หุ้น-ค่าเงินเซ่นพิษ 'ตุรกี' !! ประสานเสียงตลาดเกิดใหม่ผันผวนยาว 1 เดือน

15 ส.ค. 2561 | 10:45 น.
 

150861-1706

แบงก์ชาติสั่งเกาะติดผลกระทบทางอ้อม "วิกฤติค่าเงินตุรกี" ลามประเทศเกิดใหม่ นักการเงินเชื่อกระทบไทยไม่มาก จับตาเงินบาทผันผวน ตลาดหุ้นร่วงยาว 1 เดือน เหตุเงินร้อนไหลเข้า หวั่นสถานการณ์ลุกลาม หากไม่รับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟ

ค่าเงินตุรกีที่อ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
 จากการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ กำลังทำให้ตลาดเงินและตลาดหุ้นทั่วโลก กังวลว่า อาจกลายเป็นวิกฤตการเงินที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา กดดันให้ดัชนีหุ้นทั่วโลกปรับลง รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย


1146442-System__Resources__Image-1375011

ขณะเดียวกัน ราคาทองคำหลุด 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาระดับต่ำสุดรอบ 15 เดือน ที่ 1,191 ดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าเงินยูโรร่วงหลุด 1.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ยูโร มาอยู่ที่ระดับ 1.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ยูโร และเงินบาทอ่อนค่าจาก 33.26 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ มาที่ 33.42 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ

นับจากต้นปีมาจนถึงขณะนี้ ค่าเงินลีราของตุรกี อ่อนตัวลงมาแล้ว 40% จากปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ แต่สถานการณ์ดังกล่าวถูกซ้ำเติมและค่าเงินลีราถูกทุบลง โดยวันเดียวดิ่งลงกว่า 14% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ส.ค. 2561) สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.24 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีในอัตราเพิ่มขึ้น 2 เท่า


GP-3392_180815_0016


โดยอัตราภาษีเหล็กนำเข้าจะปรับจาก 25% มาเป็น 50% และอะลูมิเนียมปรับจาก 10% เป็น 20% เป็นการตอบโต้ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้รัฐบาลตุรกีปล่อยตัว นายแอนดรูว์ บรันสัน บาทหลวงชาวอเมริกัน ที่ถูกจับกุมในตุรกีข้อหาจารกรรมข้อมูลและพัวพันการก่อการร้าย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ เหล็กเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 4 ของประเทศตุรกี โดยตุรกีส่งออกเหล็กไปยังสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่อันดับ 6 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยืนยันว่า จะยังคงมาตรการคว่ำบาตรและลงโทษเชิงการค้าต่อตุรกีต่อไป จนกว่าพลเมืองของสหรัฐฯรายนี้ (บาทหลวงบรันสัน) จะได้รับอิสรภาพ หลังจากที่ถูกทางการตุรกีจับกุมตัวมาตั้งแต่ปี 2559

 

[caption id="attachment_305940" align="aligncenter" width="503"] จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)[/caption]

ธปท. เกาะตลาดเงินโลก
นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด จากเหตุการณ์ในตุรกี ซึ่งความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการเงินของไทยกับตุรกียังไม่สูงมาก ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยจึงอยู่ในวงจำกัด โดย ธปท. จะติดตามผลกระทบต่อประเทศอื่น ๆ และช่องทางการส่งผ่านต่าง ๆ เพื่อประกอบการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแล โกลบัลมาร์เก็ต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผลจากค่าเงินลีราอ่อนค่าลงราว 30-40% ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงประมาณ 1% เนื่องจากตลาดหุ้นไทยเพิ่งเปิดตลาด หลังจากตลาดหุ้นประเทศอื่นร่วงไปก่อนหน้านี้แล้ว และบางแห่งเริ่มฟื้นตัวแล้ว แต่จะเห็นค่าเงินในตลาดเกิดใหม่อ่อนค่าลงไปในทิศทางเดียวกัน เพราะความไม่มั่นใจ เพราะตุรกีถือเป็นประเทศในตลาดเกิดใหม่

 

[caption id="attachment_305942" align="aligncenter" width="335"] รุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแล โกลบัลมาร์เก็ต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) รุ่ง สงวนเรือง ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแล โกลบัลมาร์เก็ต
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)[/caption]

อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยจะเป็นในลักษณะทางอ้อม เนื่องจากไทยอยู่ตลาดเกิดใหม่ ซึ่งนักลงทุนกองทุนต่างประเทศจะมองเป็นกองเดียวกันหมด เมื่อมีปัญหาก็จะเทขายทั้งหมด แม้ว่าไทยจะไม่ได้เป็นศูนย์กลางของเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากตลาดการเงินเชื่อมโยงถึงกันหมด ส่วนผลต่อการลงทุนโดยตรงระหว่างไทยและตุรกีมีสัดส่วนไม่ถึง 1% ดังนั้น ผลกระทบทางอ้อมจึงไม่น่าจะสูงมากนัก พร้อมเชื่อว่าท้ายที่สุด ตุรกีอาจจะต้องได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คล้ายคลึงกับปี 2540 แต่จะไม่ขยายวงกว้างไปสู่ประเทศอื่น

"ประเทศไทยและตลาดเกิดใหม่จะเป็นแค่แรงกระแทก ทำให้ค่าเงินบาทอ่อน หุ้นร่วง แต่มองว่า เหตุการณ์ไม่น่าจะลากยาวและลามไปสู่ประเทศอื่น ส่วนค่าเงินอาจจะผันผวนระยะสั้น กรอบน่าจะอยู่ที่ 33.20-33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสถานการณ์ไม่น่าจะเกิน 1 เดือน"

 

[caption id="attachment_305943" align="aligncenter" width="416"] จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย[/caption]

เงินร้อนหนีตุรกีเข้าไทย
นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน ตุรกียังไม่มีมาตรการดูแลตลาดเงิน เบื้องต้น ได้ส่งผลต่อสกุลเงินลีราอ่อนค่าลง เนื่องจากความเชื่อมั่นภาครัฐที่ถดถอยลง เห็นได้จากผลกระทบต่อสกุลเงินเปโซของอาร์เจนตินาอ่อนค่า 8.5% สกุลเงินรูเบิลของรัสเซีย 6.4% สกุลเงินแอฟริกาอ่อนค่า 5.3% เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม รอบนี้ผลกระทบสกุลเงินบาทกลับสะท้อนการอ่อนค่าน้อย สาเหตุหลักนอกจากไทยเกินดุลการค้าค่อนข้างสูงแล้ว พื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังดี ซึ่งแนวโน้มมีโอกาสที่นักลงทุนจะหนีตุรกีย้ายเข้ามาลงทุนในไทย ส่วนตลาดทุนนั้นมีโอกาสผันผวนตามตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ที่ปรับตัว จีนและญี่ปุ่นยังผันผวนต่ำ ซึ่งข้อดีของตลาดหุ้นทั้ง 3 ประเทศ ในช่วงสั้นยังเป็นตลาดที่นักลงทุนให้ความสนใจ สำหรับทองคำ แม้สกุลเงินลีราจะอ่อนค่า แต่นักลงทุนไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมาถือทองคำ เพราะรอบนี้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกปรับเพิ่มและอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับต่ำ


Turkey-President-770x433

"ตุรกีเป็นด่านหน้าของกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่ จึงมีความผันผวนมาก ประกอบกับภาคธุรกิจของยุโรป ทั้งสเปน โปรตุเกส เข้าไปทำธุรกิจในตุรกีมาก ถ้าเกิดผลกระทบต่อภาคการเงิน ย่อมฉุดภาคธุรกิจซึมตาม โดยที่ตอนนี้ ตุรกียังไม่มีมาตรการดูแลตลาดเงิน แนวโน้ม ถ้าไม่ขอความช่วยเหลือจาก IMF อาจขยายวงเข้าสู่การล้มละลาย"


สหรัฐฯ รายได้ภาษีเพิ่ม
ขณะเดียวกัน หน่วยงานวิจัยของรัฐสภาสหรัฐฯ (ซีอาร์เอส) ได้ประมาณการว่า ภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือน หรือ นับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ถึง 16 ก.ค. 2561 หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศเพิ่มอัตราภาษีการนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียม 25% และ 10% ตามลำดับนั้น ปรากฏว่า สามารถเก็บภาษีในส่วนนี้ได้เพิ่มขึ้นถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นภาษีที่เรียกเก็บได้จากเหล็กนำเข้า 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และจากอะลูมิเนียมนำเข้า 344.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


MP-10-3228-b

ซีอาร์เอส คาดการณ์ว่า ในปี 2561 นี้ สหรัฐฯ จะมีรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ปรับอัตราเพิ่มสูงขึ้นนี้ ได้ถึง 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเป็นรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 5,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอะลูมิเนียม 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประเมินจากปริมาณการนำเข้าในปี 2560

ประธานาธิบดีทรัมป์ โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า รายได้จากภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บเพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถลดตัวเลขการขาดดุลการคลัง ที่เมื่อเดือน ก.ค. พุ่งขึ้นไปแตะระดับ 77,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว ... "หรืออย่างน้อย มันก็ทำให้เรามีข้อต่อรองทางการค้าที่ดีขึ้นสำหรับประเทศของเรา" ทรัมป์ ระบุ


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,392 วันที่ 16-18 ส.ค. 2561 หน้า 01-02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ตุรกี ตอบโต้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-บุหรี่จากสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าจากวิกฤตทางการเงินในตุรกี
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว