชียน ในธุรกิจคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัยแนวราบที่มีการแข่งขันสูง ไปสู่ตลาดบลูโอเชียน ด้วยการเปิดแนวรุกใหม่ ขยายการลงทุนสู่มิกซ์ยูส ภายใต้ "บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด" มูลค่าการลงทุน 2 หมื่นล้านบาท ในช่วง 5 ปีนี้ ทั้งมองถึงการนำ วัน ออริจิ้น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต ... อ่านได้จากสัมภาษณ์พิเศษ นางกมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)

 

[caption id="attachment_312274" align="aligncenter" width="282"] S__5734446 กมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)[/caption]

โฟกัสธุรกิจโรงแรม 70%
การลงทุนช่วงปี 2561-2565 ของ "วัน ออริจิ้น" รวมมูลค่า 2.4 หมื่นล้านบาท จะเป็นการลงทุนมิกซ์ยูส ที่ประกอบไปด้วย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.โรงแรม , เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ คิดเป็นสัดส่วน 70% | 2.ธุรกิจอาคารสำนักงานและร้านค้าให้เช่า 20% และ 3.ธุรกิจอาหาร 10%

สัดส่วนการลงทุนที่เกิดขึ้น เป็นเพราะเราต้องการสร้างโปรดักต์ที่มีความโดดเด่นเป็นหัวใจสำคัญ ควบคู่ไปกับการเล็งเห็นการเติบโตของดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของการท่องเที่ยวไทย และพฤติกรรมด้านไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่เปลี่ยนไป ทำให้การลงทุนและการดำเนินธุรกิจของ วัน ออริจิ้น จึงโฟกัสด้านฮอสพิทาลิตีเป็นหลัก

โปรเจ็กต์ต่าง ๆ เราเน้นเรื่องของโลเกชันเป็นสำคัญ โดยในกรุงเทพฯ จะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ส่วนการลงทุนในต่างจังหวัดจะเน้นพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีความโดดเด่น จากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นเมืองใหม่และการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามโลกที่เปลี่ยนไป แตกต่างจากความเป็นอีสเทิร์นซีบอร์ดอย่างที่ผ่านมา และยังมองถึงแผนการขยายการลงทุนไปยังเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย


จ่อ 23 โปรเจ็กต์ ค่า 2.4 หมื่นล้าน
แผนการลงทุนที่อยู่ระหว่างการพัฒนาขณะนี้ มี 13 โครงการ มูลค่าการลงทุน 1.12 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนโรงแรม , เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ 9 โครงการ ได้แก่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบ็งค็อก ทองหล่อ , One 24 กรุงเทพฯ , One พร้อมพงษ์ , One สุขุมวิท , ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ ศรีราชา แหลมฉบัง , สเตย์บริดจ์ สวีท ชลบุรี ศรีราชา , One มาบตาพุด-อู่ตะเภา (โรงแรมระดับ 3 ดาว) , One มาบตาพุด-อู่ตะเภา (เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ 4-5 ดาว) , คราวน์ เซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ มาบตาพุด-อู่ตะเภา (3 ดาว) อีก 4 แห่ง ลงทุนในธุรกิจอาคารสำนักงานและร้านค้าให้เช่า ได้แก่ One พญาไท , Portobello Mall ศรีราชา , One ทองหล่อ และ Portobello Mall ระยอง

นอกจากนี้ ยังมีอีก 10 โครงการ ที่มีศักยภาพในการลงทุนที่จะเกิดขึ้นได้อีก ได้แก่ เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่ถนนบางนา , ทองหล่อ-เอกมัย โฮเทลส์ , อาคารสำนักงานและร้านค้าให้เช่า บริเวณทองหล่อ , โรงแรมในย่านซีบีดี ถนนสุขุมวิท , อาคารสำนักงานและร้านค้าให้เช่า ย่านบางนา , One ระยอง ซิตี้ โฮเทลส์ (4-5 ดาว) รวมถึงโรงแรมในเมืองท่องเที่ยว อย่าง พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และการลงทุนเชนร้านอาหาร มูลค่าราว 1.36 หมื่นล้านบาท


ซินเนอร์ยีกับออริจิ้นเสริมธุรกิจ
ทั้งนี้ การลงทุนบางโครงการของ วัน ออริจิ้น ก็อาจอยู่ด้วยกันกับโครงการลงทุนของบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เช่น One พญาไท หรือบางโครงการก็อยู่ใกล้กัน เช่น ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีโครงการ Park 24 ใกล้กัน เราก็มีโครงการ One 24 หรือในทำเลทองหล่อ เรามีสเตย์บริดจ์ สวีท แบ็งค็อก ทองหล่อ เดินถัดไปอีก 500 เมตร ก็เป็นโครงการ Park ทองหล่อ ของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น



mp22-3398-a


"เรามองว่า ธุรกิจของ วัน ออริจิ้น จะไม่ใช่พึ่งพา ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ แต่เป็นการซินเนอร์ยีเพื่อเสริมกัน" ส่วนเงินลงทุนบางโครงการก็มาจาก ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บางโครงการก็เป็นการร่วมลงทุนระหว่าง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กับบริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ทั้ง 'วัน ออริจิ้น' เอง ภายใน 5 ปีนี้ ก็มีแผนจะนำบางโครงการไปจัดตั้งทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในอนาคต เพื่อเพิ่มโอกาสในการระดมทุนเพิ่มเติม อันจะเป็นผลดีต่อการขยายธุรกิจในระยะยาว


มุ่งเป้าท็อปไฟว์ผู้นำมิกซ์ยูส
เบื้องต้น คาดว่าใน 5 ปี จะมีการพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เกิดขึ้นกว่า 4 พันห้อง ไม่น้อยกว่า 15 แห่ง จำนวนห้องพักในแต่ละแห่งจะอยู่ที่ระหว่าง 150-300 ห้อง ซึ่งจะใช้เชนจากต่างประเทศเข้ามาบริหารโรงแรม อาทิ เชนอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ส่วนของอาคารสำนักงานและร้านค้าที่เกิดขึ้น จะมีพื้นที่รวมไม่น้อยกว่า 5 หมื่นตารางเมตร รูปแบบการพัฒนามีทั้งมิกซ์ยูสและการพัฒนาแบบสแตนด์อะโลน ขึ้นอยู่กับศักยภาพของทำเลและที่ดินแต่ละแปลง

ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจนอกจากเรื่องของโลเกชันและโปรดักต์ที่ตอบโจทย์เรื่องของพันธมิตรทางธุรกิจก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในธุรกิจโรงแรม เราจึงเลือกที่จะคุยกับแบรนด์โรงแรมต่าง ๆ เพื่อดึงเข้ามาบริหารโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งที่ปิดดีลไปแล้วก็อย่างเช่น IHG ที่นำแบรนด์สเตย์บริดจ์เข้ามาเปิดตลาดในไทยเป็นครั้งแรก , แบรนด์ฮอลิเดย์ อินน์ เข้ามาบริหารโรงแรมระดับ 4 ดาว , แบรนด์ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส มาบริหารโรงแรม 3 ดาว ที่เรากำลังลงทุนอยู่

รวมถึงยังตั้งเป้าว่า ทรัพย์สินจากการลงทุนจะช่วยสร้าง Market Value ให้ราว 3 หมื่นล้านบาท สร้างยอดขายรวมช่วง 5 ปีนี้ ราว 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งจากทิศทางการลงทุนและเป้าหมายการดำเนินธุรกิจนี้ จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายการเป็นท็อปไฟว์ในธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูสในด้านฮอสพิทาลิตี


……………….
สัมภาษณ์พิเศษ : กมลวรรณ วิปุลากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,398 วันที่ 6-8 ก.ย. 2561 หน้า 22

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ออริจิ้นสร้างประวัติการณ์ปิดการขาย“ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร”ภายใน 1 วัน
‘ออริจิ้น’เจาะจีน-ฮ่องกง ขึ้นแชมป์ตลาดต่างชาติ


เพิ่มเพื่อน


23626556