โกงบิตคอยน์-ปั่น DNA!! 'ปริญญา' แตกหัก 'ประสิทธิ์' โยนบาปกันวุ่น ปัดบงการ
"ปริญญา-ประสิทธิ์" 2 คีย์แมนคนสำคัญคดีโกงบิตคอยน์นักธุรกิจชาวฟินแลนด์ ซัดกันนัว อ้าง 'เออาร์นี' เปลี่ยนแผนรับเงินที่ฟินแลนด์ ขอลดค่าคอมมิสชันจาก 25% เหลือ 20% แฉ 3 คน รับเละ 5% นายแบงก์-พลเชษฐ์ 2.5%
คดีหลอกลวง นายเออาร์นี โอตาวา นักธุรกิจฟินแลนด์ ขายเงินดิจิตอลบิตคอยน์ 5,564.44 เหรียญ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 797,408,454.33 บาท เข้มข้นขึ้นทุกขณะ เมื่อนายปริญญา จารวิจิต ผู้ต้องหารายสำคัญที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ ออกมาให้ข้อมูลกับ "ฐานเศรษฐกิจ" เพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา พร้อมกับซัดทอด นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหุ้น
[caption id="attachment_308272" align="aligncenter" width="310"]
ขณะที่ นายประสิทธิ์ตั้งโต๊ะแถลงข่าว อ้างว่า ต้องตกเป็นแพะรับบาปในกรณีนี้ พร้อมกับระบุว่า เขาเองก็ได้รับความเสียหายหุ้นให้กับนายปริญญา จากการที่ถูกลูกค้าของเขาโอนหุ้นให้นายปริญญา
คดีนี้ นายเออาร์นี โอตาวา นักธุรกิจชาวฟินแลนด์ ให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนว่า มีนักธุรกิจไทย 9 คน ร่วมกันฉ้อโกง โอนเงินดิจิตอลบิตคอยน์ 3 กรณี มูลค่าความเสียหายรวม 797.408 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.การซื้อหุ้น 2 บริษัท คือ บริษัท เอ็กซ์เปย์ ซอฟท์แวร์ จำกัด (Ex-Pay Software) จำนวน 25% และหุ้นของบริษัท เอ็นเอ็กซ์เชน อินซ์ จำกัด (NXChain Inc) ความเสียหาย 92.69 ล้านบาท , 2.กรณีร่วมลงทุนซื้อสกุลเงินดิจิตอลที่ชื่อว่า DRG (Dragon Coin) ความเสียหาย 440 ล้านบาท และ 3.การเข้าซื้อหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) ความเสียหาย 246.7 ล้านบาท
[caption id="attachment_308274" align="aligncenter" width="503"]
เปิดชื่อนายแบงก์ใหญ่
นายเออาร์นี ระบุว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 2560 นายบอย เจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทย ได้แนะนำนายปริญญาและนายประสิทธิ์ ให้เขาและ น.ส.ชนนิกานต์ แก้วกาสี (แตงโม) ซึ่งเป็นแฟนสาว รู้จักก่อนที่จะมีการชักชวนให้โอนบิตคอยน์ไปลงทุน จนมีความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับคำชี้แจงของนายปริญญา ที่ระบุว่า ได้รู้จักนายเออาร์นีจากการแนะนำของทางนายแบงก์กสิกรไทยจริง
ขณะที่ นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวระบุ รู้จักนายปริญญาผ่านเฟซบุ๊ก จากนั้นนายปริญญาได้พานายเออาร์นีพร้อมแฟนสาวเข้ามาทำความรู้จัก และสนิทสนมกัน จากนั้นได้ฟอร์มทีมงานเพื่อทำธุรกิจร่วมกัน แต่หลังจากทำงานร่วมกันได้ไม่ถึง 4 เดือน นายประสิทธิ์และแตงโมเริ่มสงสัย เพราะทำไมไม่โอนค่าหุ้นให้ลูกค้าและไม่โอนเงินเข้าบริษัทและสงสัยพฤติกรรมนายปริญญา มีการประชุมกัน จึงให้แตงโมแอบอัดเทปการประชุม และประชุมกันได้สักพัก เกิดมีปากเสียงกันระหว่างผมกับนายปริญญา ทำให้วงแตก และขอยุติการร่วมงานกัน นายปริญญาจึงได้ไล่นายประสิทธิ์ นายเออาร์นี แตงโม ออกจากห้องประชุมในวันนั้น
[caption id="attachment_308275" align="aligncenter" width="408"]
นายประสิทธิ์ ยืนยันว่า นายเออาร์นีได้รับหุ้น DNA เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2560 จำนวน 185 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.23 บาท เป็นเงิน 227.5 ล้านบาท และวันที่ 17 พ.ย. 2560 จำนวน 160 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 1.50 บาท เป็นมูลค่า 240 ล้านบาท พร้อมมีเอกสารการลงนามของผู้ซื้อและผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เปิดค่าคอมมิสชันบิตคอยน์
ด้าน นายปริญญา ชี้แจงกับ "ฐานเศรษฐกิจ" อ้างว่า การพบกันกับนายเออาร์นีในครั้งแรก นายเออาร์นีแจ้งว่า มีความประสงค์ต้องการแลกเปลี่ยนบิตคอยน์เป็นเงินไทยจำนวนมาก ซึ่งวันนั้นได้นัดประชุมกับนายประสิทธิ์ที่มาชวนเพื่อลงทุนใน ICO Tenx ที่นายประสิทธิ์อ้างว่า เป็นตัวแทนบริษัท Tenx ในประเทศไทย และนายประสิทธิ์ก็ได้ขอทำความรู้จักนายเออาร์นีและแลกเปลี่ยนการติดต่อระหว่างกันเอง
[caption id="attachment_308276" align="aligncenter" width="503"]
หลังจากการประชุมกับนายเออาร์นีในวันนั้น นายเออาร์นีได้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ จำนวน 1,182.23BTC และอีก 185.189ETH โดยมีการให้ส่วนลด 25% จากราคาตลาดที่ต่ำที่สุดของบิตคอยน์ในขณะนั้น จากนั้นก็มีการนัดหมายเพื่อทำสัญญาและดำเนินการต่อไป นายปริญญาจึงได้มีการติดต่อนายพลเชษฐ์ (ไม่ทราบนามสกุล) และนายธนสิทธิ์ จารวิจิต เพื่อทำการเทรด เนื่องจากไม่มีเวลากระทำการเอง แต่หลังจากนั้น นายเออาร์นีได้แจ้งว่า ได้มีการพูดคุยกับนายประสิทธิ์ และมีทนายส่งร่างสัญญาระหว่างนายปริญญาและนายเออาร์นีมาให้ โดยขอต่อรองส่วนลดเหลือ 20% และนายประสิทธิ์ก็ได้มีการขอแบ่งค่าคอมมิสชันนายบอย ที่เป็นผู้แนะนำ 2.5% นายพลเชษฐ์ 2.5% และนายธนสิทธิ์ 5% นายประสิทธิ์ 5% และนายปริญญา 5%
นายปริญญาอ้างว่า ในวันที่นัดเซ็นสัญญา นายเออาร์นีได้แจ้งกับทุกคนว่า ต้องการที่จะรับเงินที่ประเทศฟินแลนด์ ต่างจากที่ตกลงกันไว้ โดยกล่าวว่า ได้คุยกับนายประสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว และต้องรอเปิดบัญชีกับทางธนาคาร เพื่อนำบัญชีมาทำสัญญาในการแลกเปลี่ยนใหม่ จึงทำให้ไม่มีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น ต่อมา ได้มีความสนใจในการลงทุน ICO Tenx ของนายประสิทธิ์ จึงได้มีการติดต่อเพื่อทำการซื้อขาย ICO ในราคาพิเศษ โดยในการลงทุนต้องใช้สกุลเงินอีธีเลียม (ETH) เพื่อแลกเปลี่ยนกับเหรียญ ICO ที่จะมีการออกเป็นเหรียญสกุลใหม่เป็นจำนวนมาก จึงติดต่อขอซื้อเหรียญ ETH จากนายเออาร์นี ที่มีเหรียญดังกล่าวจำนวนมาก จึงติดต่อขอซื้อเหรียญ ETH จำนวน 10,000 ETH แต่นายเออาร์นีไม่สามารถส่งเหรียญได้ทันตามที่กำหนดจึงไม่มีการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น
'ปริญญา' แจงเส้นทางเงิน
"ทำให้นายประสิทธิ์วางแผนที่จะออก ICO ด้วยตนเอง โดยให้ผมเป็นที่ปรึกษาและจัดทำวางแผนในการทำธุรกิจบล็อกเชนทั้งหมด โดยนายประสิทธิ์จะเป็นผู้หาผู้ลงทุนและจัดการด้านการลงทุนทั้งหมด มีการชักชวนนายเออาร์นีมาเป็นผู้ลงทุนเริ่มต้นในการทำงาน โดยมีนายชาคริส อาห์หมัด เป็นผู้ประสานและติดต่อทำสัญญากับทางนายเออาร์นีโดยตรง ซึ่งในส่วนการจ่ายเงินนายชาคริสแจ้งว่า ได้รับการแลกเปลี่ยนมาเป็นบิตคอยน์และต้องการทำการแลกเปลี่ยนเป็นเงินไทยอย่างเร็วที่สุด เนื่องจากขณะที่มีการแลกเปลี่ยนนั้น บิตคอยน์ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว จึงได้แนะนำนายธนสิทธิ์ ซึ่งเป็นน้องชายที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนและเทรดบิตคอยน์อยู่แล้ว เป็นผู้รับแลกเปลี่ยน"
"ภายหลังทราบว่า มีการใช้บัญชีภายในครอบครัวในการแลกเปลี่ยน เนื่องจากบัญชีมีการจำกัดวงเงินในแต่ละวัน อีกทั้งต้องมีการเทรดเพื่อรีบนำเงินไปชำระค่าใช้จ่ายในการจัดงานที่ประเทศฮ่องกง เป็นเงิน 100 ล้านบาท และจ่ายค่าจัดทำระบบบล็อกเชน โดยบริษัท World Wide Wealth 150 ล้านบาท ซึ่งนายประสิทธิอ้างว่า เป็นบริษัทที่ได้สัมปทานในการทำการตลาดและรับทำระบบให้กับทาง ICO Tenx โดยภายหลังทราบว่า เป็นบริษัทนายประสิทธิ์เอง และค่าทำการตลาดและเดินสายประชาสัมพันธ์รอบโลก 150 ล้านบาท รวมถึงชำระค่าทำสัญญาซื้อขายหุ้น DNA ให้กับเจ้าของบริษัทเป็นจำนวน 250 ล้านบาท โดยให้ข้าพเจ้าเปิดบัญชีและเซ็นเช็คไว้ให้กับนายณัฐนนท์ เศรษฐวรวิจิตร ลูกน้องนายประสิทธิ์"
นายปริญญา ยังอ้างอีกว่า นายประสิทธิ์ยังได้ชวนให้ลงทุนในหุ้น DNA ให้ชวนพรรคพวกเพื่อนฝูงมาลงทุนผ่านนายประสิทธิ์ โดยประสิทธิ์จะเป็นผู้การันตีกำไร 100% ภายในระยะ 1 ปี และส่วนกำไรที่เกินจาก 100% จะตกเป็นของผู้ค้ำประกันทั้งหมด
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,394 วันที่ 23-25 ส.ค. 2561 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● เปิดโปง “ขบวนการตุ๋นบิตคอยน์” (1/2)
● เปิดโปง “ขบวนการตุ๋นบิตคอยน์” (2/2)
