เมื่อเสียงปี่กลองการเมืองกระหึ่ม หลากจอมยุทธ์ออกจากการเร้นกาย เพราะการคลายล็อกการเมืองจาก คสช. จะเริ่มในไม่กี่อึดใจข้างหน้า
ยามนี้ทุกสายตาเพ่งไปยังการเคลื่อนไหวของหนึ่งใน
“คนการเมือง” ที่ใครหลายคนมองว่าชายคนนี้จะเป็นว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่พรรคหนึ่ง ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า
ภาพของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองในการไปเคารพศพนายกิมไซ้ เเซ่เฮ้ง บิดาของ
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ณ ศาลา 15 วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหารนั้น ย่อมสื่อนัยได้อย่างไม่ต้องตีความอะไรมากมาย
ราคาของชายคนนี้หากเทียบกับภาษาวรรณกรรมกำลังภายในของแดนมังกรนั้น เสมือนเป็น “มนุษย์ทองคำ”
ชุมนุมมังกรเเละพยัคฆ์การเมือง “เปิดหน้า” กันเกือบครบถ้วนทุกพรรคเช่นนี้นั้น อะไร?ที่ทำให้ชายที่ชื่อ “สนธิรัตน์” เป็นบุคคลที่หลากวงการให้ความสำคัญในยามนี้เเละยามหน้า
เพราะ “สนธิรัตน์” กลายเป็นชื่อที่หลากวงสนทนาทางการเมืองและแวดวงธุรกิจให้นํ้าหนักมากคนหนึ่งในยามนี้ เพราะหลากเครือข่ายที่ชายคนนี้ประสานไว้ตั้งแต่นมนานจวบจนวันนี้นั้น แน่นอนว่า “สนธิรัตน์” ย่อมเป็นเบอร์ต้นๆ ของการประสานทางการเมืองทั้งบนดินเเละใต้ดินก่อนที่วาระหย่อนบัตรจะบังเกิด
หากไล่เลียงความเป็นมาของบุรุษที่ลือชาทางการเมืองยามนี้นั้น “สนธิรัตน์” สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีประสบการณ์ทำงานทั้งภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคการเมือง
ชายคนนี้เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาทั้งชีวิตเเละทำมา หลากวงการธุรกิจ และเคยเป็นประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอี ไทย รวมทั้งความล้มเหลวช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่ก็กลับขึ้นมาลุยต่อได้
เคยช่วยปรับโครงสร้างธุรกิจของโรงพยาบาลยันฮีจนกลับมาแข็งแกร่ง
เคยทำงานในมูลนิธิสัมมาชีพ ช่วยสร้างอาชีพให้กับชุมชน
หลายสิบปีที่ “สนธิรัตน์” สัมผัสผู้คนหลากวงการเช่นนี้ “นํ้ามิตร” น่าจะมากกว่า “อริ”
เเละช่วงการยึดอำนาจครั้งล่าสุด ได้รับหน้าที่สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท.ด้านสังคม จากนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารมว.อุตสาหกรรม (อรรชกาสีบุญเรือง)
ต่อมาขยับเป็น
รมช. พาณิชย์ และขึ้นเป็น
เสนาบดีกระทรวงนี้แบบพลิกโฉมหน้ากระทรวงที่เคยเป็นจำเลยในคดีรับจำนำข้าว โดยปรับปรุงกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นหนึ่งในกระทรวงหลักในการหารายได้เข้าประเทศสอดรับนโยบาย ไทยเเลนด์ 4.0
เอสเอ็มอีคือภารกิจหลักที่ “สนธิรัตน์” วางแนวทางในการช่วยเหลือผู้ผลิต ผู้ประกอบการชุมชน SMEsผู้ผลิตสินค้า โอท็อป ร้านค้าปลีกรายย่อยโดยได้เข้าไปช่วยสร้างความเข้มแข็ง ผลักดันให้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสินค้าและบริการการดูแลและปกป้องคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นเสมือนปัญหาเรื้อรังของประเทศ
มีการรื้อแผนสินค้าเกษตรร่วมกับกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ ตั้งแต่แผนการเพาะปลูก แผนการผลิต แผนการค้า ขายในประเทศเพื่อพยุงราคาและส่งออก
ส่วนการดูแลผู้มีรายได้น้อยที่มีมากมายนั้น “โครงการธงฟ้าประชารัฐ” และบัตรสวัสดิการนั้น คือหนึ่งใน “ธง” การทำงานของเสนาบดีกระทรวงนี้ ที่หวังจะเพิ่มสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยและอาจจะมีผลถึงการหย่อนบัตรเลือกตั้งครั้งหน้า
ต่างๆ นานาข้างต้น น่าจะออกใบรับประกันให้ได้ว่า “สนธิรัตน์” ถือเป็น “คีย์เมกเกอร์” คนหนึ่งทางการเมืองไปแล้ว
รายงานพิเศษ หน้า 16 ฉบับ 3396 ระหว่างวันที่ 30 ส.ค.- 1 ก.ย.2561