PTGร่วงกว่า20% บริษัทแจงพื้นฐานยังดี
ราคาหุ้น PTG ลดลงกว่า 20% จาก 15 บาทเหลือ 11-12 บาท หลังกำไรลดลง 33% พร้อมลดเป้าการขยายตัวทางธุรกิจ ผู้บริหารแจงบริษัทยังมีพื้นฐานดี
ภายหลังจากการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)หรือ PTG เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท ลดลง 33% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 ขณะที่ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับปีก่อน
บริษัทได้ชี้แจงผลการดำเนินงานในงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม บริษัทได้ลดเป้าการเติบโตลงจาก 25% เหลือ 15-20% ชะลอแผนการออกหุ้นกู้ 600-1,000 ล้านบาท ปรับลดงบลงทุนลงปรับลดเป้าการขยายสาขาจาก 2,000 สาขาเหลือ 1,900 สาขา
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PTG จากช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2561 ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 14.00-15.80 บาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละไม่เกิน 100 ล้านบาท ช่วงต้นเดือนสิงหาคมราคาอยู่ในช่วง 15.00-15.30 บาท เริ่มส่งสัญญาณการอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงประกาศผลประกอบการราคาหุ้นลดลงต่อเนื่อง 6 วันทำการ จาก 14.40 บาทลงไปที่ 12.60 บาท หรือลดลง 12.5% มูลค่าการซื้อขายขยับเพิ่มมาเกิน 200 ล้านบาทต่อวัน
ในช่วงที่บริษัท ชี้แจงผลการดำเนินงานในงาน Opportunity Day ราคาหุ้นยังลดลงต่อเนื่องอีก 3 วันทำการ จาก 12.80 บาทเหลือ 11.10 บาท หรือลดลง 13% ในวันที่ 24 สิงหาคม ราคาหุ้นเคยถูกขายลงไปที่ราคาตํ่าสุดถึง 10.10 บาทในระหว่างวัน ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาปิดบวกได้
ราคาหุ้น PTG ได้ลดลงในช่วง 1 เดือนจาก 15 บาท เหลือ 11-12 บาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือลดลงกว่า 20% มูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นไปเกินกว่า 790-870 ล้านบาทต่อวัน
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า พื้นฐานของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง ปัจจุบันมีสาขาของสถานีบริการนํ้ามันและแก๊สแอลพีจีกว่า 1,800 แห่งในช่วงครึ่งปีแรก มีแผนเปิดสาขาเป็น 1,900 สาขาในปีนี้ โดยจะเน้นขยายสาขาเฉพาะในพื้นที่ซึ่งยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
บริษัทวางแผนขยายสาขาของธุรกิจ non-oil เป็น 500 สาขา ซึ่งรวมร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck และสำหรับรถยนต์ Autobacs โดยมองว่าการลงทุนในธุรกิจ non-oil ต้องใช้เวลา แต่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ และเพิ่มศักย-ภาพให้กับสถานีบริการนํ้ามันในอนาคต
สำหรับโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ในขณะนี้เริ่มการรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 แล้ว และคาดกำไรโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ในปีนี้จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,396 วันที่ 30 ส.ค.61-1 ก.ย. 2561
ภายหลังจากการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 ของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)หรือ PTG เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทมีกำไรสุทธิ 177 ล้านบาท ลดลง 33% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และลดลง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2561 ขณะที่ผลงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 มีกำไรสุทธิ 447 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% เทียบกับปีก่อน
บริษัทได้ชี้แจงผลการดำเนินงานในงาน Opportunity Day เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม บริษัทได้ลดเป้าการเติบโตลงจาก 25% เหลือ 15-20% ชะลอแผนการออกหุ้นกู้ 600-1,000 ล้านบาท ปรับลดงบลงทุนลงปรับลดเป้าการขยายสาขาจาก 2,000 สาขาเหลือ 1,900 สาขา
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PTG จากช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2561 ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ 14.00-15.80 บาท มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันละไม่เกิน 100 ล้านบาท ช่วงต้นเดือนสิงหาคมราคาอยู่ในช่วง 15.00-15.30 บาท เริ่มส่งสัญญาณการอ่อนตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงประกาศผลประกอบการราคาหุ้นลดลงต่อเนื่อง 6 วันทำการ จาก 14.40 บาทลงไปที่ 12.60 บาท หรือลดลง 12.5% มูลค่าการซื้อขายขยับเพิ่มมาเกิน 200 ล้านบาทต่อวัน
ในช่วงที่บริษัท ชี้แจงผลการดำเนินงานในงาน Opportunity Day ราคาหุ้นยังลดลงต่อเนื่องอีก 3 วันทำการ จาก 12.80 บาทเหลือ 11.10 บาท หรือลดลง 13% ในวันที่ 24 สิงหาคม ราคาหุ้นเคยถูกขายลงไปที่ราคาตํ่าสุดถึง 10.10 บาทในระหว่างวัน ก่อนจะกระเตื้องขึ้นมาปิดบวกได้
ราคาหุ้น PTG ได้ลดลงในช่วง 1 เดือนจาก 15 บาท เหลือ 11-12 บาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือลดลงกว่า 20% มูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นไปเกินกว่า 790-870 ล้านบาทต่อวัน
นายรังสรรค์ พวงปราง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ PTG กล่าวว่า พื้นฐานของบริษัทยังมีความแข็งแกร่ง ปัจจุบันมีสาขาของสถานีบริการนํ้ามันและแก๊สแอลพีจีกว่า 1,800 แห่งในช่วงครึ่งปีแรก มีแผนเปิดสาขาเป็น 1,900 สาขาในปีนี้ โดยจะเน้นขยายสาขาเฉพาะในพื้นที่ซึ่งยังมีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เช่น ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
บริษัทวางแผนขยายสาขาของธุรกิจ non-oil เป็น 500 สาขา ซึ่งรวมร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก Pro Truck และสำหรับรถยนต์ Autobacs โดยมองว่าการลงทุนในธุรกิจ non-oil ต้องใช้เวลา แต่จะเป็นการเอื้อประโยชน์ และเพิ่มศักย-ภาพให้กับสถานีบริการนํ้ามันในอนาคต
สำหรับโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ ในขณะนี้เริ่มการรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2561 แล้ว และคาดกำไรโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ในปีนี้จะอยู่ที่ 40 ล้านบาท
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,396 วันที่ 30 ส.ค.61-1 ก.ย. 2561
