DDD กำเงินรอรุกจีน! เติบโตต่อเนื่อง 3-5 ปี

09 เม.ย. 2561 | 10:17 น.
นายปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงแผนของบริษัทในปีนี้ ว่า บริษัทจะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านร้านค้าจาก 1,300 ร้านค้า เพิ่มเป็น 5,000-10,000 ร้านค้า จากเดิมที่ใช้ตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น ก็จะเปลี่ยนมาใช้ บริษัท ซิโนแปซิฟิกฯ ในการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทจากการขยายผ่านร้านค้าคิดเป็น 30% ของยอดขายรวม

ช่องทางการขายผ่านโมเดิร์นเทรดผ่านร้านวัตสัน 300 สาขา และบู๊ทส์ 200 สาขา รวมถึงท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต , บิ๊กซี , โลตัส คิดเป็น 30% ของยอดขายรวมในไตรมาส 4/2561 บริษัทได้เริ่มจำหน่ายผ่านร้านคิงเพาเวอร์ 2 สาขา ก็ประสบความสำเร็จอย่างดี ยอดขายผ่านร้านคิงเพาเวอร์คิดเป็น 6% ของยอดขายรวม คาดว่าในปีนี้จะวางเพิ่มเป็น 6-7 สาขา จะคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขาย

ในปีที่ผ่านมา บริษัทเริ่มวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบบซองในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 10,000 สาขา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เนื่องจากราคาสินค้าสอดรับกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทจะมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อระดับปานกลางถึงสูงในร้านวัตสันและบู๊ทส์ การเพิ่มผลิตภัณฑ์แบบซองวางในร้านเซเว่นฯ ทำให้ได้กลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มขึ้นมา

"ภายใน 3-5 ปีนี้ บริษัทยังมีอัตราการเติบโตที่สูง ทั้งจากช่องทางการขายที่จะเพิ่มขึ้นจาก 1,300 ร้านค้าแบบดั้งเดิม เป็น 5,000-10,000 ร้านค้าในปีนี้ และยอดขายผ่านร้านคิงเพาเวอร์จากปีที่แล้ว ที่เริ่มในไตรมาส 4/2561 จำนวน 2 สาขา ปีนี้จะเพิ่มเป็น 6-7 สาขา รวมถึงโอกาสในการขยายตลาดในประเทศจีนที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก" นายปิยวัชร กล่าว

 

[caption id="attachment_306778" align="aligncenter" width="313"] ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ปิยวัชร ราชพลสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD[/caption]

ปัจจุบัน ยอดส่งออกไปตลาดต่างประเทศ อาทิ จีน เมียนมา ลาว กัมพูชา คิดเป็นสัดส่วน 30% ของยอดขายรวม สำหรับตลาดในประเทศจีน ปัจจุบัน บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายที่ช่วยทำการตลาดในจีน แต่การจะขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังร้านค้าและค้าส่งจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานอาหารและยา หรือ เครื่องหมาย อย. จากจีน ซึ่งต้องใช้เวลานาน 1-2 ปี ปัจจุบัน บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ อย. แล้ว 3 รายการ และอยู่ในคิวอีกหลายรายการ ถ้ามีจำนวนมากพอ ก็มีความพร้อมที่จะขยายช่องทางการจำหน่ายในจีนเพิ่มเติม

"ตอนนี้ ร้านวัตสันในไทยมี 300 สาขา แต่วัตสันในจีนมี 3,000 สาขา ถ้าเรามีความพร้อมนำสินค้าเข้าไปขายก็จะเป็นโอกาสที่ดีในอนาคต"

บริษัทยังมองหาตลาดใหม่ในเอเชียไว้อีก 2 ประเทศ ที่จะเข้าไปสร้างแบรนด์สเนลไวท์ให้เป็นที่รู้จัก รวมถึงในอนาคต บริษัทก็มีแผนเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ นอกจากสเนลไวท์ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าให้ครบถ้วน ภายใต้เครื่องหมายการค้านามุไลฟ์

"ปีนี้จะออกสินค้าใหม่ 8 รายการ โดย 4 รายการ จะเป็นสินค้าที่มีอยู่แล้ว โดยออกมาในรูปแบบซอง และอีก 4 รายการ เป็นสินค้าใหม่ในแบรนด์สเนลไวท์"

สำหรับเงินที่ระดมทุนมา 3,900 ล้านบาท ยังเพียงพอเป็นเงินทุนหมุนเวียน ตามแผนของบริษัทที่จะใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท ขยายโรงงาน เริ่มในปี 2562 นั้น ปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานที่มีกำลังการผลิต 1.9 ล้านลิตร แต่ใช้กำลังการผลิตจริง 55% ซึ่งกำลังการผลิตจะเพียงพอรองรับได้ไปอีก 2-3 ปี (คาดว่าปีนี้จะใช้กำลังการผลิต 70-75% ปีหน้าจะใกล้ ๆ 100%) ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนสร้างโรงงานใหม่ ที่จะเสร็จในปี 2563 มีกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1.9 ล้านลิตร กำลังการผลิตรวมแล้วเกือบ 4 ล้านลิตร รองรับยอดขายได้ถึงระดับ 5,000 ล้านบาทต่อปี


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,355 วันที่ 8-11 เม.ย. 2561 หน้า 17-18

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
DDD เผยแผนครึ่งปีหลัง! เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งซิกรายได้การขายจากต่างประเทศมีสัญญาณดีขึ้น
มารยาตลาดหุ้น : SNAIL WHITE  กับหอยทากที่ไม่มีทางขาว  DDD ตื่นจากฝันกลางวันแสกๆ


e-book-1-503x62