อาวดี้ทุ่ม100ล้านผุดโชว์รูมและศูนย์บริการพัทยา
ตลาดรถหรูภาคตะวันออกคึก อาวดี้พัทยาทุ่ม 100 ล้านบาทเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบาย Consumer Concentric ที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า บริษัทได้ยกระดับการทำงานทุกด้าน เพื่อให้ลูกค้าที่ไว้วางใจแบรนด์อาวดี้ ได้มีความมั่นใจ โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย ที่บริษัทได้ประกาศไว้ว่าจะทยอยเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดเพิ่มให้ได้ 6แห่งในปี 2561
ล่าสุดได้มีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ อาวดี้ พัทยา อย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารงานของนายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ ซึ่งมีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ มายาวนานกว่า 10 ปี โดยโชว์รูมและศูนย์บริการดังกล่าวจะรองรับลูกค้าในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง ครอบคลุม พัทยา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
“จากการทำวิจัยตลาด พื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะพัทยานับเป็นตลาดทีมีศักยภาพสูง เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีชาวต่างชาติมาลงทุน รวมถึงชาวยุโรปที่มาตั้งถิ่นฐานในภาคตะวันออก และมีนักท่องเที่ยวซึ่งมีความประทับใจ รู้จัก ชื่นชอบและมีแบรนด์อาวดี้อยู่ในใจมายาวนาน อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อาวดี้มีแผนที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มารู้จัก และมาเยี่ยมชมโชว์รูม ”
ด้านนายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร อาวดี้ พัทยา กล่าวว่า บริษัทใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท และก่อนหน้าที่จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการได้สร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าในพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้ตอนนี้มียอดจองรถเข้ามากว่า 20 คันแล้ว
โดยโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ พัทยา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-พัทยาเหนือ สามารถจัดแสดงรถยนต์ได้ 8 คัน มีห้องรับรองลูกค้า พร้อมพื้นที่บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม ในส่วนของการบริการหลังการขาย มีการออกแบบส่วนการต้อนรับที่ทันสมัย มีห้องรับรองกรณีที่ลูกค้าต้องการปรึกษาเพิ่มเติมพิเศษ ขณะในส่วนของงานบริการซ่อม ติดตั้งเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเครื่องมืออุปกรณ์สำคัญต่างๆ นำเข้ามาจากโรงงานในประเทศเยอรมัน มีจำนวนทั้งหมด 6 ช่องซ่อม ที่พร้อมต่อขยายเป็น 14 ซ่องซ่อมในอนาคต สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างน้อยปีละ 3,000 คัน นอกจากนี้ยังมีห้อง Audi Center ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานการณ์ซ่อมได้ ขณะที่ในส่วนอะไหล่มีการสต๊อกอะไหล่สำหรับการบำรุงรักษาไว้พร้อม
นายวิรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มของตลาดภาคตะวันออกคาดว่ารถในกลุ่มเอสยูวี หรือรถในตระกูล Q series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro จะได้รับความสนใจสูง เพราะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวกับครอบครัว ขณะที่ในกลุ่มรถสปอร์ต Audi TT Coupé นั้นคาดว่าจะได้รับความนิยมกัลกลุ่มนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่มีฐานธุรกิจในภาคตะวันออก
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบาย Consumer Concentric ที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า บริษัทได้ยกระดับการทำงานทุกด้าน เพื่อให้ลูกค้าที่ไว้วางใจแบรนด์อาวดี้ ได้มีความมั่นใจ โดยเฉพาะการบริการหลังการขาย ที่บริษัทได้ประกาศไว้ว่าจะทยอยเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดเพิ่มให้ได้ 6แห่งในปี 2561
ล่าสุดได้มีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการ อาวดี้ พัทยา อย่างเป็นทางการ ภายใต้การบริหารงานของนายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ ซึ่งมีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ มายาวนานกว่า 10 ปี โดยโชว์รูมและศูนย์บริการดังกล่าวจะรองรับลูกค้าในเขตภาคตะวันออกและจังหวัดใกล้เคียง ครอบคลุม พัทยา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี
“จากการทำวิจัยตลาด พื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะพัทยานับเป็นตลาดทีมีศักยภาพสูง เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีชาวต่างชาติมาลงทุน รวมถึงชาวยุโรปที่มาตั้งถิ่นฐานในภาคตะวันออก และมีนักท่องเที่ยวซึ่งมีความประทับใจ รู้จัก ชื่นชอบและมีแบรนด์อาวดี้อยู่ในใจมายาวนาน อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า อาวดี้มีแผนที่จะทำกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้มารู้จัก และมาเยี่ยมชมโชว์รูม ”
ด้านนายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร อาวดี้ พัทยา กล่าวว่า บริษัทใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 100 ล้านบาท และก่อนหน้าที่จะเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างเป็นทางการได้สร้างการรับรู้ไปยังลูกค้าในพัทยาและจังหวัดใกล้เคียง ทำให้ตอนนี้มียอดจองรถเข้ามากว่า 20 คันแล้ว
โดยโชว์รูมและศูนย์บริการอาวดี้ พัทยา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-พัทยาเหนือ สามารถจัดแสดงรถยนต์ได้ 8 คัน มีห้องรับรองลูกค้า พร้อมพื้นที่บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม ในส่วนของการบริการหลังการขาย มีการออกแบบส่วนการต้อนรับที่ทันสมัย มีห้องรับรองกรณีที่ลูกค้าต้องการปรึกษาเพิ่มเติมพิเศษ ขณะในส่วนของงานบริการซ่อม ติดตั้งเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเครื่องมืออุปกรณ์สำคัญต่างๆ นำเข้ามาจากโรงงานในประเทศเยอรมัน มีจำนวนทั้งหมด 6 ช่องซ่อม ที่พร้อมต่อขยายเป็น 14 ซ่องซ่อมในอนาคต สามารถรองรับลูกค้าได้อย่างน้อยปีละ 3,000 คัน นอกจากนี้ยังมีห้อง Audi Center ที่ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานการณ์ซ่อมได้ ขณะที่ในส่วนอะไหล่มีการสต๊อกอะไหล่สำหรับการบำรุงรักษาไว้พร้อม
นายวิรัช กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มของตลาดภาคตะวันออกคาดว่ารถในกลุ่มเอสยูวี หรือรถในตระกูล Q series ที่มาพร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro จะได้รับความสนใจสูง เพราะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในการเดินทางพักผ่อนท่องเที่ยวกับครอบครัว ขณะที่ในกลุ่มรถสปอร์ต Audi TT Coupé นั้นคาดว่าจะได้รับความนิยมกัลกลุ่มนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่มีฐานธุรกิจในภาคตะวันออก