นายกฯ พอใจความก้าวหน้านาแปลงใหญ่ ชี้! ช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและรายได้ แนะเกษตรกรปลูกพืชเสริม ลดความเสี่ยงราคาข้าวตกต่ำ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พอใจผลการดำเนินงานส่งเสริมระบบนาแปลงใหญ่ ที่พบว่า เกษตรกรมากกว่าร้อยละ 80 มีความพึงพอใจในการรวมกลุ่มทำนา เนื่องจากทำให้กลุ่มมีความเข้มแข็งขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการตลาด ทั้งของวิสาหกิจชุมชนด้านข้าวและสหกรณ์การเกษตร
"รายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุว่า เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 1,325 บาทต่อไร่ โดยปีแรกที่เริ่มทำเพิ่มขึ้น 115 บาทต่อไร่ ปีที่ 2 เพิ่มขึ้น 1,211 บาทต่อไร่ ซึ่งเป็นผลมาจากผลผลิตข้าวที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.50 ขณะที่ต้นทุนการผลิตลดลงร้อยละ 19.02"
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า รัฐบาลได้จัดทำโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) ปี 2558-2561 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว โดยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าวคุณภาพดี ช่วยเพิ่มสมรรถนะการบริหารจัดการข้าวของชุมชนแบบครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการผลิต การจัดการคุณภาพ และการตลาด เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้
"นาแปลงใหญ่เป็นหนึ่งในเครื่องมือแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้ มีนาแปลงใหญ่ที่ดูแลโดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทั้งสิ้น 1,902 แปลง ครอบคลุมพื้นที่ 2,433,172 ไร่ เกษตรกรจำนวน 175,647 ราย ในพื้นที่ 71 จังหวัด แบ่งเป็นกลุ่มต่อเนื่องปี 2558-2560 จำนวน 1,172 แปลง และกลุ่มใหม่ปี 2561 จำนวน 30 แปลง"
สำหรับการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานข้าว นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตข้าวตามมาตรฐาน GAP แล้ว 854 แปลง เกษตรกร 47,700 ราย พื้นที่ 594,916 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตข้าวที่ได้มาตรฐานเข้าสู่ตลาดไม่น้อยกว่า 300,000 ตัน และภาครัฐตั้งเป้าให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบและเข้ารับการตรวจใบรับรองในปี 2562 อีก 127,947 ราย พื้นที่ 1.8 ล้านไร่
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี แนะว่า เกษตรกรจะต้องรู้จักปลูกพืชเสริมหรือทำเกษตรแบบผสมผสาน เลี้ยงสัตว์ และแปรรูปผลผลิตขาย เพื่อให้มีรายได้ตลอดทั้งปี ป้องกันปัญหาผลกระทบที่เกิดจากราคาข้าวตกต่ำในวันข้างหน้า
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
เกษตรเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวโครงการส่งเสริมนาแปลงใหญ่
●
สศก.ชี้นาแปลงใหญ่ เกษตรกรรายได้เพิ่ม 35%