ทางออกนอกตำรา : "เจ้าสัวอนันต์ อัศวโภคิน" อัสดง เครดิตเงินกู้เกือบจังก์บอนด์
ปี 2540-2541 ที่ไทยเจอวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง "เสี่ยตึ๋ง" อนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของตัวจริงเสียงจริง บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ก็โดนหนัก แต่รอบนั้นเป็น การเพิ่มขึ้นของปริมาณหนี้เงินกู้ และธนาคารเจ้าหนี้เรียกวงเงินเครดิตที่เปิดไว้คืนกลับ เช่นเดียวกับนักธุรกิจ นักลงทุนคนอื่นๆ
อัตราดอกเบี้ยที่กู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้จ่ายในการขยายอาณาจักรธุรกิจของเสี่ยตึ๋ง อนันต์ อัศวโภคิน ก็เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกับคนอื่น
เรื่องแบบนี้ ไม่มีใครคาดคิด และไม่เคยมีใครจะคิดว่า อนันต์ อัศวโภคิน ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้ถือครองหุ้นมูลค่ารวม 28,320 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 2,719 ล้านบาท หรือ 10.62% ประกอบด้วย บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) 23.93% มูลค่า 28,305 ล้านบาท และ บมจ.แมนดาริน โฮเต็ล (MANRIN) 1.36% มูลค่า 14.29 ล้านบาท จะถูกธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อใช้ในการซื้อหุ้นจากกลุ่มทุนสิงคโปร์ 1.4 หมื่นล้านบาท จากที่ตกลงกันไว้เดิม 3.25-3.50% ขึ้นมาเป็น 5-6%
[caption id="attachment_307132" align="aligncenter" width="503"]
ดอกเบี้ยขนาดนั้น เทียบเท่ากับการออกตั๋วบี/อี ของบริษัททั่วไปเลยสิบอกให้..
ไม่มีใครคิดว่าเศรษฐี อนันต์ อัศวโภคิน (แลนด์แอนด์ เฮ้าส์) ผู้ที่ฟอร์บส์จัดอันดับว่าถือครองสินทรัพย์อันดับ 27 อยู่ประมาณ 1,450 ล้านดอลลาร์ ตํ่ากว่า เจ้าสัวชาตรี โสภณพนิช (ธนาคารกรุงเทพ) ที่ถือครองทรัพย์สิน 1,470 ล้านดอลลาร์
และเป็นเศรษฐีที่รวยกว่า สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ จากค่ายไทยซัมมิทกรุ๊ป ที่มีทรัพย์สิน 1,300 ล้านดอลลาร์ มีความรํ่ารวยที่มากกว่า บัณฑูร ลํ่าซำ จากค่ายธนาคารกสิกรไทยที่ถือครองทรัพย์แค่ 1,200 ล้านดอลลาร์ และรวยกว่า พรเทพ พรประภา จากค่ายสยามกลการ ที่มีทรัพย์แค่ 1,150 ล้านดอลลาร์
ขอบันทึกไว้ในบรรทัดนี้ว่า นี่คือประวัติศาสตร์หน้าแรกของการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยวงเงินกู้พิเศษที่สถาบันการเงินล้วนจัดให้กับบรรดาเศรษฐีในเมืองไทยแบบ “VIP”
ผมมีโอกาสสอบถามนายธนาคารหลายคน ทั้งรุ่นเก่า รุ่นใหม่ว่าเป็นไปได้อย่างไรที่คนระดับเสี่ยตึ๋ง-อนันต์จะถูกโขกดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารเปิดวงเงินให้สำหรับใช้ในกรณีที่ต้องการขยายธุรกิจมากกว่าเดิมแทบจะ 100%
คำตอบของนายธนาคารทุกคนเหมือน Copy กันมาเป๊ะว่า
“ไม่รู้โว้ย...การขยับดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้าวีไอพีระดับนี้ปกติขึ้นแค่ 1% ก็ลำบากแล้ว ถ้าลูกค้าไม่หนีไปใช้ธนาคารอื่น ก็บอกได้คำเดียวว่าความสัมพันธ์ในทางธุรกิจบิดเบี้ยวจนยากประสาน”
เขาบอกกันเช่นนั้นจริงๆ ครับ...
เพียงแต่ว่าจะคิดดอกเบี้ยเช่นนี้กับ เสี่ยตึ๋ง-อนันต์ อัศวโภคิน คนเดียว หรือจะขึ้นดอกเบี้ยกับ พิชญ์ โพธารามิก แห่ง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ที่ถือหุ้นมูลค่ารวม 44,082 ล้านบาท
คิดดอกเบี้ยกับ สมโภชน์ อาหุนัย เจ้าของ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ (EA) กิจการธุรกิจพลังงาน จำหน่ายนํ้ามันไบโอดีเซล และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ผู้มีหุ้นที่ถือครองรวม 33,269 ล้านบาท
และธนาคารจะคิดดอกเบี้ยที่จัดไว้ให้พิเศษสำหรับ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.พฤกษา เรียลเอส เตท (PSH) ผู้มีมูลค่าหุ้นที่ถือครองรวม 31,037 ล้านบาทด้วยหรือไม่
ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรในปรากฏการณ์ “ดีลซื้อหุ้นคืนประวัติศาสตร์” ที่ลากทั้งหุ้น และลากทั้งคน ขึ้นลงในครั้งนี้ แต่ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับข่าวสารด้านเศรษฐกิจของประเทศมายาวนาน ขอบอกว่า “เครดิตการกู้ยืมเงินของคุณอนันต์ อัศวโภคิน” ไม่เหลืออะไรในสายตาของธนาคารผู้ให้กู้ และนี่ไม่ใช่เป็นการดาวน์เครดิต แต่เป็นการลดเครดิตลงมา
ถ้ามูดี้ส์ และเอสแอนด์พี คือสถาบันจัดอันดับเครดิตประเทศทั่วโลก ออกมามีมุมมองต่อประเทศใดประเทศหนึ่งแล้วทำให้ต้นทุนทางการเงินของประเทศนั้นสูงขึ้นหรือลดลง
ผมขอบอกว่า กรณีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแบบมหาโหดต่อ “เศรษฐีหุ้น” อนันต์ อัศวโภคิน ในรอบนี้ แทบไม่ต่างกันครับ...เป็นการบอกเป็นนัยว่า เสี่ยอนันต์ถูกลดอันดับเครดิตเป็นเกือบจังค์บอนด์ โดยธนาคารรายใหญ่ไปแล้ว...
แต่ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่คุณอนันต์แจ้งว่า เป็นผลมาจากธนาคารไทยพาณิชย์ขอยกเลิกวงเงินสินเชื่อระยะยาว และปรับขึ้นดอกเบี้ย แต่นายอนันต์ไม่ยอมรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและข้อตกลงการให้สินเชื่อในสาระสำคัญนะครับ
เรื่องอื่น ผมไม่เอามาเกี่ยวข้องนะครับ
|คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา
|โดย : บากบั่น บุญเลิศ
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 6 ฉบับ 3393 ระหว่างวันที่ 19-22 ส.ค.2561
