TAJAจัดเสวนา“ตลาดรถขาขึ้น”ฟันธงยอดขายถึง1ล้านคัน

23 ส.ค. 2561 | 11:36 น.
TAJA ระดมสมองค่ายรถยนต์ คาดปีนี้ยอดขายถึง1ล้านคัน ระบุปัจจัยเอื้อ ทั้งจีดีพี ลงทุนภาครัฐ เอกชน ส่งออก ท่องเที่ยว ด้านส่งออกเผยราคาน้ำมันเพิ่ม ดันตลาดตะวันออกกลางส่งสัญญาณฟื้นตัว

สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย หรือ TAJA จัดเสวนาหัวข้อ “ตลาดรถขาขึ้น...? ซื้อให้ได้ ขายให้ดี” โดยมีนักการตลาดจากบริษัทรถยนต์และนักวิชาการมาร่วมแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์เศรษฐกิจ ตลาดรถยนต์ กำลังซื้อผู้บริโภค

001 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่ยอดขายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยช่วง ม.ค.-ก.ค.ทำได้ 5.71 แสนคัน เพิ่มขึ้น 20% ทำให้กลุ่มฯ ตัดสินใจปรับเพิ่มเป้าหมายการผลิตปีนี้จาก 2 ล้านคัน เป็น 2.08 ล้านคัน แต่ในส่วนของการส่งออกยังคงเป้าหมายเดิมคือ 1 ล้านคัน

อย่างไรก็ตาม การส่งออกมีสัญญาณที่ดี จากการที่ตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งในอดีตเคยเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยเคยมีมีสัดส่วน 26% ก่อนที่จะหดตัวลงในช่วงเกิดวิกฤติราคาน้ำมันทำให้ลดลงเหลือ 8% แต่เมื่อราคาน้ำมันขยับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้วทำให้ล่าสุดสัดส่วนตะวันออกกลางเพิ่มเป็น 10% ส่วนตลาดใหญ่ที่สุดขณะนี้คือ ออสเตรเลีย อยู่ที่ 32%

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า มาสด้ามองว่าตลาดรถยนต์ไทยมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 1 ล้านคัน/ปี แต่จะมากกว่าหรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบ เช่นปีนี้เห็นว่าภาพรวมต่างๆ อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้ตลาดมีทิศทางที่สดใส และมีความเป็นไปได้ที่ยอดขายโดยรวมจะสูงกว่า 1 ล้านคัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับบริษัทรถยนต์

ตลาดหลักรถยนต์ไทยยังคงเป็นรถปิกอัพ แต่ตลาดที่โดดเด่นและเป็นตัวขับเคลื่อนในช่วงนี้ คือ กลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ประกอบไปด้วย อีโค คาร์ และบี คาร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูง “รถเอสยูวี และพีพีวี ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ขยายตัวอย่างโดดเด่น แต่เป็นตลาดสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงขึ้น ส่วนอีโค คาร์ และบีคาร์ เป็นกลุ่มที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่าย”

002 ด้านนายยอดชาย ซื่อวัฒนากุล ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักสื่อสารการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า อีโค คาร์ เพิ่มบทบาทความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ มียอดขายที่สูงกว่าไตรมาสแรก 56% ส่วนรถกลุ่มพีพีวีก็ขยายตัวเช่นกัน ประมาณ 5% ทั้งนี้ หากมองในภาพรวม พบว่าตลาดรถยนต์มีทิศทางการเติบโตที่ดี โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยบวกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้น การลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มขึ้น การส่งออกที่เติบโตต่อเนื่อง 12.3% รวมถึงการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องซึ่งขยายตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจเติบโต และจีดีพีเพิ่มขึ้น 4.8% ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประเมินว่าทั้่งปี จีดีพี จะเติบโต 4.2-4.7% ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดรถยนต์เช่นกัน

ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายรถยนต์มีทั้งสิ้น 4.89 แสนคัน เพิ่มขึ้น 19.3% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่มั่นใจว่าช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งปกติจะมียอดขายที่สูงกว่าครึ่งปีแรก โดยประเมินว่าจะสูงกว่า 5 แสนคัน ดังนั้นทำให้ภาพรวมตลาดทั้งปี 2561 มีความเป็นไปได้สูงที่จะแตะระดับ 1 ล้านคัน

สำหรับตลาดรถยนต์ปี 2560 มียอดขายทั้งสิ้น 8.67 แสนคัน ส่วนปีนี้ช่วงต้นปีประเมินว่าจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่การที่ยอดขายเติบโตต่อเนื่องทุกเดือน ทำให้ผู้ประกอบการปรับเป้าหมายขึ้นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น 9 แสนคัน 9.3-9.5 แสนคัน และก่อนหน้าที่ประกาศอย่างเป็นทางการคือ 9.8 แสนคัน ก่อนที่จะมีการพูดถึงตัวเลขระดับ 1 ล้านคันในช่วงนี้