สุดคึก! E-Commerce BIGBANG @เชียงราย เจาะตลาดออนไลน์และจีน “ต้องเรียนรู้และทำเร็ว”
- 15 ส.ค. 61 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนา "E-Commerce BIGBANG" มินิสัญจร @เชียงราย ห้องแกรนด์ วิสต้า บอลรูม โรงแรมแกรนด์วิสต้า เชียงราย จ.เชียงราย จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ในวันนี้นั้น ประชาชนเข้าร่วมรับฟังการสัมมนาเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล บรรยายพิเศษเรื่อง “ไทยเทรดเเพลทฟอร์มพลิกเอสเอ็มอีบินไกลสู่ตลาดโลก” ว่า คนในจังหวัดภาคเหนือมีความคิดสร้างสรรค์และมีสินค้าที่สามารถผลิตได้ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งมีแพตลฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมได้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มไทยเทรด์ดอดคอม เพราะจากการสังเกตพบว่าสินค้าของภาคเหนือมีหลายตัวที่เป็นสินค้าที่คนต่างชาติสนใจ
นางอารดา กล่าวว่า ดังนั้นผู้ประกอบการในภาคเหนือควรคว้าโอกาสนี้ไว้ แต่จะทำอย่างไร ทำช่วงไหนนั้น สิ่งแรกคือ ต้องคิดให้แตกต่างกับคู่แข่ง แล้วจะช่วยให้สามารถยืนอยู่บนการค้าออนไลน์ได้ ยกตัวอย่าง ชายคนหนึ่งอยู่คอนโดมิเนียมชั้น 31 ทุกวัน เขาจะกดลิฟท์ลงมาชั้น 1 แต่ช่วงเย็นจะกดลิฟท์ที่ชั้น 25 ทุกวัน นั้นเป็นเพราะเป็นคนแคระ ดังนั้นหากเราสังเกตพฤติกรรมของคน มองเห็นความแตกต่างของสินค้า และนำมาต่อยอดในธุรกิจได้ จะช่วยให้เราสามารรถมีช่องทางในการขายได้และมีโอกาสในการค้ามากขึ้น
“ภาพรวมของอีคอมเมิร์ซหรือเรียกว่าระบบนิเวศ จะประกอบไปด้วย มีของขาย ขายใคร ขายผ่านอะไร ช่องทางไหนที่อยู่บนโลกดิจิทัล ดังนั้นไทยเทรดดอดคอมซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พร้อมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำการค้าขายได้ฟรี และยังมีบริการอีกหลากหลายให้กับผู้ปะกอบการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากสถานบันการเงิน การข้าร่วมงานแฟร์ต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์จัด หรือการจับธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งในโลกออนไลน์ การซื้อกับขายพบกันง่ายมากแต่แต่พบกันแล้วต้องการทำธุรกิจต่อหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นความเชื่อมั่นในธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งด้วยในการทำธุรกิจบนโลกออกไลน์” นางอารดา กล่าว
ต่อมาช่วงเสวนา “เอสเอ็มอีโกออนไลน์เปิดโอกาสคนตัวเล็กสู่ตลาดจีน” นั้น นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า บทบาทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคือการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ ส่วนการสร้างความเข้มแข้งภายนอกประเทศจะมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดู โดยในตลาดจีน กระทรวงพาณิชย์มีสำนักงานทูตพาณิชย์ถึง 8 แห่งในจีนที่คอยให้บริการผู้ประการและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน
นางลลิดา กล่าวว่า ทั้งนี้คงทำหน่วยงานเดียวไม่ได้ ดังนั้นการทำงานร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานต่างๆจะช่วยการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะการค้าออนไลน์ความน่าเชื่อถือ นับว่าเป็นปัญหาอันดับต้นที่ผู้ซื้อถามหา ดังนั้นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากอีมาร์เกตเพลส ไทยเทรดดอดคอมรวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ไปจับมือเพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดการค้าออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน
นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการ การค้ายุคใหม่ (เอ็นอีเอ) กล่าวว่า ขณะที่เอสเอ็มอีประเทศไทย ขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีกว่า 3 ล้านราย เรื่องของความรู้ในตลาดยุคใหม่เกี่ยวกับตลาดอี คอมเมิร์ซจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และเติบโตได้อย่างยั่งยืน สถาบันเอ็นอีเอจึงได้จัดหลักสูตรใหใความรู้แบบครบเครื่อง ทั้งความรู้ในการทำตลาดออนไลน์ทั่วไป รวมไปถึงการทำตลาด การทำออนไลน์เพลย์เม้นท์ การขนส่ง และการสร้างความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและตัวบริษัท
“ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ ได้จัดเสวนาใหญ่ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ ในการเจาะตลาดจีนตอนใต้ พร้อมจัดทำเวิร์คช็อปเล็กๆ สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ ซึ่งจะจัดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการบูรณาการร่วมมือกับเอกชน และภาครัฐ เพราะมันคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ประอบการไปสู่จุดหมายอย่างยั่งยืน”
นายบุญชู กมุทมาโนชญ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ปัจจุบันภาคเหนือตอนบนมีประชากร 2.5 ล้านคน มีเอสเอ็มอีเกือบ 3 แสนรายและยังมีเอสเอ็มอีนอกระบบอีกจำนวนมากที่เรากำลังรวบรวมเอามาเข้าระบบ
“หรือที่ จ.พะเยา เรามีเอสเอ็มอี 90,000 รายแต่จับต้องได้เพียง 30,000 ราย และที่เหลืออีกจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการค้าขายทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการในพื้นที่มากขึ้น เพราะทองเห็นถึงการเติบโต จึงเป็นเรื่องดีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาให้ข้อมูลข่าวสารในการทำการค้าทางออนไลน์” นายบุญชู กล่าว
นายพละวัต ตันศิริ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เดิมทีนั้น ถ้าพูดถึงการขายสินค้า ข้อแรกจะต้องมีสินค้า หรือการเป็นผู้ผลิตสินค้า เป็นเจ้าของกิจการ เป็นเจ้าของโรงงานผลิต มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้า แต่เมื่อตลาดออนไลน์เริ่มมีบทบาท ทุกวันนี้จะเป็นผู้ขายสินค้าหรือพ่อค้าแม่ค้านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ผลิตสินค้า เพียงแต่ต้องรู้ว่าจะไปหาสินค้าได้ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ที่ต้องคอยเลือกสินค้าให้กับลูกค้า ก็สามารถที่จะเป็นผู้ค้าได้ และเป็นการขายไปยังตลาดใหญ คือ ขายไปได้ทั่วโลกอีกด้วย
นายพละวัต กล่าวว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเลือกสินค้าและช่องทางให้ดี ทุกวันนี้มีท่าเรือที่เชียงแสน ที่สามารถไปถึงตลาดจีนได้ ผลไม้สดจากภาคเหนือโดยเฉพาะลำใยเป็นสินค้าที่น่าสนใจ สามารถขนขึ้นไปจีนตอนใต้ได้ด้วยเรือห้องเย็น ซึ่งใช้เวลาการขนส่งแค่ 2 วัน เฉพาะมณฑลยูนนานกับมณฑลเสฉวน 2 มณฑลนี้ ก็มีคนกว่า 100 ล้านคน ตลาดจึงมีขนาดใหญ่
"พูดแบบไม่โลกสวย การเริ่มต้นอาจจะต้องเจ็บตัวบ้าง เหนื่อยบ้าง ไม่เป็นไปอย่างที่คิดบ้าง เพราะไม่มีความสำเร็จไหนที่ได้มาง่ายๆ เจ็บตัวกันสักพัก แล้วเราจะได้เห็นเงิน พูดในฐานะที่ตัวผมเอง ก็เคยเจ็บตัวมาแล้ว"
นายพละวัต กล่าว และว่า ขั้นแรกลองเทรดแพลตฟอร์มในไทยก่อน ลองหลายๆแพลตฟอร์ม แล้วจะได้มีประสบการณ์ ตอนนี้มีไทยเทรดดอทคอมแล้ว น่าจะง่ายขึ้น ศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด แล้วไปลองทำจริงด้วยตัวเอง อี คอมเมิร์ซจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษา ว่าแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมีช่องทาง มีเงื่อนไข มีรายละเอียดอย่างไร ค่อยๆเริ่มจากแพลตฟอร์มเดียวก่อน เมื่อมีความรู้มากขึ้น จึงค่อยขยายไปอีกหลายๆ แพลตฟอร์ม
“สิ่งที่อยากเตือน คือ อี คอมเมิร์ซเร็วมาก ขายได้เงินเร็ว อย่าเพิ่งเอาเงินนั้น ไปทำอย่างอื่น อยากให้เอาไปใช้ในการพัฒนาสินค้าให้มีเข้มแข็ง เราต้องรีบออกไปลอง ก่อนที่จะถูกบีบให้ต้องทำ ลองก่อนรู้ก่อน มีประสบการณ์ก่อน การค้าขายในตลาดอี คอมเมิร์ซใครเร็วกว่าคนนั้นก็ได้” นายพละวัต กล่าว
นายกฤตภาส สุทธา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ขาวละออเภสัช จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย สมุนไพรขาวละออ กล่าวว่า ขาวละออเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอี คอมเมิร์ซจริงจังผ่านอีมาร์เก็ตเพลสลาซาด้า เมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากเห็นว่าช่องทางจำหน่ายของขาวละออมีน้อยมาก และไม่มีช่องทางขายออนไลน์ โดยเดือนแรก มียอดขายเพียง 5,000 บาท อย่างไรก็ตามในการทำธุรกิจออนไลน์นั้นต้องใช้เวลา โดยหัวใจสำคัญของอี คอมเมิร์ซ คือความน่าเชื่อถือ ซึ่งมองว่าการก้าวสู่ออนไลน์จะต้องไม่ทิ้งออฟไลน์โดยต้องมีช่องทางออฟไลน์ควบคู่กันไป เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส จับต้องสินค้าได้. ซึ่งขาวละลอเปิดช้อปอินช้อป ในร้านตำรับไทย ที่มีอยู่ 80 แห่ง ในท็อปซูเปอร์มาเก็ต โลตัส บิ๊กซี ทั่วประเทศ
“ถึงวันนี้แบรนด์ขาวละออ ประสบความสำเร็จบนช่องทางออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง หมวดสุขภาพ เว็บไซต์ลาซาด้า และได้รับการแต่งตั้งลาซาด้า และเถาเป่ายูนิเวอร์ซิตี้ ให้เป็นเทรนเนอร์ อบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาขายบนลาซาด้า
การทำยอดเติบโต หลักการตลาดพื้นฐาน โปรดักส์ดี วัตถุดิบสมุนไพรจริง เมื่อเกิดการทดลองใช้ ก็จะเกิดการบอกปากต่อปาก เดือนที่ 2 ยอดขายเราเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาท ทั้งนี้เราต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโปรดักส์บนแพลตฟอร์ม และต้องตลาดภายนอกควบคู่กันไป
กูเกิล เสิร์ช และเราคุยกับลาซาด้าว่า กลุ่มเป้าหมายของลาซาด้าคือใคร เพื่อให้เกิดความชัดเจนการทำตลาด โดยการทำให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง
สำหรับการเข้าสู่ตลาดจีน ต้องมีแบรนด์ก่อน ต้องจดลิขสิทธิ์ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการก๊อปปี้สินค้า ส่วนช่องทางการเข้าสู่จีนนั้นไทยเทรด เริ่มเชื่อมต่อกับอาลีบาบา อี คอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของจีน ขณะที่ต้นปีหน้าลาซาด้าเองก็เริ่มเขื่อมต่อกับเถาเปา ซึ่งขอแนะนำว่าหากต้องการเข้าสู่ตลาดจีนนั้นต้องเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ และจะต้องศึกษาก่อนว่าคนจีนสื่ออะไร และเจาะไปตามสื่อ โดยจ้างเอเจนซี่ ซื้อสื่อโฆษณา” นายกฤตภาส กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางอารดา เฟื่องทอง ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล บรรยายพิเศษเรื่อง “ไทยเทรดเเพลทฟอร์มพลิกเอสเอ็มอีบินไกลสู่ตลาดโลก” ว่า คนในจังหวัดภาคเหนือมีความคิดสร้างสรรค์และมีสินค้าที่สามารถผลิตได้ตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งมีแพตลฟอร์มที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่มีความพร้อมได้เข้ามาอยู่ในแพลตฟอร์มไทยเทรด์ดอดคอม เพราะจากการสังเกตพบว่าสินค้าของภาคเหนือมีหลายตัวที่เป็นสินค้าที่คนต่างชาติสนใจ
นางอารดา กล่าวว่า ดังนั้นผู้ประกอบการในภาคเหนือควรคว้าโอกาสนี้ไว้ แต่จะทำอย่างไร ทำช่วงไหนนั้น สิ่งแรกคือ ต้องคิดให้แตกต่างกับคู่แข่ง แล้วจะช่วยให้สามารถยืนอยู่บนการค้าออนไลน์ได้ ยกตัวอย่าง ชายคนหนึ่งอยู่คอนโดมิเนียมชั้น 31 ทุกวัน เขาจะกดลิฟท์ลงมาชั้น 1 แต่ช่วงเย็นจะกดลิฟท์ที่ชั้น 25 ทุกวัน นั้นเป็นเพราะเป็นคนแคระ ดังนั้นหากเราสังเกตพฤติกรรมของคน มองเห็นความแตกต่างของสินค้า และนำมาต่อยอดในธุรกิจได้ จะช่วยให้เราสามารรถมีช่องทางในการขายได้และมีโอกาสในการค้ามากขึ้น
“ภาพรวมของอีคอมเมิร์ซหรือเรียกว่าระบบนิเวศ จะประกอบไปด้วย มีของขาย ขายใคร ขายผ่านอะไร ช่องทางไหนที่อยู่บนโลกดิจิทัล ดังนั้นไทยเทรดดอดคอมซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่พร้อมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำการค้าขายได้ฟรี และยังมีบริการอีกหลากหลายให้กับผู้ปะกอบการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดจากสถานบันการเงิน การข้าร่วมงานแฟร์ต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์จัด หรือการจับธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งในโลกออนไลน์ การซื้อกับขายพบกันง่ายมากแต่แต่พบกันแล้วต้องการทำธุรกิจต่อหรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นความเชื่อมั่นในธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งด้วยในการทำธุรกิจบนโลกออกไลน์” นางอารดา กล่าว
ต่อมาช่วงเสวนา “เอสเอ็มอีโกออนไลน์เปิดโอกาสคนตัวเล็กสู่ตลาดจีน” นั้น นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า บทบาทของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าคือการสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการภายในประเทศ ส่วนการสร้างความเข้มแข้งภายนอกประเทศจะมีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศดู โดยในตลาดจีน กระทรวงพาณิชย์มีสำนักงานทูตพาณิชย์ถึง 8 แห่งในจีนที่คอยให้บริการผู้ประการและพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในด้านการแข่งขัน
นางลลิดา กล่าวว่า ทั้งนี้คงทำหน่วยงานเดียวไม่ได้ ดังนั้นการทำงานร่วมกับพันธมิตรหน่วยงานต่างๆจะช่วยการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะการค้าออนไลน์ความน่าเชื่อถือ นับว่าเป็นปัญหาอันดับต้นที่ผู้ซื้อถามหา ดังนั้นจะส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากอีมาร์เกตเพลส ไทยเทรดดอดคอมรวมถึงแพลตฟอร์มต่างๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ไปจับมือเพื่อพัฒนาให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันในตลาดการค้าออนไลน์ได้อย่างยั่งยืน
นายพรวิช ศิลาอ่อน ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการ การค้ายุคใหม่ (เอ็นอีเอ) กล่าวว่า ขณะที่เอสเอ็มอีประเทศไทย ขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีกว่า 3 ล้านราย เรื่องของความรู้ในตลาดยุคใหม่เกี่ยวกับตลาดอี คอมเมิร์ซจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และเติบโตได้อย่างยั่งยืน สถาบันเอ็นอีเอจึงได้จัดหลักสูตรใหใความรู้แบบครบเครื่อง ทั้งความรู้ในการทำตลาดออนไลน์ทั่วไป รวมไปถึงการทำตลาด การทำออนไลน์เพลย์เม้นท์ การขนส่ง และการสร้างความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและตัวบริษัท
“ล่าสุด เดือนกันยายนนี้ ได้จัดเสวนาใหญ่ร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ ในการเจาะตลาดจีนตอนใต้ พร้อมจัดทำเวิร์คช็อปเล็กๆ สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ ซึ่งจะจัดอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการบูรณาการร่วมมือกับเอกชน และภาครัฐ เพราะมันคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผู้ประอบการไปสู่จุดหมายอย่างยั่งยืน”
นายบุญชู กมุทมาโนชญ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า ปัจจุบันภาคเหนือตอนบนมีประชากร 2.5 ล้านคน มีเอสเอ็มอีเกือบ 3 แสนรายและยังมีเอสเอ็มอีนอกระบบอีกจำนวนมากที่เรากำลังรวบรวมเอามาเข้าระบบ
“หรือที่ จ.พะเยา เรามีเอสเอ็มอี 90,000 รายแต่จับต้องได้เพียง 30,000 ราย และที่เหลืออีกจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการค้าขายทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการในพื้นที่มากขึ้น เพราะทองเห็นถึงการเติบโต จึงเป็นเรื่องดีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาให้ข้อมูลข่าวสารในการทำการค้าทางออนไลน์” นายบุญชู กล่าว
นายพละวัต ตันศิริ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า เดิมทีนั้น ถ้าพูดถึงการขายสินค้า ข้อแรกจะต้องมีสินค้า หรือการเป็นผู้ผลิตสินค้า เป็นเจ้าของกิจการ เป็นเจ้าของโรงงานผลิต มีหน้าร้านจำหน่ายสินค้า แต่เมื่อตลาดออนไลน์เริ่มมีบทบาท ทุกวันนี้จะเป็นผู้ขายสินค้าหรือพ่อค้าแม่ค้านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ผลิตสินค้า เพียงแต่ต้องรู้ว่าจะไปหาสินค้าได้ที่ไหน และไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ที่ต้องคอยเลือกสินค้าให้กับลูกค้า ก็สามารถที่จะเป็นผู้ค้าได้ และเป็นการขายไปยังตลาดใหญ คือ ขายไปได้ทั่วโลกอีกด้วย
นายพละวัต กล่าวว่า การที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องเลือกสินค้าและช่องทางให้ดี ทุกวันนี้มีท่าเรือที่เชียงแสน ที่สามารถไปถึงตลาดจีนได้ ผลไม้สดจากภาคเหนือโดยเฉพาะลำใยเป็นสินค้าที่น่าสนใจ สามารถขนขึ้นไปจีนตอนใต้ได้ด้วยเรือห้องเย็น ซึ่งใช้เวลาการขนส่งแค่ 2 วัน เฉพาะมณฑลยูนนานกับมณฑลเสฉวน 2 มณฑลนี้ ก็มีคนกว่า 100 ล้านคน ตลาดจึงมีขนาดใหญ่
"พูดแบบไม่โลกสวย การเริ่มต้นอาจจะต้องเจ็บตัวบ้าง เหนื่อยบ้าง ไม่เป็นไปอย่างที่คิดบ้าง เพราะไม่มีความสำเร็จไหนที่ได้มาง่ายๆ เจ็บตัวกันสักพัก แล้วเราจะได้เห็นเงิน พูดในฐานะที่ตัวผมเอง ก็เคยเจ็บตัวมาแล้ว"
นายพละวัต กล่าว และว่า ขั้นแรกลองเทรดแพลตฟอร์มในไทยก่อน ลองหลายๆแพลตฟอร์ม แล้วจะได้มีประสบการณ์ ตอนนี้มีไทยเทรดดอทคอมแล้ว น่าจะง่ายขึ้น ศึกษาหาความรู้ให้มากที่สุด แล้วไปลองทำจริงด้วยตัวเอง อี คอมเมิร์ซจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษา ว่าแต่ละแพลตฟอร์มนั้นมีช่องทาง มีเงื่อนไข มีรายละเอียดอย่างไร ค่อยๆเริ่มจากแพลตฟอร์มเดียวก่อน เมื่อมีความรู้มากขึ้น จึงค่อยขยายไปอีกหลายๆ แพลตฟอร์ม
“สิ่งที่อยากเตือน คือ อี คอมเมิร์ซเร็วมาก ขายได้เงินเร็ว อย่าเพิ่งเอาเงินนั้น ไปทำอย่างอื่น อยากให้เอาไปใช้ในการพัฒนาสินค้าให้มีเข้มแข็ง เราต้องรีบออกไปลอง ก่อนที่จะถูกบีบให้ต้องทำ ลองก่อนรู้ก่อน มีประสบการณ์ก่อน การค้าขายในตลาดอี คอมเมิร์ซใครเร็วกว่าคนนั้นก็ได้” นายพละวัต กล่าว
นายกฤตภาส สุทธา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ขาวละออเภสัช จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย สมุนไพรขาวละออ กล่าวว่า ขาวละออเริ่มเข้าสู่ธุรกิจอี คอมเมิร์ซจริงจังผ่านอีมาร์เก็ตเพลสลาซาด้า เมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากเห็นว่าช่องทางจำหน่ายของขาวละออมีน้อยมาก และไม่มีช่องทางขายออนไลน์ โดยเดือนแรก มียอดขายเพียง 5,000 บาท อย่างไรก็ตามในการทำธุรกิจออนไลน์นั้นต้องใช้เวลา โดยหัวใจสำคัญของอี คอมเมิร์ซ คือความน่าเชื่อถือ ซึ่งมองว่าการก้าวสู่ออนไลน์จะต้องไม่ทิ้งออฟไลน์โดยต้องมีช่องทางออฟไลน์ควบคู่กันไป เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส จับต้องสินค้าได้. ซึ่งขาวละลอเปิดช้อปอินช้อป ในร้านตำรับไทย ที่มีอยู่ 80 แห่ง ในท็อปซูเปอร์มาเก็ต โลตัส บิ๊กซี ทั่วประเทศ
“ถึงวันนี้แบรนด์ขาวละออ ประสบความสำเร็จบนช่องทางออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยแบรนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่ง หมวดสุขภาพ เว็บไซต์ลาซาด้า และได้รับการแต่งตั้งลาซาด้า และเถาเป่ายูนิเวอร์ซิตี้ ให้เป็นเทรนเนอร์ อบรมให้ความรู้กับผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาขายบนลาซาด้า
การทำยอดเติบโต หลักการตลาดพื้นฐาน โปรดักส์ดี วัตถุดิบสมุนไพรจริง เมื่อเกิดการทดลองใช้ ก็จะเกิดการบอกปากต่อปาก เดือนที่ 2 ยอดขายเราเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 บาท ทั้งนี้เราต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นโปรดักส์บนแพลตฟอร์ม และต้องตลาดภายนอกควบคู่กันไป
กูเกิล เสิร์ช และเราคุยกับลาซาด้าว่า กลุ่มเป้าหมายของลาซาด้าคือใคร เพื่อให้เกิดความชัดเจนการทำตลาด โดยการทำให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง
สำหรับการเข้าสู่ตลาดจีน ต้องมีแบรนด์ก่อน ต้องจดลิขสิทธิ์ให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการก๊อปปี้สินค้า ส่วนช่องทางการเข้าสู่จีนนั้นไทยเทรด เริ่มเชื่อมต่อกับอาลีบาบา อี คอมเมิร์ซอันดับหนึ่งของจีน ขณะที่ต้นปีหน้าลาซาด้าเองก็เริ่มเขื่อมต่อกับเถาเปา ซึ่งขอแนะนำว่าหากต้องการเข้าสู่ตลาดจีนนั้นต้องเริ่มเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้ และจะต้องศึกษาก่อนว่าคนจีนสื่ออะไร และเจาะไปตามสื่อ โดยจ้างเอเจนซี่ ซื้อสื่อโฆษณา” นายกฤตภาส กล่าว