‘บาเซโลนา’ฟุ้งยอดขายโต ผุดศูนย์รองรับ
บาเซโลนา มอเตอร์ เผยยอดขายเติบโต ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู, มินิ, บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เล็งขยับเป้าปี 61 จำนวน 2,000 คัน พร้อมเดินหน้าขยายศูนย์บริการแบบ SOO เพื่อรองรับการดูแลลูกค้าในอนาคต
นายกวิน ลีนุตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโต โดยยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยูต่อเดือนเพิ่มขึ้นกว่า 50 %เนื่องจากมีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ที่บางแค ส่วนสาขาวิภาวดี ก็มีอัตราการเติบโตประมาณ 10-20% คาดว่าทั้งปี 2561 จะมียอดขาย 2,000 คัน เพิ่มขึ้นจากที่เคยตั้งไว้ในช่วงต้นปี หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่เป้าหมายของมินิ ที่เพิ่งเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการสาขาเชียงใหม่ไปเมื่อเดือนสิงหาคม คาดว่าจะมียอดขาย 40 คัน ด้านบีเอ็ม ดับเบิลยู มอเตอร์ราด คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 400 คัน
“ยอดขายในส่วนรถใหม่บีเอ็ม ดับเบิลยูโตมาก เพราะเรามีสาขาเพิ่มมาอีกหนึ่งแห่ง ประกอบกับบริษัทแม่มีรถหลายรุ่นเข้ามาทำตลาด และมีแคมเปญทุกเดือน ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเราเตรียมจะขยายพื้นที่ของโชว์รูมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น”
นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีแผนงานที่จะเปิดศูนย์บริการหลังการขายของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ หรือ SOO-Service Only Outlet โดยวางแผนภายใน 5 ปีจะมีจำนวน 3 แห่ง ส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ 50-60 ล้านบาท ใช้พื้นที่ไม่เกิน 3 ไร่ และมี 2-3 ช่องซ่อม ขณะที่ทำเลที่จะขยายไปนั้นจะมีทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล รวมไปถึงต่างจังหวัด
“เราขายรถได้เยอะขึ้น ดังนั้นเรื่องการบริการหลังการขายก็ต้องให้ความสำคัญ ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด และเรามีความพร้อมเพราะมีบริการแบบครบวงจรทั้งด้านการขายรถใหม่-รถใช้แล้ว มีอู่ซ่อมสีและตัวถัง มีบริษัทประกัน และในอนาคตจะมีศูนย์บริการแบบ SOO ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นจุดแข็งของเราที่ทำให้เราได้เปรียบผู้เล่นราย อื่นๆในตลาด”
ปัจจุบัน บาเซโลนามีศูนย์บริการรวม 6 แห่ง ประกอบไปด้วยโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู 3 สาขา ได้แก่ วิภาวดี , เชียงใหม่ บางแค และมีบีเอ็มดับเบิลยู สตูดิโอ ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซา เชียงราย, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ส่วนโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มี 3 สาขาได้แก่ วิภาวดี ,เชียงใหม่ และเชียงราย ขณะที่โชว์รูมมินิ มี 1 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่
นอกจากนั้นแล้วยังมีบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ทีเอสเอส ออโต เรนทอล จำกัด ที่ให้บริการรถยนต์เช่าทั้งระยะยาวและระยะสั้น ,บริษัท ทีเอสเอส อินชัวร์ โบรคเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านประกันภัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ อาคาร อัคคีภัย วินาศภัย และ บริษัท เจเอ็มเค บอดี้แอนด์ เพ้นท์ฯ ให้บริการซ่อมตัวถังและสีกับรถยนต์ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ และ บริษัท พรีเมี่ยมยูสคาร์ฯ ให้บริการลูกค้าที่ต้องการเทรดรถยนต์ ในราคาสูงกว่าในตลาด พร้อมทั้งจำหน่ายรถยนต์มือ 2
“เรามีฐานลูกค้ากว่า 2 หมื่นราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจบริการหลังการขายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้ลงทุนกว่า 120 ล้านบาทในการทำอู่สีและตัวถัง และในอนาคตเรากำลังมีแผนงานขยายเฉพาะบริการหลังการขายแบบ เซอร์วิส แฟคทอรี ซึ่งเบื้องต้นต้องดูว่าจำนวนรถจะมีมากน้อยแค่ไหน”
นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 80% จะมาจากธุรกิจรถใหม่ และ 20% จะมาจากบริการหลังการขาย
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,396 วันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน พ.ศ. 2561
นายกวิน ลีนุตพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บาเซโลนา มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมามีการเติบโต โดยยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยูต่อเดือนเพิ่มขึ้นกว่า 50 %เนื่องจากมีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ที่บางแค ส่วนสาขาวิภาวดี ก็มีอัตราการเติบโตประมาณ 10-20% คาดว่าทั้งปี 2561 จะมียอดขาย 2,000 คัน เพิ่มขึ้นจากที่เคยตั้งไว้ในช่วงต้นปี หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่เป้าหมายของมินิ ที่เพิ่งเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการสาขาเชียงใหม่ไปเมื่อเดือนสิงหาคม คาดว่าจะมียอดขาย 40 คัน ด้านบีเอ็ม ดับเบิลยู มอเตอร์ราด คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 400 คัน
“ยอดขายในส่วนรถใหม่บีเอ็ม ดับเบิลยูโตมาก เพราะเรามีสาขาเพิ่มมาอีกหนึ่งแห่ง ประกอบกับบริษัทแม่มีรถหลายรุ่นเข้ามาทำตลาด และมีแคมเปญทุกเดือน ส่วนมอเตอร์ไซค์ก็ได้รับการตอบรับที่ดี โดยเราเตรียมจะขยายพื้นที่ของโชว์รูมเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น”
นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีแผนงานที่จะเปิดศูนย์บริการหลังการขายของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างเป็นทางการ หรือ SOO-Service Only Outlet โดยวางแผนภายใน 5 ปีจะมีจำนวน 3 แห่ง ส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ 50-60 ล้านบาท ใช้พื้นที่ไม่เกิน 3 ไร่ และมี 2-3 ช่องซ่อม ขณะที่ทำเลที่จะขยายไปนั้นจะมีทั้งกรุงเทพ และปริมณฑล รวมไปถึงต่างจังหวัด
“เราขายรถได้เยอะขึ้น ดังนั้นเรื่องการบริการหลังการขายก็ต้องให้ความสำคัญ ต้องสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด และเรามีความพร้อมเพราะมีบริการแบบครบวงจรทั้งด้านการขายรถใหม่-รถใช้แล้ว มีอู่ซ่อมสีและตัวถัง มีบริษัทประกัน และในอนาคตจะมีศูนย์บริการแบบ SOO ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นจุดแข็งของเราที่ทำให้เราได้เปรียบผู้เล่นราย อื่นๆในตลาด”
ปัจจุบัน บาเซโลนามีศูนย์บริการรวม 6 แห่ง ประกอบไปด้วยโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู 3 สาขา ได้แก่ วิภาวดี , เชียงใหม่ บางแค และมีบีเอ็มดับเบิลยู สตูดิโอ ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา3 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซา เชียงราย, เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ และเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ส่วนโชว์รูมบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มี 3 สาขาได้แก่ วิภาวดี ,เชียงใหม่ และเชียงราย ขณะที่โชว์รูมมินิ มี 1 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่
นอกจากนั้นแล้วยังมีบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ทีเอสเอส ออโต เรนทอล จำกัด ที่ให้บริการรถยนต์เช่าทั้งระยะยาวและระยะสั้น ,บริษัท ทีเอสเอส อินชัวร์ โบรคเกอร์ จำกัด ให้บริการด้านประกันภัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ อาคาร อัคคีภัย วินาศภัย และ บริษัท เจเอ็มเค บอดี้แอนด์ เพ้นท์ฯ ให้บริการซ่อมตัวถังและสีกับรถยนต์ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ และ บริษัท พรีเมี่ยมยูสคาร์ฯ ให้บริการลูกค้าที่ต้องการเทรดรถยนต์ ในราคาสูงกว่าในตลาด พร้อมทั้งจำหน่ายรถยนต์มือ 2
“เรามีฐานลูกค้ากว่า 2 หมื่นราย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจบริการหลังการขายเป็นเรื่องสำคัญ โดยเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เราได้ลงทุนกว่า 120 ล้านบาทในการทำอู่สีและตัวถัง และในอนาคตเรากำลังมีแผนงานขยายเฉพาะบริการหลังการขายแบบ เซอร์วิส แฟคทอรี ซึ่งเบื้องต้นต้องดูว่าจำนวนรถจะมีมากน้อยแค่ไหน”
นายกวิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2561 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ 80% จะมาจากธุรกิจรถใหม่ และ 20% จะมาจากบริการหลังการขาย
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,396 วันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน พ.ศ. 2561
