ผวาผู้มีอิทธิพลอุ้ม! "ปริญญา" ยังไม่ขอเปิดตัว อ้างพร้อมให้ข้อมูลบิตคอยน์
[caption id="attachment_307075" align="aligncenter" width="503"]
ปริญญา จารวิจิต[/caption]
"ปริญญา" ผวาถูกผู้มีอิทธิพลอุ้ม! เผยพร้อมที่จะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยันครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีแค่น้องชายคนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้(18ส.ค.) นายปริญญา จารวิจิต 1 ในผู้ที่ถูกหมายจับจากกองปราบปรามในคดีร่วมกันโกงบิตคอยน์ มูลค่าเสียหายราว 797 ล้านบาท โดยมีนายเออาร์นี โมโตวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ เป็นผู้เสียหาย ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง โดยไม่ขอเปิดเผยสถานที่
นายปริญญา กล่าวว่า ตนก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่เสียหาย ไม่ใช่ตัวการหลัก และอยู่ระหว่างการร่างคำให้การที่จะระบุถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักผู้เสียหาย การรู้จักนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ การที่นายประสิทธิ์ และ ผู้เสียหายทำธุรกิจร่วม ตั้งแต่การร่วมจัดตั้งบริษัท การโอนและแลกเหรียญบิตคอยน์ การติดต่อเข้ามาขอแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ของนายเออาร์นี รวมถึงนายประสิทธิ์ ที่เข้ามาขอส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น ตลอดจนการลงทุนในหุ้นบริษัทดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) ก็มีนายประสิทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
“ผมมีหลักฐานเอกสารทุกอย่าง ที่พร้อมจะให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายปริญญากล่าว
นายปริญญากล่าวว่า “ครอบครัวของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีแค่น้องชาย(นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต)ที่รับจ้างเทราดเงินจากบีเอ็ก อาบิทาธและ ขุดเหรียญ มีการใช้บัญชีคนในครอบครัวในการรับโอนเงินอยู่แล้ว ส่วนคุณพ่อทำธุรกรรมลงทุนรับขายฝาก ก็จะมีเงินโอนเข้าออกจำนวนมากอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำตอนที่รู้จักกับนายอาร์นี่ แต่ทำมานาน สามารถตรวจสอบได้ว่า คุณพ่อจะมีการแบ่งเป็นเงินสด เงินฝาก เงินลงทุน รับขายฝาก กระจายให้ลูกๆทำ บัญชีเราสามารถชี้แจงได้ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน จะกลับไปต่อสู้คดีโดยเร็ว”
"ปริญญา" ผวาถูกผู้มีอิทธิพลอุ้ม! เผยพร้อมที่จะเข้าให้ปากคำกับตำรวจ ยันครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีแค่น้องชายคนเดียว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้(18ส.ค.) นายปริญญา จารวิจิต 1 ในผู้ที่ถูกหมายจับจากกองปราบปรามในคดีร่วมกันโกงบิตคอยน์ มูลค่าเสียหายราว 797 ล้านบาท โดยมีนายเออาร์นี โมโตวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ เป็นผู้เสียหาย ได้ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง โดยไม่ขอเปิดเผยสถานที่
โดยนายปริญญา ระบุว่า พร้อมที่จะเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับให้มารับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันโกงบิตคอยน์และพร้อมจะกลับมาสู้คดีในทุกข้อกล่าวหา เพียงแต่ขณะนี้ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะคดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล
“ตำรวจแจ้งข้อหาผม ฉ้อโกง ซ่องโจร อั้งยี่ และฟอกเงิน แจ้งอายัดทรัพย์สินโดยไม่มีหมายเรียกใครในครอบครัวผมเลย แต่เรียกลูกค้าไปสอบ ผมพร้อมจะเข้ามาชี้แจงข้อมูล แต่ผมก็กลัวว่าจะไม่ได้ชี้แจง” 
นายปริญญากล่าว
นายปริญญา กล่าวว่า ตนก็เป็นหนึ่งในเหยื่อที่เสียหาย ไม่ใช่ตัวการหลัก และอยู่ระหว่างการร่างคำให้การที่จะระบุถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นรู้จักผู้เสียหาย การรู้จักนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ การที่นายประสิทธิ์ และ ผู้เสียหายทำธุรกิจร่วม ตั้งแต่การร่วมจัดตั้งบริษัท การโอนและแลกเหรียญบิตคอยน์ การติดต่อเข้ามาขอแลกเปลี่ยนบิตคอยน์ของนายเออาร์นี รวมถึงนายประสิทธิ์ ที่เข้ามาขอส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น ตลอดจนการลงทุนในหุ้นบริษัทดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) ก็มีนายประสิทธิ์ เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
นายปริญญากล่าวว่า “ครอบครัวของผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีแค่น้องชาย(นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต)ที่รับจ้างเทราดเงินจากบีเอ็ก อาบิทาธและ ขุดเหรียญ มีการใช้บัญชีคนในครอบครัวในการรับโอนเงินอยู่แล้ว ส่วนคุณพ่อทำธุรกรรมลงทุนรับขายฝาก ก็จะมีเงินโอนเข้าออกจำนวนมากอยู่แล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำตอนที่รู้จักกับนายอาร์นี่ แต่ทำมานาน สามารถตรวจสอบได้ว่า คุณพ่อจะมีการแบ่งเป็นเงินสด เงินฝาก เงินลงทุน รับขายฝาก กระจายให้ลูกๆทำ บัญชีเราสามารถชี้แจงได้ กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน จะกลับไปต่อสู้คดีโดยเร็ว”
