ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการคาดการณ์อุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

27 ส.ค. 2561 | 03:01 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2561

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 1 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัว จากปริมาณการผลิตของอิหร่านที่อาจปรับตัวลดลง หลังประเทศต่างๆ เริ่มปรับลดปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่าน

+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด หลัง Baker Hughes รายงานว่าปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ส.ค. 61 ปรับลดลงมากที่สุดในรอบสองปีที่จำนวน 9 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 860 แท่น จากผลของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า

+ ความกังวลว่าความตึงเครียดของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมันเริ่มคลี่คลายลง หลังบริษัทค้าน้ำมัน Unipec ภายใต้ Sinopec บริษัทน้ำมันแห่งชาติของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดในจีน ตัดสินใจที่จะกลับมานำเข้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ อีกครั้งในเดือน ต.ค. 61 หลังหยุดการนำเข้าในเดือน ส.ค. - ก.ย. 61 เนื่องจากรัฐบาลจีนยกเลิกการรวมน้ำมันดิบในสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25%  เป็นมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปเป็นวิธีที่ดีสุดที่จะไม่กระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ประกอบกับปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อที่ปรับเพิ่มขึ้น และปริมาณการส่งออกจากอินเดียที่มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในประเทศปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉิน

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 65-70 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 72-77  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างเนื่อง หลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบจากอิหร่าน และเรียกร้องให้ทุกประเทศหยุดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านนับตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. นี้เป็นต้นไป

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดว่าจะปรับลดลง หลังโรงกลั่นคงอัตราการกลั่นในระดับสูงต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ส.ค. ปรับตัวลดลงราว 5.8 ล้านบาร์เรล

ความต้องการใช้น้ำมันโลกคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ e-book-1-503x62