บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เปิดสถานะซื้อหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,199-1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,182 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และหากราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นไม่ผ่านบริเวณ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจพิจารณาปิดสถานะ
หากราคาทองคำสามารถ break out กรอบราคาด้านบนอาจเกิดแรงซื้อดันให้ราคาทองคำขยับขึ้นได้อีก หรือ หากราคาพยายามยืนเหนือโซนแนวรับ 1,199-1,194 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับขึ้นเพื่อทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,217 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หากทะลุไปได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ในโซน 1,229 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,194 1,182 1,171
แนวต้าน 1,217 1,229 1,238
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถึงแม้จะได้รับแรงกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 2/2018 ของสหรัฐซึ่งขยายตัวที่ระดับ 4.2% สูงกว่าประมาณการครั้งแรกที่ระดับ 4.1% และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 4.0% โดยราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์เชิงบวกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและแคนาดาหลังนายกรัฐมนตรีแคนาดา กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่แคนาดาและสหรัฐจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ก่อนเส้นตายวันศุกร์นี้ซึ่งกดดันให้เกิดแรงขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย ประกอบกับเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังสหภาพยุโรป (EU) เตรียมเสนอให้อังกฤษได้รับสถานะการเป็นหุ้นส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งแสดงถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจา Brexit ปัจจัยบวกเหล่านี้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำพยุงตัวรักษาระดับเหนือ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แม้จะได้รับแรงกดดันจากเปิดเผยตัวเลข GDP สหรัฐที่ขยายตัวเกินคาดก็ตาม สำหรับวันนี้จับตาการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, การใช้จ่ายและรายได้ส่วนบุคคล และดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดให้ความสำคัญ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด