จัดทัพ200นักธุรกิจไทย ลุยแมตชิ่ง50ทุนมังกร
เอกชนชี้ไทยศักยภาพสูง จีนปักฐานลงทุนในอีอีซีในอุตสาหกรรมไฮเทค ใช้เป็นฐานใหม่ส่งออกไปสหรัฐฯ พาณิชย์เตรียมจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจไทย-จีนกว่า 50 ราย ขยายการค้า-ลงทุน
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน ครั้งที่ 6 (JCเศรษฐกิจ)ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ว่า เป็นเรื่องที่ดี มองได้ 2 ด้าน คือ ด้านการค้าไทย-จีนที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน
[caption id="attachment_307585" align="aligncenter" width="246"]
วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา[/caption]
ซึ่งปัจจุบันมูลค่าที่ไทยส่งออกไปจีนยังตํ่ากว่าที่จีนส่งสินค้ามาไทย ดังนั้นตลาดจีนน่าจะยังขยายตัวได้อีกมาก ส่วนในด้านการลงทุน จีนได้ไปลงทุนในต่างประเทศจำนวนมากและไทยเป็นประเทศหนึ่งที่จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญให้กับจีนและใช้จุดเด่นด้านโลจิสติกส์ในการส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้ ประกอบกับขณะนี้จีนทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ หากจีนจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วส่งออกไปสหรัฐฯก็จะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ไทยได้รับจากสหรัฐฯด้วย
“อุตสาหกรรมที่จีนจะเข้ามาลงทุนในไทยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ไอทีหรือมีเทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนข้อกังวลว่าสินค้าจีนจะทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้นนั้น คิดว่าคงไม่ได้มาที่ไทยประเทศเดียว น่าจะมาทั้งอาเซียนซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าภาครัฐเองมีมาตรการในการกำกับดูแลอยู่แล้ว”
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์จะหารือกับนักลงทุนจีนในเรื่องการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค โลจิสติกส์ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและรองรับการผลิตในอนาคต รวมไปถึงเกิดการจ้างงานสร้างรายได้ ทั้งนี้ในอนาคตจีนจะเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยในอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต
ขณะที่นางจันทิรายิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุม JC ไทย-จีนครั้งที่ 6 ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ในส่วนของกรมจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทย-จีน เพื่อเจรจาการค้า-การลงทุน โดยจะมีนักธุรกิจจีนเข้าร่วมประมาณ 50 ราย และนักธุรกิจไทยราว 200 ราย ซึ่งจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้ของตกแต่งภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และสตาร์ตอัพ เป็นต้น
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,394 วันที่ 23-25 สิงหาคม 2561
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้า การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจีน ครั้งที่ 6 (JCเศรษฐกิจ)ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ว่า เป็นเรื่องที่ดี มองได้ 2 ด้าน คือ ด้านการค้าไทย-จีนที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน
[caption id="attachment_307585" align="aligncenter" width="246"]
ซึ่งปัจจุบันมูลค่าที่ไทยส่งออกไปจีนยังตํ่ากว่าที่จีนส่งสินค้ามาไทย ดังนั้นตลาดจีนน่าจะยังขยายตัวได้อีกมาก ส่วนในด้านการลงทุน จีนได้ไปลงทุนในต่างประเทศจำนวนมากและไทยเป็นประเทศหนึ่งที่จะเป็นฐานการผลิตที่สำคัญให้กับจีนและใช้จุดเด่นด้านโลจิสติกส์ในการส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้ ประกอบกับขณะนี้จีนทำสงครามการค้ากับสหรัฐฯ หากจีนจะใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วส่งออกไปสหรัฐฯก็จะได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ที่ไทยได้รับจากสหรัฐฯด้วย
“อุตสาหกรรมที่จีนจะเข้ามาลงทุนในไทยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้ไอทีหรือมีเทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนข้อกังวลว่าสินค้าจีนจะทะลักเข้ามาในไทยมากขึ้นนั้น คิดว่าคงไม่ได้มาที่ไทยประเทศเดียว น่าจะมาทั้งอาเซียนซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เชื่อว่าภาครัฐเองมีมาตรการในการกำกับดูแลอยู่แล้ว”
ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์จะหารือกับนักลงทุนจีนในเรื่องการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทค โลจิสติกส์ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและรองรับการผลิตในอนาคต รวมไปถึงเกิดการจ้างงานสร้างรายได้ ทั้งนี้ในอนาคตจีนจะเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ของไทยในอุตสาหกรรมเพื่ออนาคต
ขณะที่นางจันทิรายิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุม JC ไทย-จีนครั้งที่ 6 ในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ในส่วนของกรมจะมีการจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทย-จีน เพื่อเจรจาการค้า-การลงทุน โดยจะมีนักธุรกิจจีนเข้าร่วมประมาณ 50 ราย และนักธุรกิจไทยราว 200 ราย ซึ่งจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้ของตกแต่งภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และสตาร์ตอัพ เป็นต้น
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,394 วันที่ 23-25 สิงหาคม 2561
