เอกชนมั่นใจราคาพุ่ง พาณิชย์ไชโย!โละข้าว
พาณิชย์ปิดจ็อบโละข้าวในสต๊อก 16.91 ล้านตัน หลังเปิดประมูลมา 32 ครั้ง ได้เงิน 1.4 แสนล้านบาท รอชง นบข.ประมูลข้าวเพื่อบริโภคที่มีปัญหาส่งมอบ 6.5 แสนตัน เอกชนมั่นใจราคาข้าวน่าจะปรับขึ้น 10-15%
นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศตัวเลขข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าวจากรัฐบาลชุดก่อน ที่องค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สรุปมาคือ 18.70 ล้านตัน แต่หลังจากมีการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีปริมาณข้าวในสต๊อกจริง 17.76 ล้านตัน ส่วนตัวเลขที่หายไปทางบัญชี 9.4 แสนตันนั้น ล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ให้ทั้ง 2 หน่วยงานทำรายละเอียดกลับมาภายในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ดีช่วงที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการระบายข้าวไปทั้งสิ้นรวม 32 ครั้ง ปริมาณ 16.91 ล้านตัน มูลค่า 146,176 ล้านบาท ซึ่งหากถ้ารวมกับการเปิดระบายข้าวในครั้งล่าสุดของข้าว 2 กลุ่ม คือ ข้าวกลุ่ม 2 ได้แก่ข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.45 แสนตัน จำนวน 18 คลัง และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน จำนวน 20 คลัง ซึ่งสามารถขายได้ทั้งหมดถือว่าเป็นการปิดสต๊อกข้าวในโครงการรับจำนำทั้งหมดแล้ว ส่วนข้าวที่ยังตกค้างเช่น มีปัญหาการรับมอบ 2.99 ล้านตันนั้น ในจำนวนนี้คาดว่าจะไม่สามารถส่งมอบได้ 6.5 แสนตันซึ่งเป็นข้าวเพื่อการบริโภค กลุ่มนี้จะต้องหาผู้รับผิดชอบและเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.)เพื่อนำกลับมาประมูลใหม่ ส่วนข้าวอุตสาหกรรมไม่น่ามีปัญหา สามารถส่งมอบได้ทั้งหมด
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ความเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่กระทรวงพาณิชย์สามารถขายข้าวในสต๊อกได้ทั้งหมดแล้วนั้นจะทำให้ราคาข้าวหลังจากนี้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มที่ดีเพราะตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามจะต้องดูปริมาณผลผลิตข้าวนาปีที่จะออกมาหลังจากนี้ก่อนว่าจะมีปริมาณข้าวในตลาดมากน้อยเพียงใด หากปริมาณออกมาตามปกติ ราคาข้าวอาจจะปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะข้าวขาว 5% มีโอกาสปรับขึ้นได้ 10-15%
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,397 วันที่ 2-5 กันยายน 2561
นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศตัวเลขข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลจากโครงการรับจำนำข้าวจากรัฐบาลชุดก่อน ที่องค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) สรุปมาคือ 18.70 ล้านตัน แต่หลังจากมีการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีปริมาณข้าวในสต๊อกจริง 17.76 ล้านตัน ส่วนตัวเลขที่หายไปทางบัญชี 9.4 แสนตันนั้น ล่าสุดทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ให้ทั้ง 2 หน่วยงานทำรายละเอียดกลับมาภายในเดือนกันยายนนี้
อย่างไรก็ดีช่วงที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการระบายข้าวไปทั้งสิ้นรวม 32 ครั้ง ปริมาณ 16.91 ล้านตัน มูลค่า 146,176 ล้านบาท ซึ่งหากถ้ารวมกับการเปิดระบายข้าวในครั้งล่าสุดของข้าว 2 กลุ่ม คือ ข้าวกลุ่ม 2 ได้แก่ข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.45 แสนตัน จำนวน 18 คลัง และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน จำนวน 20 คลัง ซึ่งสามารถขายได้ทั้งหมดถือว่าเป็นการปิดสต๊อกข้าวในโครงการรับจำนำทั้งหมดแล้ว ส่วนข้าวที่ยังตกค้างเช่น มีปัญหาการรับมอบ 2.99 ล้านตันนั้น ในจำนวนนี้คาดว่าจะไม่สามารถส่งมอบได้ 6.5 แสนตันซึ่งเป็นข้าวเพื่อการบริโภค กลุ่มนี้จะต้องหาผู้รับผิดชอบและเสนอคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.)เพื่อนำกลับมาประมูลใหม่ ส่วนข้าวอุตสาหกรรมไม่น่ามีปัญหา สามารถส่งมอบได้ทั้งหมด
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้ความเห็นกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากที่กระทรวงพาณิชย์สามารถขายข้าวในสต๊อกได้ทั้งหมดแล้วนั้นจะทำให้ราคาข้าวหลังจากนี้เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งน่าจะมีแนวโน้มที่ดีเพราะตลาดยังมีความต้องการอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามจะต้องดูปริมาณผลผลิตข้าวนาปีที่จะออกมาหลังจากนี้ก่อนว่าจะมีปริมาณข้าวในตลาดมากน้อยเพียงใด หากปริมาณออกมาตามปกติ ราคาข้าวอาจจะปรับสูงขึ้นโดยเฉพาะข้าวขาว 5% มีโอกาสปรับขึ้นได้ 10-15%
หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,397 วันที่ 2-5 กันยายน 2561
