ทายาทอินเตอร์ลิ้งค์

29 ส.ค. 2561 | 09:31 น.
สร้างเลกาซี่  ITEL พิสูจน์ฝีมือ

นักธุรกิจในตลาดหุ้นที่โดดเด่นมาก ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต้องยกให้กับ “เก็ท-ณัฐนัย อนันตรัมพร” กรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน)หรือ ITEL ผู้ให้บริการโครงข่ายใยแก้วนำแสง ที่สร้างธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อปี 2559

“ณัฐนัย” เป็นทายาทของ “สมบัติ-ชลิดา อนันตรัมพร” ผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ILINK เขาถูกเรียกตัวกลับมาช่วยงานเมื่อปี 2555 รับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไป ที่ต้องทำงานทั่วไปจริงๆ เพราะผู้เป็นพ่อไม่ได้มอบหมายให้ทำอะไรเป็นพิเศษ เขาจึงตั้งโจทย์ให้กับตัวเอง ด้วยการสร้างรายได้ ว่าจะทำรายได้ให้กับบริษัท โดยนำบริษัทที่เคยจดทะเบียนไว้ แต่ไม่ได้ใช้ทำอะไร มาสร้างให้เกิดประโยชน์จากธุรกิจด้านโทรคมนาคม

“เราอยากพิสูจน์ตัวเองว่าเราก็ทำได้ พ่อเริ่มธุรกิจมาจากไม่มีอะไร จากคนพิจิตรที่เข้ามาทำงานในบริษัท แล้วออกมา
ตั้งบริษัทของตัวเองจนประสบความสำเร็จ แต่การเริ่มสร้างธุรกิจของเรา ไม่ได้สร้างจากศูนย์ เพราะมันจะใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จ เราเลยเลือกที่จะเป็นสเกลอัพ เลือกเอาสิ่งที่มีอยู่มาสร้างเลกาซี่ของตัวเอง”

BB4A9070

นักบริหารรุ่นใหม่คนนี้ ใช้ความถนัดของตัวเองทางด้านการวางแผน การวิเคราะห์ข้อมูล การทำงานที่เป็นระบบ ซึ่งได้มาจากการเรียนวิศวกรเครื่องกล มาพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคม เขายอมรับว่ารายละเอียดมันมีความต่างจากสิ่งที่เรียนมา แต่การทำธุรกิจต้องอาศัยทักษะด้านการสร้างงานโปรเจ็กต์ การบริหารงาน โครงการ นำข้อมูล ความเข้าใจอุตสาหกรรม ความเข้าใจคู่แข่ง นำความรู้ที่มีมาวิเคราะห์ และวางแผน  แล้วดำเนินการ

หากแต่การลงไปทำจริง กับแผนงานที่ทำ มันเป็นอีกสกิลหนึ่งที่มีความแตกต่างกัน หลายครั้งที่ผู้บริหารคนนี้เกิดความไม่เข้าใจ เพราะเขาสามารถคิดคำนวณวางแผนได้อย่างเป็นระบบ แต่เมื่อสั่งงานให้ลูกน้องทำจริง กลับไม่เป็นไปตามเป้า... เราดูจากสูตรคำนวณการติดตั้งสายไฟเบอร์ มันทำได้วันหนึ่ง 500 เมตรต่อทีม ผมอยากได้ 3 กิโลเมตร ก็ลงไป 6 ทีมแต่ปรากฏว่าทำได้จริงเพียง 800 เมตร มันไม่เป็นตามสูตร และเมื่อได้ลงไปดูงานเอง จึงรับรู้ว่า งานหลายๆ ส่วน ไม่สามารถเดินหน้าได้ตามเป้า การลากสายไม่สามารถลากได้ทุกเวลา เพราะติดขัดที่มีคนสัญจรไปมา การขออนุญาตบางอย่าง ที่ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้เกิดการสะดุด และล่าช้า

“เราได้รู้ว่าแผนคือกรอบ พอลงไปลงมือทำจริงแล้ว แผนมันต้องปรับได้ ...นี่คือ ปัญหาที่เจอ เราต้องปรับ Mindset ของตัวเรา คิดว่าตัวเองเป็นเหมือนฟองนํ้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างได้ ทุกวันนี้องค์กรของเรา จะมีแผนเป็นกรอบ และการทำงานต้องไม่หลุดกรอบ ส่วนระหว่างทางก่อนถึงเป้าหมาย ผมให้อิสระในวิธีการทำในระดับหนึ่ง”

“ณัฐนัย” บอกว่า เขามีคุณพ่อและคุณแม่เป็นต้นแบบของการเริ่มทำงานในช่วงแรก การทำหน้าที่เป็นโค้ชให้กับทีมงาน ให้อิสระทีมงานในการเดินสู่เป้าหมาย พร้อมปรับวิธีคิดของทีมงาน ให้เข้าใจว่า การทำงานต้องทำให้ทุกฝ่ายแฮปปี้ และได้งานคุณภาพตามเป้า เพื่อให้แบรนด์ ITEL เป็นที่ยอมรับ

ในองค์กรของ ITEL มีทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ทำงานร่วมกัน สิ่งที่ผู้นำอย่างเขาต้องทำคือ การสร้างระบบสื่อสารภายในองค์กร ทำให้ทุกฝ่ายได้มีการพูดคุย เพื่อทำให้งานเดินหน้าอย่างไม่สะดุด โดยจัดให้มีการประชุมทุกวันอังคาร เรียกว่า IFN เพื่อให้ทุกฝ่ายได้พูดคุยกัน ซึ่งสามารถลดความขัดแย้ง และสร้างความเข้าใจในการทำงานได้มากยิ่งขึ้น

ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ บอกว่า การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ต้องมี 4 สิ่งสำคัญ คือ 1. มีคน (people)  2. แผน (strategy) 3. การลงมือทำ (execution) 4. เงิน (cash) เรื่องของแผนงานและการลงมือทำ เป็นสิ่งแรกที่ต้องทำ หลังจากนั้น คือ การสร้างคน ซึ่งขณะนี้ ITEL ได้เดินมาถึงเฟส 2 ของการสร้างธุรกิจ นั่นคือการสร้างและพัฒนาคน คัดเลือกคนเก่งแล้วใช้งานให้ถูกที่ ถูกตำแหน่ง เพื่อให้ได้ทีมงานที่ดี ซึ่งจะนำไปสู่องค์กรที่ยั่งยืน และรายได้ที่มั่นคงในที่สุด แนวคิดในการสร้างทีมงานที่ดีนี้ เขามีต้นแบบที่สำคัญคือ สตีฟ จ็อบส์ ผู้สร้างไอโฟนนั่นเอง

พนักงานที่ผู้นำคนนี้อยากได้ คือ พนักงานที่สู้อย่างชาญฉลาด รอบคอบ กล้าคิดกล้าตัดสินใจ ใช้อำนาจของ
ตัวเองอย่างถูกต้อง (authority) และเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งตอนนี้เขากำลังพัฒนาทีมที่จะรายงานตรงกับเขาไว้แล้ว 14 คน หลังจากนั้น เขาจะลดทอนคนกลุ่มนี้ให้เหลือ 8 คน โดยอีก 6 คนที่หายไป คือคนที่ไว้วางใจได้ จนไม่ต้องคุย และลดลงเหลือ 4 คนในที่สุด

“ณัฐนัย” บอกว่า เขาเป็นมนุษย์สัญชาตญาณ ใช้ gut feeling ในการบริหารประมาณ 70% อีก 30% คือข้อมูล
ข้อเท็จจริง

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ผู้ชายคนนี้เติบโตมาพร้อมกับความคิดในการเอาตัวรอด รอดจากการถูกตี เพราะเขาไม่ใช้
คนเรียนเก่ง...รอดจากการถูกแกล้ง เพราะเขาเป็นคนตัวเล็ก... รอดจากปัญหา เมื่อทำงานแล้วติดขัดตรงโน้นตรงนี้...เขาเป็นนักบริหารที่ไม่ยึดติดกับความเชื่อบางอย่าง จึงทำให้สามารถปรับเปลี่ยนวิธีสู่เป้าหมายได้ตลอดเวลา

เป้าหมายของการพัฒนาองค์กรของ “ณัฐนัย” คือ การเดินหน้าสู่ Employee Owned Companies โดยการแบ่งปันผลประโยชน์หรือกำไรให้กับพนักงาน เพื่อทำให้พนักงานรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ ร่วมกันผลักดันให้บริษัทเดินหน้าตามเป้าหมาย ทั้งการขยายงานและรายได้ ที่ผ่านมา 6 ปี ITEL เติบโตเฉลี่ย 60% เป้าภายใน 5 ปี หลังจากนี้ ITEL ต้องเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อย 20%

“ณัฐนัย” ทิ้งท้ายว่า เขาเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ เมื่อตั้งเป้าแล้วต้องเดินหน้าไปให้ถึง และต้องทำให้เร็ว เพราะบอสอย่างเขา คือ บอสที่เป็นเจ้านายของ “เวลา” ไม่ใช่มี “เวลา” เป็นเจ้านาย

หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3396 ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม - 1 กันยายน 2561

e-book-1-503x62-7