ที่ยาสูบ800ไร่ลุยเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สายทำเลศักยภาพเชื่อม2ด่านชายแดน

16 ก.พ. 2559 | 02:00 น.
อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนึ่งในพื้นที่ที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ(กนพ.) ประกาศให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนครอบคลุม 8 ตำบลพื้นที่ประมาณ 304.78 ตารางกิโลเมตร หรือ 190,487.5 ไร่ประกอบด้วย ตำบลเกาะช้าง ตำบลบ้านด้าย ตำบลโป่งงาม ตำบลโป่งผา ตำบลแม่สาย ตำบลเวียงพางคำ ตำบลศรีเมืองชุม และตำบลห้วยไคร้

[caption id="attachment_31546" align="aligncenter" width="700"] การคัดเลือกพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สาย การคัดเลือกพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สาย[/caption]

ด้วยศักยภาพที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและตลาดค้าชายแดน ประกอบกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี อีกทั้งรัฐบาลยังส่งเสริมให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ส่งผลให้ราคาที่ดินที่นี่ขยับขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทางออกจึงเฟ้นหาที่ดินรัฐเพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่เช่าสร้างโรงงานอุตสาหกรรมให้กับเอกชนในราคาถูกล่าสุดเมื่อวันที่ 18มกราคม 2559 ที่ผ่านมา กนพ.มีมติเห็นชอบที่ดินรัฐตามที่จังหวัดและคณะอนุกรรมการด้านการจัดหาที่ดินและบริหารจัดการ ที่มีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเสนอ ซึ่งเป็นที่ดินที่ราชพัสดุ ทะเบียนเลขที่ อ.ชร.1 ที่โรงงานยาสูบใช้งานอยู่

ขณะที่กรมโยธาธิการและผังเมืองในฐานะเลขานุการคณะอุนกรรมการ ด้านการจัดหาที่ดินและบริหารจัดการ ยืนยันว่า กรมธนารักษ์ได้เจรจากับทางโรงงานยาสูบเจ้าของพื้นที่และได้รับความยินยอมให้ใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 3 แปลง มีเนื้อที่รวม 870-3-5ไร่ ตั้งอยู่ที่ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายพื้นที่ติดกับถนนพหลโยธิน ภายในแปลงที่ดินจะมีถนนทางเข้าศูนย์สาธิตโรงงานยาสูบเชื่อมอยู่ ซึ่งแปลงที่ดินจะมีทั้งเกษตรกรเช่าปลูกข้าวโพดและปลูกใบยาสูบขายผลผลิตให้กับโรงงานยาสูบ โดยอาณาเขตทิศเหนือ จดศูนย์พัฒนาพันธ์พืชจักรพันธุ์เพ็ญศิริ ทิศตะวันออกจดถนนพหลโยธิน ทิศใต้จดร้านอาหารครัวสุโขทัยทิศตะวันตกจดเทือกเขาดอยนางนอน

สอบถามจากสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงรายสาขาแม่สายระบุว่า ที่ดินของโรงงานยาสูบเป็นทำเลที่มีศักยภาพมาก เนื่องจากติดถนนพหลโยธิน และห่างจากด่านศุลกากรแม่สายแห่งที่ 2 เพียง 4 กิโลเมตร ซึ่งสะดวกต่อการขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากมีการตั้งเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรม สำหรับแปรรูปสินค้าเกษตร เนื่องจากใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ ที่สำคัญบริเวณพื้นที่โรงงานยาสูบจะไม่มีแหล่งชุมชนอยู่อาศัย เพียงแต่มีชาวบ้านเช่าพื้นที่ทำการเกษตรและปลูกยาสูบเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีด่านศุลกากรแห่งที่1 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวข้ามแดนโดยเฉพาะ ซึ่งถูกพัฒนาให้เป็นแหล่งช็อปปิ้งท่าขี้เหล็กของสหภาพเมียนมากับตลาดแม่สาย ที่ห่างจากด่านแห่งที่ 2 ประมาณ 10 กิโลเมตร

ส่วนราคาที่ดินติดถนนพหลโยธินติดกับที่ดินโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษแม่สายล่าสุดราคาไร่ละกว่า 3 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์ 1 เท่าตัว ขณะที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดเชียงรายย้ำว่า ที่ดินแปลงนี้มีชาวบ้านเช่าทำกิน มองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำไปเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งจะต้องเจรจากันพอสมควรหากรัฐบาลต้องการที่ดินแปลงนี้จริงๆ

แม้จะได้แปลงที่ดินที่มีศักยภาพ มีถนนพหลโยธินเชื่อมการขนส่งสินค้าไปยังด่านศุลกากรแห่งที่2 ได้สะดวกรวดเร็ว แต่หากมีเรื่องของมวลชนเข้ามาเกี่ยวข้อง เชื่อว่าโอกาสตอกเสาเข็มตั้งโรงงานในระยะเวลาอันใกล้คงยากพอสมควร!!!

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,131 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559