ลับเฉพาะ!ที่นี่ที่เดียว "ประสิทธิ์" ดึงตร.ใหญ่ เคลียร์คดี "บิตคอยน์ฉาว"
[caption id="attachment_305191" align="aligncenter" width="408"]
ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ[/caption]
“เสี่ยประสิทธิ์”ขาใหญ่ในตลาดหุ้นดิ้นหนัก ยืมมือนายตำรวจใหญ่เป็นตัวกลางเจรจา “แตงโม”ภรรยาเออาร์นี่ โอตาวา นักลงทุนฟินแลนด์ หาวิธีคืนเงินบิตคอยต์-หุ้นดีเอ็นเอฯ- บล.แอพเพิล เวลธ์ฯ ด้าน”เฮียม้อ-อมฤทธิ์”การันตีบริษัทดีเอ็นเอไม่เกี่ยวคดีฉ้อโกง-ฟอกเงินฉาว 800 ล้าน
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เปิดเผยว่า จากการสืบในทางลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีฉ้อโกงเงินดิจิทัลร่วม 800 ล้านบาท และการสร้างราคาหุ้นในหลายรายการของกลุ่มนายปริญญา จารวิจิต นายจิรัชพิสิษฐ์(บูม) จารวิจิต ดารานักแสดงชื่อดัง และกลุ่มนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าของผู้ก่อตั้ง บล. แอพเพิล เวลธ์ พบว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.แตงโม ภรรยาวัย 23 ปีของนายเออาร์นี่ โอตาวา ชาวฟินแลนด์ ได้ขอร้องให้ผู้ใหญ่ในวงการรายหนึ่งเป็นตัวกลางในการช่วยเจรจายุติปัญหาการฉ้อโกงอันอื้อฉาวด้วยการขอเงินต้นคืน จากกลุ่มนายปริญญาและนายประสิทธิ์ ที่เป็นไฮโซขาใหญ่ในตลาดหุ้นที่เป็นคนชักจูงให้โอนบิตคอยต์มาลงทุนในดราก้อน คอยต์ และหุ้นรวมกันเกือบ 800 ล้านบาท
ขณะที่มีรายงานว่า ในช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 11 ส.ค. 2561 นายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นอดีตประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ ได้ร้องขอให้นายตำรวจผู้ใหญ่รายหนึ่ง เป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยเจรจากับน.ส.แตงโม ในที่รโหฐานแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ
“มีรายงานว่านายประสิทธิ์ยืนยันว่า จะคืนเงินในส่วนที่ตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันชักจูงให้นายเออาร์นี่ และน.ส.แตงโม เข้ามาลงทุนทั้งในส่วนของดราก้อน คอยต์ และเงินลงทุนซื้อหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ 2000 จำกัด (มหาชน) และเงิน ลงทุนในหุ้น บล.แอพเพิล เวลธ์ จำนวนหนึ่ง แต่ขอให้น.ส.แตงโมและนายเออาร์นี่ถอนฟ้องคดีทั้งหมด แต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเงินที่กลุ่มนายปริญญาและนายคริส หรือ จักกริช อาหมัด ยักย้ายถ่ายโอนออกไปจากดราก้อนคอยต์ และบริษัท ไว กรุ๊ป กว่า 400 ล้านบาท เพราะไม่รู้ ไม่เกี่ยว” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ผ่านมานายประสิทธิ์พยายามแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับการฉ้อโกงเงินและการสร้างราคาหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ แต่ในความเป็นจริงจากการสืบสาวเส้นทางการเงินพบว่านายประสิทธิ์ เข้าไปเกี่ยวพันทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายกรณี เช่น ตอนที่นายเออาร์นี่และน.ส.แตงโมมีการโอนเงินเข้ากระเป๋าอี-วอลเล็ตร่วม 750 ล้านบาท และต่อมาพบว่านายประสิทธิ์โอนเงินบางส่วนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายประสิทธิ์ยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น ที่ฮ่องกง มีเอกสารว่าเกี่ยวข้องกับบริษัท ไวท์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่ดุแลการรับชำระเงินดิจิทัล จากการขายไอซีโอ ดราก้อนคอยต์ นายประสิทธิ์ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขายหุ้น DNA ให้นายเออาร์นี่และน.ส.แตงโม แต่โอนไม่ได้ นายประสทธิ์กับลูกน้องได้ร่วมทุนกับนายเออาร์นี่ ตั้งบริษัท เอ็กเพย์ ซอร์ฟแวร์ ขึ้นมาด้วย
“ข้อมูลเอกสารทั้งหมดโยงกันชัดว่า นายประสิทธิ์เข้าไปเกี่ยวพัน และมีการสั่งการให้ลูกน้องอีก 3 คน เป็นผู้ดำเนินการทางเอกสาร” แหล่งข่าวซึ่งเป็นตำรวจนายหนึ่งระบุ
ขณะที่นายประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีส่วนกับการฉ้อโกงใดๆทั้งสิ้น แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายเออาร์นี่ น.ส.แตงโม ที่เป็นคนเก่งและรู้เรื่องบิตคอยต์ เงินดิจิทัล และรู้จักเป็นเพื่อกับนายปริญญาที่เก่งในเรื่องตลาดดิจิทัล
[caption id="attachment_305200" align="aligncenter" width="503"]
อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ[/caption]
"อมฤทธิ์" ยันดีเอ็นเอไม่เกี่ยวข้อง"บิตคอยน์ฉาว"
ด้านนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2000 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขอยืนยันความจริงว่า บริษัท ดีเอ็นเอไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีฉ้อโกงบิตคอยน์ที่เป็นข่าวในขณะนี้ และรู้สึกกังวลกับข่าวที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะกระทบกับราคาและความเชื่อถือในธุรกิจหลักของบริษัท
“ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผมยืนยันว่า ทำงานเพื่อดูแลประโยชน์ของธุรกิจ ผู้ถือหุ้นเต็มที่ ผมเสนอตัดขายหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเกม บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล ทั้งบริษัท ไว โฮลดิ้งกรุ๊ป หรือบริษัทอื่นๆที่ก่อนหน้านี้นายปริญญาที่เข้ามาเป็นกรรมการพักหนึ่ง ได้เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการแทบทั้งหมด เพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจของบริษัท แต่จะไม่ยอมให้เข้าไปยุ่งกับการสร้างฝัน สร้างราคา แต่องค์กรไม่รู้ลึกไม่รู้จริงไม่ได้
เราไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในการโกง แต่เรารู้จักทั้งคุณประสิทธิ์และคุณปริญญา แต่เราไม่เอาด้วยกับการทำงานที่ไม่ถนัด ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ล้วนถือคติการทำงานแบบนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนบริษัท ดีเอ็นเอ กำลังกลายเป็นตัวประกันในเกมนี้ โดยไม่มีโอกาสอธิบาย และเราไม่รู้เรื่องการสร้างราคา การดันราคา การขายหุ้นกันเลย และพร้อมจะให้ข้อมูลนักลงทุน” นายอมฤทธิ์ยืนยัน
“เสี่ยประสิทธิ์”ขาใหญ่ในตลาดหุ้นดิ้นหนัก ยืมมือนายตำรวจใหญ่เป็นตัวกลางเจรจา “แตงโม”ภรรยาเออาร์นี่ โอตาวา นักลงทุนฟินแลนด์ หาวิธีคืนเงินบิตคอยต์-หุ้นดีเอ็นเอฯ- บล.แอพเพิล เวลธ์ฯ ด้าน”เฮียม้อ-อมฤทธิ์”การันตีบริษัทดีเอ็นเอไม่เกี่ยวคดีฉ้อโกง-ฟอกเงินฉาว 800 ล้าน
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม เปิดเผยว่า จากการสืบในทางลับของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีฉ้อโกงเงินดิจิทัลร่วม 800 ล้านบาท และการสร้างราคาหุ้นในหลายรายการของกลุ่มนายปริญญา จารวิจิต นายจิรัชพิสิษฐ์(บูม) จารวิจิต ดารานักแสดงชื่อดัง และกลุ่มนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าของผู้ก่อตั้ง บล. แอพเพิล เวลธ์ พบว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา น.ส.แตงโม ภรรยาวัย 23 ปีของนายเออาร์นี่ โอตาวา ชาวฟินแลนด์ ได้ขอร้องให้ผู้ใหญ่ในวงการรายหนึ่งเป็นตัวกลางในการช่วยเจรจายุติปัญหาการฉ้อโกงอันอื้อฉาวด้วยการขอเงินต้นคืน จากกลุ่มนายปริญญาและนายประสิทธิ์ ที่เป็นไฮโซขาใหญ่ในตลาดหุ้นที่เป็นคนชักจูงให้โอนบิตคอยต์มาลงทุนในดราก้อน คอยต์ และหุ้นรวมกันเกือบ 800 ล้านบาท
“มีรายงานว่านายประสิทธิ์ยืนยันว่า จะคืนเงินในส่วนที่ตัวเองเข้าไปเกี่ยวพันชักจูงให้นายเออาร์นี่ และน.ส.แตงโม เข้ามาลงทุนทั้งในส่วนของดราก้อน คอยต์ และเงินลงทุนซื้อหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ 2000 จำกัด (มหาชน) และเงิน ลงทุนในหุ้น บล.แอพเพิล เวลธ์ จำนวนหนึ่ง แต่ขอให้น.ส.แตงโมและนายเออาร์นี่ถอนฟ้องคดีทั้งหมด แต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเงินที่กลุ่มนายปริญญาและนายคริส หรือ จักกริช อาหมัด ยักย้ายถ่ายโอนออกไปจากดราก้อนคอยต์ และบริษัท ไว กรุ๊ป กว่า 400 ล้านบาท เพราะไม่รู้ ไม่เกี่ยว” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ที่ผ่านมานายประสิทธิ์พยายามแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เกี่ยวกับการฉ้อโกงเงินและการสร้างราคาหุ้นบริษัท ดีเอ็นเอ แต่ในความเป็นจริงจากการสืบสาวเส้นทางการเงินพบว่านายประสิทธิ์ เข้าไปเกี่ยวพันทั้งทางตรงและทางอ้อมหลายกรณี เช่น ตอนที่นายเออาร์นี่และน.ส.แตงโมมีการโอนเงินเข้ากระเป๋าอี-วอลเล็ตร่วม 750 ล้านบาท และต่อมาพบว่านายประสิทธิ์โอนเงินบางส่วนเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพและธนาคารกสิกรไทย
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายประสิทธิ์ยังเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น ที่ฮ่องกง มีเอกสารว่าเกี่ยวข้องกับบริษัท ไวท์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่ดุแลการรับชำระเงินดิจิทัล จากการขายไอซีโอ ดราก้อนคอยต์ นายประสิทธิ์ยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับการขายหุ้น DNA ให้นายเออาร์นี่และน.ส.แตงโม แต่โอนไม่ได้ นายประสทธิ์กับลูกน้องได้ร่วมทุนกับนายเออาร์นี่ ตั้งบริษัท เอ็กเพย์ ซอร์ฟแวร์ ขึ้นมาด้วย
ขณะที่นายประสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็นต์ ไม่มีส่วนกับการฉ้อโกงใดๆทั้งสิ้น แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายเออาร์นี่ น.ส.แตงโม ที่เป็นคนเก่งและรู้เรื่องบิตคอยต์ เงินดิจิทัล และรู้จักเป็นเพื่อกับนายปริญญาที่เก่งในเรื่องตลาดดิจิทัล
[caption id="attachment_305200" align="aligncenter" width="503"]
"อมฤทธิ์" ยันดีเอ็นเอไม่เกี่ยวข้อง"บิตคอยน์ฉาว"
ด้านนายอมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเอ็นเอ 2000 จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขอยืนยันความจริงว่า บริษัท ดีเอ็นเอไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ กับคดีฉ้อโกงบิตคอยน์ที่เป็นข่าวในขณะนี้ และรู้สึกกังวลกับข่าวที่เกิดขึ้นอย่างมาก เพราะกระทบกับราคาและความเชื่อถือในธุรกิจหลักของบริษัท
“ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งผมยืนยันว่า ทำงานเพื่อดูแลประโยชน์ของธุรกิจ ผู้ถือหุ้นเต็มที่ ผมเสนอตัดขายหุ้นในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเกม บริษัทที่เกี่ยวข้องกับเงินดิจิทัล ทั้งบริษัท ไว โฮลดิ้งกรุ๊ป หรือบริษัทอื่นๆที่ก่อนหน้านี้นายปริญญาที่เข้ามาเป็นกรรมการพักหนึ่ง ได้เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการแทบทั้งหมด เพื่อแสวงหาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจของบริษัท แต่จะไม่ยอมให้เข้าไปยุ่งกับการสร้างฝัน สร้างราคา แต่องค์กรไม่รู้ลึกไม่รู้จริงไม่ได้
เราไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในการโกง แต่เรารู้จักทั้งคุณประสิทธิ์และคุณปริญญา แต่เราไม่เอาด้วยกับการทำงานที่ไม่ถนัด ซึ่งผู้ถือหุ้นใหญ่ล้วนถือคติการทำงานแบบนี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนบริษัท ดีเอ็นเอ กำลังกลายเป็นตัวประกันในเกมนี้ โดยไม่มีโอกาสอธิบาย และเราไม่รู้เรื่องการสร้างราคา การดันราคา การขายหุ้นกันเลย และพร้อมจะให้ข้อมูลนักลงทุน” นายอมฤทธิ์ยืนยัน
