วัตคินสัน กางแผนรุกธุรกิจเครื่องจักรกลหนักรับไตรมาส 3
วัตคินสัน คอนสตรัทชัน อีควิปเมนท์ ร่วมงานอินเตอร์แมท 2018 พร้อมโชว์นวัตกรรมเครื่องบดโม่วัสดุแบรนด์ RM 70GO!2.0
นาย กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ CASE ,RM และ Clark เปิดเผยว่า ในงาน INTERMAT ASEAN 2018 และงาน Concrete Asia 2018 ที่รวบรวมสินค้าสินค้าด้านอุตสาหกรรมการก่อสร้างและระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงสินค้าอุตสาหกรรมคอนกรีต เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรทางด้านคอนกรีตและซีเมนต์ครบวงจร รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2561 ณ อิมแพคเมืองทองธานี
สำหรับงานดังกล่าว บริษัทฯได้เตรียมนำสินค้าของแบรนด์ RM จากประเทศออสเตรีย มาร่วมโชว์ โดยRM ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องบดโม่วัสดุขนาดกะทัดรัดเคลื่อนที่ได้ รองรับระดับน้ำหนักการทำงานไม่เกิน 30 ตัน ส่วนสินค้าที่บริษัทฯนำมาร่วมงานได้แก่รุ่น RM70GO!2.0 ที่มาพร้อมระบบอิมแพคที่ใช้งานได้หลากหลาย เครื่องเดียวสามรถใช้แทนชุดเครื่องบดโม่ต่อเนื่อง 2 เครื่องได้แก่แบบ Jaw ที่ต้องติดตั้งคู่กับเครื่องบดโม่แบบ Cone มีคุณสมบัติเด่นคือแข็งแรงทนทานแม้จะต้องบดโม่หินบะซอลต์ที่มีความแข็งและเป็นวัสดุที่เหมาะกับการก่อสร้างถนน
โดย RM 70GO!2.0 พร้อมเครื่องร่อนคัดแยกขนาดวัสดุ CS3600/2 มีกำลังการผลิตสูงสุด 150 ตันต่อชั่วโมง แบ่งกองวัสดุได้สูงสุด 3 ขนาด ซึ่งมีนำหนักของเครื่องประมาณ 19.5 ตัน เคลื่อนย้ายได้ง่าย ประหยัดพลังงานด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14-15 ลิตรต่อชั่วโมง และไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่ม เนื่องจาก RM 70GO!2.0 ติดตั้งมาพร้อมกับ บิวท์-อิน พาวเวอร์เจเนเรเตอร์ สำหรับใช้งานควบคู่กับ CS3600/2 ทำให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ทั้งในการผลิตวัสดุย่อยต่อตัน และการบดโม่หินธรรมชาติ หรือบดโม่วัสดุต่างๆอาทิ คอนกรีตเก่า ,ยางมะตอยเก่า หรือเศษวัสดุก่อสร้างทั่วไปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
“หลังจากเราเปิดตัวเครื่องบดโม่วัสดุแบบเคลื่อนที่ได้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้อเข้ามาหลายราย ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี (2561 – 2563) จะมีส่วนแบ่งการตลาด 25 % หรือมียอดขายเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10 – 13 ชุด”
นายกมลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบกับปัญหาจัดการเศษวัสดุที่เกิดจากการก่อสร้างและรื้อถนน ซึ่งหากไม่สามารถจัดการกับเศษวัสดุเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง ย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงกับสิ่งแวดล้อในระยะยาวและกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน ดังนั้นบริษัทฯจึงอยากให้ผู้ประกอบการรวมไปถึงทุกคนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญ จึงมีการนำเสนอสินค้ารวมไปถึงการเข้าร่วมงาน INTERMAT ASEAN 2018 และงาน Concrete Asia 2018 ซึ่งภายในงานนอกจากจะมีสินค้ามานำเสนอแล้ว จะมีการทำกิจกรรมเวิร์คชอป “RM GO FOR GOLD-ผันกองให้กลายเป็น “เงิน” ในวันที่ 6 – 7 ก.ย.61 ”โดยจะมีหัวข้อในการพูดคุย 3 ข้อหลักๆอย่าง ชี้ช่องทางธุรกิจมั่งคั่ง ,ใช้ทรัพยากรคุ้มค่า และลดต้นทุนสร้างผลกำไร “
“เราจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างและการรื้อถอนเพื่อนำมาใช้ใหม่ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรียมาร่วมให้ความรู้ในเชิงลึก และประโยชน์ที่จะเกิดกับผู้ประกอบการและคนไทย”
นาย กมลวัฒน์ วีรศุภกาญจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท วัตคินสัน คอนสตรัคชั่น อิควิปเมนท์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักแบรนด์ CASE ,RM และ Clark เปิดเผยว่า ในงาน INTERMAT ASEAN 2018 และงาน Concrete Asia 2018 ที่รวบรวมสินค้าสินค้าด้านอุตสาหกรรมการก่อสร้างและระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงสินค้าอุตสาหกรรมคอนกรีต เครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรทางด้านคอนกรีตและซีเมนต์ครบวงจร รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2561 ณ อิมแพคเมืองทองธานี
สำหรับงานดังกล่าว บริษัทฯได้เตรียมนำสินค้าของแบรนด์ RM จากประเทศออสเตรีย มาร่วมโชว์ โดยRM ถือเป็นผู้นำในตลาดเครื่องบดโม่วัสดุขนาดกะทัดรัดเคลื่อนที่ได้ รองรับระดับน้ำหนักการทำงานไม่เกิน 30 ตัน ส่วนสินค้าที่บริษัทฯนำมาร่วมงานได้แก่รุ่น RM70GO!2.0 ที่มาพร้อมระบบอิมแพคที่ใช้งานได้หลากหลาย เครื่องเดียวสามรถใช้แทนชุดเครื่องบดโม่ต่อเนื่อง 2 เครื่องได้แก่แบบ Jaw ที่ต้องติดตั้งคู่กับเครื่องบดโม่แบบ Cone มีคุณสมบัติเด่นคือแข็งแรงทนทานแม้จะต้องบดโม่หินบะซอลต์ที่มีความแข็งและเป็นวัสดุที่เหมาะกับการก่อสร้างถนน
โดย RM 70GO!2.0 พร้อมเครื่องร่อนคัดแยกขนาดวัสดุ CS3600/2 มีกำลังการผลิตสูงสุด 150 ตันต่อชั่วโมง แบ่งกองวัสดุได้สูงสุด 3 ขนาด ซึ่งมีนำหนักของเครื่องประมาณ 19.5 ตัน เคลื่อนย้ายได้ง่าย ประหยัดพลังงานด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14-15 ลิตรต่อชั่วโมง และไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพิ่ม เนื่องจาก RM 70GO!2.0 ติดตั้งมาพร้อมกับ บิวท์-อิน พาวเวอร์เจเนเรเตอร์ สำหรับใช้งานควบคู่กับ CS3600/2 ทำให้ผู้ประกอบการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ทั้งในการผลิตวัสดุย่อยต่อตัน และการบดโม่หินธรรมชาติ หรือบดโม่วัสดุต่างๆอาทิ คอนกรีตเก่า ,ยางมะตอยเก่า หรือเศษวัสดุก่อสร้างทั่วไปเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่
“หลังจากเราเปิดตัวเครื่องบดโม่วัสดุแบบเคลื่อนที่ได้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าให้ความสนใจสั่งซื้อเข้ามาหลายราย ซึ่งเราตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี (2561 – 2563) จะมีส่วนแบ่งการตลาด 25 % หรือมียอดขายเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10 – 13 ชุด”
นายกมลวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยประสบกับปัญหาจัดการเศษวัสดุที่เกิดจากการก่อสร้างและรื้อถนน ซึ่งหากไม่สามารถจัดการกับเศษวัสดุเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง ย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงกับสิ่งแวดล้อในระยะยาวและกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน ดังนั้นบริษัทฯจึงอยากให้ผู้ประกอบการรวมไปถึงทุกคนได้ตระหนักและเห็นความสำคัญ จึงมีการนำเสนอสินค้ารวมไปถึงการเข้าร่วมงาน INTERMAT ASEAN 2018 และงาน Concrete Asia 2018 ซึ่งภายในงานนอกจากจะมีสินค้ามานำเสนอแล้ว จะมีการทำกิจกรรมเวิร์คชอป “RM GO FOR GOLD-ผันกองให้กลายเป็น “เงิน” ในวันที่ 6 – 7 ก.ย.61 ”โดยจะมีหัวข้อในการพูดคุย 3 ข้อหลักๆอย่าง ชี้ช่องทางธุรกิจมั่งคั่ง ,ใช้ทรัพยากรคุ้มค่า และลดต้นทุนสร้างผลกำไร “
“เราจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดการกับเศษวัสดุก่อสร้างและการรื้อถอนเพื่อนำมาใช้ใหม่ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญจากประเทศออสเตรียมาร่วมให้ความรู้ในเชิงลึก และประโยชน์ที่จะเกิดกับผู้ประกอบการและคนไทย”