‘ซูซูกิจิมนี่’ราคาทะลุ1.5ล้าน-เคาะนำเข้าญี่ปุ่นภาษี80%เสริมทัพ‘เออร์ติก้า-เอสยูวีเล็ก’

22 ส.ค. 2561 | 10:40 น.
ค่าย “ซูซูกิ” เตรียมต่อยอดโปรดักต์ หลังทำ “สวิฟท์” “เซียส” จนติดตลาด ด้วยรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ ทั้ง“จิมนี่” ออฟโรดไซซ์มินิ นำเข้าจากญี่ปุ่นคาดราคาทะลุ 1.5 ล้านบาท และมีโอกาสประกอบเอสยูวีรุ่นเล็กในไทยเพิ่มเติม ส่วนเดือนกันยายน-ตุลาคมนี้ พร้อมเปิดตัวเอ็มพีวีจากอินโดนีเซีย “เออร์ติก้า โฉมใหม่”

key_img002 copy

ถือเป็นเจ้าพ่อเก๋งเล็กทั้งในญี่ปุ่นบ้านเกิดและเมืองไทย ที่ประสบความสำเร็จในแง่ของการสร้างแบรนด์ และยอดขายให้กับรถตระกูลอีโคคาร์ ทั้ง สวิฟท์ และเซียส เซเลริโอ และรุ่นนำเข้าจากอินโดนีเซียอย่างมินิเอ็มพีวี “เออร์ติก้า”  กับปิกอัพ “แคร์รี่” ที่ล้วนมีแนวทางในการทำตลาดของตนเองโดยปีที่แล้วปิดยอดขายรวม 25,000 คัน โต 9% เมื่อเทียบกับปี 2559

ส่วนปีนี้ได้ทีเด็ดจาก“สวิฟท์ โฉมใหม่” ส่งให้ยอดขายรวมทุกรุ่นครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 2.8% ด้วยจำนวน 13,832 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วทำได้ 10,754 คัน

090861-1927-9-335x503

โดย สวิฟท์ และ เซียส ยังเป็นพระเอกช่วยสร้างยอดขายให้ซูซูกิอย่างเป็นกอบเป็นกำ และช่วงปลายปีนี้ยังได้
“เออร์ติก้า โฉมใหม่” เอ็มพีวีที่ผลิตจากโรงงานประเทศอินโดนีเซียเข้ามาสร้างสีสัน หลังจากรุ่นปัจจุบันสต๊อกตาม
ดีลเลอร์เหลือน้อยเต็มที ด้วยการอัดโปรโมชัน ผ่อนดอกเบี้ย 0%นาน 12 เดือน หรือรับส่วนลด 2-4 หมื่นบาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1

สำหรับ “เออร์ติก้า โมเดลเชนจ์” จะพัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT  พร้อมขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ด้วยมิติยาว 4,395 มิลลิเมตร (เพิ่มขึ้น 70-130 มม.จากรุ่นปัจจุบัน) กว้าง 1,735 (เพิ่ม 40 มม.) สูง 1,690 มิลลิเมตร (เพิ่ม 5 มม.) แต่ระยะฐานล้อเท่าเดิมที่ 2,740 มิลลิเมตร รองรับเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง

ขณะที่เครื่องยนต์จะเปลี่ยนเป็นรหัส K15B ขยับขนาดจาก 1.4 ลิตร เป็น 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ในอินโดนีเซียมีให้เลือกทั้ง เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ อัตโนมัติ 4 สปีด ส่วนการเปิดตัวในไทยจะมีขึ้นในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้

MP32-3394-AA

ทั้งนี้ เอ็มพีวี“เออร์ติก้า โมเดลเชนจ์”ถือเป็นการขยับปรับเปลี่ยนตามอายุโมเดล ทว่า ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ยังมีความพยายามเสริมทัพโปรดักต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น หวังขยายฐานลูกค้าและสามารถต่อยอดการขายจากลูกค้ากลุ่มเดิมได้ ซึ่งทิศทางตลาดตอนนี้ขยับไปหารถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์

ตลาดเอสยูวีหรือครอสโอเวอร์(ไม่นับรวมพีพีวี) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยครึ่งปีแรก(ม.ค.-มิ.ย.61)ขายไป 38,771 คัน ครองสัดส่วนการขาย 16% ในกลุ่มรถยนต์นั่งและคิดเป็น8% ของตลาดรวม ซึ่งกลุ่มที่กำลังมาแรงคือ บีเอสยูวี ที่มีราคาตั้งแต่ 7 แสน-1.2 ล้านบาท อันดับ1 และ 2 เป็นการเบียดกันระหว่าง “เอ็มจี แซดเอส” กับ
“โตโยต้า ซี-เอชอาร์”

สำหรับซูซูกิยังไม่มีโปรดักต์ในกลุ่มนี้ออกมาท้าชนเต็มๆ แต่รายงานข่าวล่าสุด ซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย แจ้งในการประชุมกับดีลเลอร์ทั่วประเทศว่า ปีหน้าจะมีเอสยูวีรุ่นใหม่ “จิมนี่” (Jimny) เข้ามาทำตลาดในเมืองไทย

สำหรับ“จิมนี่”เป็นเอสยูวีขนาดเล็ก ที่รูปลักษณ์และบุคลิกการขับขี่จะออกไปในแนวออฟโรด ทำตลาดครั้งแรกตั้งแต่ปี 2513 ปัจจุบันเดินทางมาถึงเจเนอเรชันที่ 4 และเปิดตัวในญี่ปุ่นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา (เป็นรถที่มีช่วงอายุทำตลาดใน 1 โมเดลนาน)

โดยโครงสร้างเป็นแบบบอดี้ออนเฟรม เครื่องยนต์วางหน้าขับเคลื่อนล้อหลังมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพาร์ตไทม์ (เหมือนปิกอัพ) ในญี่ปุ่นแบ่งการทำตลาดเป็น 2 เวอร์ชัน คือรุ่นปกติ เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 0.6 ลิตร (658 ซีซี) และรุ่นเซียร์ร่า ตกแต่งให้ดูบึกบึนมากขึ้น พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร (1460
ซีซี) ซึ่งทั้ง 2 เวอร์ชันมาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ  มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติ 4
สปีด ราคาขายในญี่ปุ่นเมื่อตีเป็นเงินไทยประมาณ 4-6 แสนบาท

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

อย่างไรก็ตาม หลังจากซูซูกิ มอเตอร์ ประเทศไทย ยืนยันทำตลาดจิมนี่ในเมืองไทย จึงเกิดหลายกระแสตามมาเช่น รถรุ่นนี้มีแผนประกอบที่โรงงานประเทศอินโดนีเซีย  เตรียมนำเข้ามาขายในเมืองไทยภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน ไม่เสียภาษีนำเข้าระหว่างกันราคาขายก็จะสวยๆอยู่ที่ 7-8 แสนบาท

แต่การตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุด มีความเป็นไปได้ว่า จิมนี่ ที่เตรียมเปิดตัวเมืองไทยปีหน้าจะเป็น เวอร์ชัน “เซียร์ร่า” แต่ถูกนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น เสียภาษีนำเข้า 80% และโดนภาษีสรรพสามิตตามการปล่อยไอเสีย หรือไม่ได้รับสิทธิทางภาษีเป็นพิเศษ ดังนั้นราคาขายน่าจะทะลุ 1.5 ล้านบาท

เมื่อการทำตลาด จิมนี่ ด้วยโมเดลธุรกิจนี้ ซูซูกิคงไม่ได้หวังยอดขายมากมาย แต่เน้นทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ และตอบสนองลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ส่วนเอสยูวีขนาดเล็กที่หวังยอดขายจริงจังอาจจะต้องรออีก 2 ปีเป็นอย่างน้อย และมีโอกาสได้เห็นการขึ้นไลน์ประกอบในเมืองไทยภายใต้โครงการอีโคคาร์ เพื่อรับสิทธิพิเศษทางด้านภาษีและควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการนำเข้ามาจากญี่ปุ่นหรืออินโดนีเซีย

....คงต้องรอการขยับเสริมทัพจาก ซูซูกิในกลุ่มรถอเนกประสงค์ แต่ยืนยันได้ว่าจะมีเอสยูวีขนาดเล็กทำตลาดแน่นอน เพื่อเสถียรภาพทางธุรกิจและเป็นไปตามทิศทางของตลาด ส่วน “จิมนี่” มินิออฟโรด เตรียมเปิดตัวปีหน้าด้วยราคาทะลุล้านคงเป็นรถเพื่อตลาดเฉพาะกลุ่มไปก่อน

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,394 วันที่ 23 - 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561

e-book-1-503x62-7